In our findings, increasing fasting

In our findings, increasing fasting blood glucose was the major independent variable associated
with hypertension. The overall prevalence of IFG in our study was lower than the Addis
Ababa report (21.6%) and similar with that of a study done in Morocco, 5.5% [8,20]. Moreover,
the computed prevalence of IFG differs significantly with areas of residence and age. The rate
increased modestly with age and highly among urban dwellers. Similarly, a study conducted in
South Africa showed the prevalence of IFG increased with age, with peak prevalence in the oldest
age-group. [21–23]. Impaired Fasting Glucose (IFG) is a predictor of the incidence of Type
2 diabetes and hypertension [23,24]. Epidemiological studies and path-physiological mechanisms
provide evidence to the co-existence of hypertension, IFG, and abdominal obesity, possibly
pointing towards a common genetic and environmental factor promoting the risk of CVD
[25,26]. Similarly, there is a strong association between abdominal obesity, rise in FBG, and hypertension which was also observed in our finding [27].Therefore, the persistent high prevalence
of IFG may be a possible predictor of a further increase in hypertension in this
population in the years to come [28].

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในผลการวิจัยของเราเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดการอดอาหารเป็นตัวแปรอิสระที่สำคัญที่เกี่ยวข้อง
กับความดันโลหิตสูง ความชุกโดยรวมของ IFG ในการศึกษาของเราต่ำกว่าแอดิ
สอาบาบารายงาน (21.6%) และคล้ายกับที่ของการศึกษาทำในโมร็อกโก, 5.5% [8,20] นอกจากนี้ยังมี
ความชุกของการคำนวณที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ IFG ที่มีพื้นที่อยู่อาศัยและอายุ อัตราการ
เพิ่มขึ้นอย่างสุภาพกับอายุและอย่างมากในหมู่ชาวเมือง ในทำนองเดียวกันการศึกษาดำเนินการใน
แอฟริกาใต้พบว่ามีความชุกของ IFG เพิ่มขึ้นกับอายุที่มีความชุกสูงสุดในที่เก่าแก่ที่สุด
กลุ่มอายุ [21-23] การถือศีลอดกลูโคสบกพร่อง (IFG) เป็นปัจจัยบ่งชี้ของอุบัติการณ์ของประเภท
ที่ 2 โรคเบาหวานและความดันโลหิต [23,24] การศึกษาระบาดวิทยาและกลไกทางสรีรวิทยาเส้นทาง
ให้หลักฐานที่จะอยู่ร่วมกันของความดันโลหิตสูง, IFG และโรคอ้วนในช่องท้องอาจจะ
ชี้ไปที่ปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมร่วมกันส่งเสริมความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
[25,26] ในทำนองเดียวกันมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างโรคอ้วนในช่องท้องเพิ่มขึ้นใน FBG และความดันโลหิตสูงซึ่งพบว่ายังอยู่ในการค้นพบของเรา [27] .Therefore ความชุกสูงถาวร
ของ IFG อาจจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ที่เป็นไปได้ของการเพิ่มขึ้นต่อไปในความดันโลหิตสูงใน
ประชากร ในปีที่ผ่านมา [28]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการค้นพบของเรา เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดตอนเช้าคือตัวแปรอิสระที่สำคัญที่เกี่ยวข้อง
กับความดันโลหิตสูง โดยความชุกของ ifg การศึกษาต่ำกว่ารายงานแอดดิสอาบาบา ( 21.6 %
) และที่คล้ายกันกับที่ของการศึกษาในโมร็อกโก 5.5 % [ 8,20 ] โดย
ส่วนความชุกของ ifg แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญกับพื้นที่ที่อยู่อาศัย และอายุ อัตรา
เพิ่มขึ้น เนื่องจากอายุและสูงในหมู่ชาวเมือง . ในทำนองเดียวกันการทดลองใน
แอฟริกาใต้ พบว่า ความชุกของ ifg เพิ่มขึ้นกับอายุ ด้วยยอดความชุกในกลุ่มอายุเก่าแก่ที่สุด

21 - [ 23 ] การอดอาหารกลูโคสบกพร่อง ( ifg ) เป็นตัวทำนายการเกิดโรคเบาหวาน และ ความดันโลหิตสูงชนิด
2 [ 23,24 ] การศึกษาระบาดวิทยาและเส้นทางใช้กลไกทางสรีรวิทยา
มีหลักฐานการอยู่ร่วมของความดันโลหิตสูง ifg และโรคอ้วนหน้าท้องอาจ
ชี้ไปที่ทั่วไปทางพันธุกรรมและปัจจัยสิ่งแวดล้อมส่งเสริมความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
[ 25,26 ] โดยมีสมาคมที่แข็งแกร่งระหว่างโรคอ้วนในช่องท้องเพิ่มขึ้น 2 และความดันโลหิตสูงซึ่งพบว่าในการค้นหา [ 27 ] ดังนั้น หมั่น
ความชุกสูงของ ifg อาจจะทำนายได้ของเพิ่มในโรคความดันโลหิตสูงในประชากรนี้
ในปีที่จะมา [ 28 ]