Even though bioethanol production i

Even though bioethanol production is common among certain
species, filamentous fungi are not well known for their abilities.
Numerous fungi are able to produce low concentrations of bioethanol
compared to S.cerevisiae, under O2 limited conditions.
Many of them have various enzymes such as xylanase, cellulase and
amylase complexes that enable the simultaneous saccharification
and fermentation with one organism. Stevenson and Weimer [8]
screened the environment for fungal strains capable of this conversion
when grown on minimal medium and it was observed that
a member of the genus Trichoderma isolated from cow dung was
able to produce 0.4 g/L bioethanol initially. In another study conducted
by Skory et al. [9] bioethanol producing filamentous fungi
were screened by testing nineteen Aspergillus species for their efficiency
of converting glucose, xylose and cellulose to bioethanol, it
was found that one strain, Aspergillus oryzae, reached nearly 100%
theoretical bioethanol yield from 50 g/l glucose. In the study of
Karimi et al. [25] Mucor indicus, Rhizopus oryzae, and S. cerevisiae
were investigated and compared with pure cellulose for the production
of bioethanol. They determined that R.oryzae had the best
bioethanol yield (74%) followed by M.indicus (68%), levels lower
than the maximum bioethanol yield obtained in the current study

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าการผลิตเอทานอลเป็นเรื่องธรรมดาในหมู่บางสายพันธุ์เชื้อราจะไม่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความสามารถของตน.
เชื้อราจำนวนมากจะสามารถผลิตความเข้มข้นต่ำของเอทานอลเมื่อเทียบกับ S.cerevisiae ภายใต้เงื่อนไขที่ จำกัด O2. หลายของพวกเขามีเอนไซม์ต่างๆเช่นไซลาเนส , เซลลูเลสและคอมเพล็กซ์อะไมเลสที่เปิดใช้งานsaccharification พร้อมกันและหมักกับหนึ่งชีวิต สตีเวนสันและ Weimer [8] การคัดเลือกสภาพแวดล้อมสำหรับสายพันธุ์เชื้อรามีความสามารถในการแปลงนี้เมื่อโตในสื่อน้อยที่สุดและได้รับการตั้งข้อสังเกตว่าสมาชิกของจำพวกเชื้อราTrichoderma ที่แยกได้จากมูลวัวที่เป็นความสามารถในการผลิต 0.4 g / L เอทานอลในตอนแรก ในการศึกษาอื่นดำเนินการโดย Skory et al, [9] เอทานอลผลิตเชื้อราได้รับการคัดเลือกจากการทดสอบเก้าสายพันธุ์เชื้อราAspergillus สำหรับประสิทธิภาพของพวกเขาในการแปลงกลูโคสไซโลสและเซลลูโลสเพื่อเอทานอลก็พบว่าหนึ่งในสายพันธุ์เชื้อราAspergillus oryzae ถึงเกือบ 100% ผลผลิตเอทานอลทางทฤษฎีจาก 50 g / l กลูโคส . ในการศึกษาของKarimi et al, [25] Mucor indicus, Rhizopus oryzae และ S. cerevisiae ถูกตรวจสอบและเปรียบเทียบกับเซลลูโลสบริสุทธิ์สำหรับการผลิตของเอทานอล พวกเขาเชื่อว่ามี R.oryzae ที่ดีที่สุดผลผลิตเอทานอล(74%) ตามด้วย M.indicus (68%) ระดับที่ต่ำกว่ากว่าผลผลิตเอทานอลสูงสุดที่ได้รับในการศึกษาในปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้ว่าการผลิตเอทานอลอยู่ทั่วไปในบางชนิดที่มีเชื้อรา
, ไม่รู้จักกันดีสำหรับความสามารถของพวกเขา .
รามากมายที่สามารถผลิตเอทานอลความเข้มข้นต่ำเมื่อเทียบกับ O2
s.cerevisiae ภายใต้เงื่อนไขจำกัด .
หลายคนมีเอนไซม์หลายชนิด เช่น เอนไซม์อะไมเลส , cellulase และเชิงซ้อนที่ช่วยให้

เส้นพร้อมกันและการหมักด้วยชีวิต สตีเวนสันและ ไวเมอร์ [ 8 ]
คัดเลือกสายพันธุ์เชื้อราสภาพแวดล้อมที่สามารถแปลงนี้
เมื่อปลูกกลาง น้อย และพบว่า
เป็นสมาชิกของเชื้อราที่แยกได้จากมูลวัวเป็นสกุล
0.4 กรัม / ลิตรสามารถผลิตเอทานอลในตอนแรก ในอีกการศึกษา
โดยผิวหนัง et al . [ 9 ] เอทานอลผลิตเส้นใยเชื้อรา
มีจำนวนชนิดของเชื้อโดยการทดสอบประสิทธิภาพ
แปลงกลูโคสและไซโลสเซลลูโลสเอทานอลมัน
พบว่าหนึ่งสายพันธุ์ Aspergillus oryzae ถึงเกือบ 100 %
ทฤษฎีผลผลิตเอทานอลจาก 50 กรัมต่อลิตรและกลูโคส ในการศึกษา
karimi et al . [ 25 ] Mucor ปลักร้ Rhinoceros และ S . cerevisiae
ทำการเปรียบเทียบกับเซลลูโลสบริสุทธิ์เพื่อการผลิตเอทานอล
. พวกเขาตัดสินว่า r.oryzae ได้ผลผลิตเอทานอลดีที่สุด
( 74% ) รองลงมา คือ m.indicus ( 68% ) ระดับล่าง
กว่าเอทานอลผลผลิตสูงสุดในการศึกษาปัจจุบัน