The rest of the paper is structured

The rest of the paper is structured as follows. In the next section I develop
the theoretical framework. In subsequent sections, I trace the historical
record of the tax regime and show how my model can explain it. The
second section focuses on the regime’s founding period from the 1920s to
1950s. The third section shows how the regime setup endogenously creates
under-taxation and that, while actors could foresee this consequence,
they decided not to address it at the onset but to wait until it became
pressing. The fourth section analyzes the attempts to shore up the DTA
regime against under-taxation. In the fifth section I consider alternative
explanations. The conclusion provides a summary of my findings and a
brief discussion of their implications for future research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จัดโครงสร้างส่วนเหลือของกระดาษดังนี้ ในส่วนถัดไปที่ฉันพัฒนากรอบทฤษฎีการ ในส่วนถัดไป ฉันติดตามในประวัติศาสตร์บันทึกของระบอบภาษี และแสดงว่ารูปแบบของฉันสามารถอธิบายได้ ที่ส่วนที่สองเน้นของระบอบการปกครองระยะเวลาก่อตั้งตั้งแต่ปี 1920 เพื่อทศวรรษ 1950 ส่วนที่สาม.แสดงวิธีการตั้งค่าของระบอบ endogenously สร้างภาษีน้อยและที่ ในขณะที่นักแสดงสามารถเล็งเห็นสัจจะนี้พวกเขาตัดสินใจไม่อยู่อย่าง แต่รอจนมันกลายเป็นกด ส่วน 4 วิเคราะห์ความพยายามจุน DTAระบอบกับเสียภาษีน้อย ในส่วนห้า ต้องพิจารณาทางเลือกคำอธิบาย สรุปผลการวิจัยของฉันช่วยให้ข้อสรุปและสนทนาโดยย่อของผลการวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนที่เหลือของกระดาษมีโครงสร้างดังนี้ ในส่วนถัดไปที่ฉันพัฒนา
กรอบทางทฤษฎี ในส่วนที่ตามมา ผมติดตามบันทึกประวัติศาสตร์
ของระบอบการปกครองภาษีและแสดงวิธีแบบฉันสามารถอธิบายมันได้
ส่วนที่สองเน้นระบอบการปกครองสมัยตั้ง 1920

ปี 1950 ส่วนที่สาม แสดงให้เห็นว่า ระบอบการสร้าง endogenously
ภายใต้ภาษีที่ส่วนนักแสดงสามารถล่วงรู้ผลนี้
พวกเขาตัดสินใจที่จะไม่พูดมันในการโจมตี แต่จะรอจนกว่ามันจะกลายเป็น
กด . ส่วนที่ 4 วิเคราะห์ความพยายามไปยังฝั่งขึ้น dta
ภายใต้ระบอบกับภาษีอากร ในส่วนที่ห้าฉันพิจารณาคำอธิบายอย่างเดียว

สรุปให้สรุปของผลการวิจัยของฉันและการสนทนาสั้น ๆของพวกเขา
สำหรับการวิจัยในอนาคต