A numerical simulation is used to d

A numerical simulation is used to determine the effective resonance period, quality factor Q and linear friction coefficient and mechanism of tide and storm surge in the Gulf of Thailand. The results indicated that the resonance response is triggered by the forced wave with the period of 20.25 hours. The Q factor and linear friction coefficient are approximately 3.15 and 2.76×10−5 ms−1, respectively. The gulf is regarded as a moderately dissipative system, which may yield small amplification for the oscillating forced wave. The resonance structure of the basin can play an important role in spatial distribution and amplification of tidal waves in the Gulf of Thailand and nearby area. Distance from the effective resonance period and the corresponding Q factor can be employed in characterizing of tidal amplification in the gulf. The study found that phase difference in the incoming tidal waves can induce the distortion of a nodal band to the normal mode analysis results. The resonance in the north–south direction is the principal mechanism to control tidal waves, specifically for the upper part of the gulf (the Gulf of Thailand). However, significant effect of resonance in the west–east direction on the amplification of tidal waves near the southern part of the gulf (Vietnam, Malaysia and Singapore coast) may be pronounced. From the reproduced historic storm surge and hypothetical results, the spatial distribution of storm surge elevation and the response ratio are in good agreement with the resonance mode and Q factor of the basin. Individually, the contribution of resonance factor to induce severe storm surge (positive surge) tends to be insignificant. Conversely, the interaction process between the disturbance system and the propagating surge wave in the gulf can induce large positive surge near the landfall location significantly.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การจำลองเชิงตัวเลขจะใช้เพื่อกำหนดระยะเวลาสะท้อนประสิทธิภาพ ปัจจัยคุณภาพ Q และค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเชิงเส้น และกลไกของคลื่นไทด์และพายุในอ่าวไทย ผลลัพธ์แสดงว่า การตอบสนองเสียงทริกเกอร์ โดยคลื่นบังคับระยะเวลาเวลา 20.25 Q ปัจจัยและค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเชิงเส้นคือ ประมาณ 3.15 และ 2.76 × 10−5 ms−1 ตามลำดับ อ่าวถือว่าเป็นระบบปานกลาง dissipative ซึ่งอาจให้ผลขยายขนาดเล็กสำหรับบังคับคลื่นการสั่น โครงสร้างเสียงสะท้อนของแอ่งน้ำสามารถเล่นบทบาทสำคัญในการกระจายตัวเชิงพื้นที่และการขยายของคลื่นยักษ์ ในอ่าวไทย และพื้นที่ใกล้เคียง ระยะเวลาเสียงสะท้อนที่มีประสิทธิภาพและตัว Q ที่สอดคล้องกันสามารถนำมาใช้ในการศึกษาของขยายยาวในอ่าว ผลการศึกษาพบว่า ความแตกต่างเฟสในคลื่นยักษ์เข้ามาสามารถก่อให้เกิดความผิดเพี้ยนของวงดนตรีดังผลการวิเคราะห์โหมดปกติ เสียงสะท้อนในทิศเหนือ-ใต้เป็นกลไกหลักในการควบคุมคลื่นยักษ์ โดยเฉพาะสำหรับส่วนบนของอ่าว (อ่าวไทย) อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของเสียงสะท้อนในทิศตะวันตก – ตะวันออกในการขยายสัญญาณของคลื่นยักษ์ใกล้ทางตอนใต้ของอ่าว (ชายฝั่งเวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์) อาจออกเสียง จากคลื่นพายุซ้ำประวัติศาสตร์และผลสมมุติ การกระจายเชิงพื้นที่ของพายุไฟกระชากสูงและอัตราการตอบสนองอยู่ในสัญญาดีโหมดเรโซแนนซ์และสัดส่วนของ Q ของแอ่งน้ำ มีเอกลักษณ์ สัดส่วนของเสียงสะท้อนปัจจัยเพื่อก่อให้เกิดพายุรุนแรงไฟกระชาก (surge บวก) มักจะ ไม่มีนัยสำคัญ กระบวนการปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบไฟฟ้าและคลื่นคลื่นเผยแพร่ในอ่าวสามารถก่อให้เกิดไฟกระชากบวกขนาดใหญ่ใกล้กับที่ตั้งแผ่นดินอย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จำลองเชิงตัวเลขที่ใช้ในการกำหนดช่วงเวลาที่เสียงสะท้อนที่มีประสิทธิภาพมีคุณภาพ Q ปัจจัยและแรงเสียดทานเชิงเส้นและกลไกของน้ำขึ้นน้ำลงและคลื่นพายุในอ่าวไทย ผลการวิจัยพบว่าการตอบสนองเสียงสะท้อนจะถูกเรียกโดยคลื่นบังคับกับช่วงเวลา 20.25 ชั่​​วโมง ปัจจัยที่ Q และค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเชิงเส้นจะอยู่ที่ประมาณ 3.15 และ 2.76 × 10-5 MS-1 ตามลำดับ อ่าวถือได้ว่าเป็นระบบ dissipative ปานกลางซึ่งอาจก่อให้ขยายขนาดเล็กสำหรับคลื่นสั่นบังคับ โครงสร้างเสียงสะท้อนของอ่างสามารถมีบทบาทสำคัญในการกระจายเชิงพื้นที่และการขยายของคลื่นยักษ์ในอ่าวไทยและบริเวณใกล้เคียง ระยะทางจากงวดเสียงสะท้อนที่มีประสิทธิภาพและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง Q สามารถใช้การกำหนดลักษณะเฉพาะของการขยายน้ำขึ้นน้ำลงในอ่าวไทย การศึกษาพบว่าความแตกต่างขั้นตอนในคลื่นที่เข้ามาสามารถทำให้เกิดการบิดเบือนของวงดนตรีสำคัญไปยังผลการวิเคราะห์โหมดปกติ เสียงสะท้อนในทิศทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นกลไกหลักในการควบคุมคลื่นเฉพาะสำหรับส่วนบนของอ่าว (อ่าวไทย) อย่างไรก็ตามผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของเสียงสะท้อนในทิศทางตะวันตกตะวันออกในการขยายของคลื่นที่อยู่ใกล้กับทางตอนใต้ของอ่าวที่ (เวียดนามมาเลเซียและสิงคโปร์ชายฝั่ง) อาจจะเด่นชัด จากการทำซ้ำพายุคลื่นประวัติศาสตร์และผลการประมาณการการกระจายเชิงพื้นที่ระดับความสูงของคลื่นพายุและอัตราการตอบสนองอยู่ในข้อตกลงที่ดีกับโหมดเสียงสะท้อนและคิวปัจจัยของอ่าง เป็นรายบุคคลมีส่วนร่วมของปัจจัยเสียงสะท้อนที่จะทำให้เกิดคลื่นพายุรุนแรง (คลื่นบวก) มีแนวโน้มที่จะไม่มีนัยสำคัญ ตรงกันข้ามกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่างระบบการรบกวนและคลื่นขยายพันธุ์คลื่นในอ่าวไทยสามารถทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ในเชิงบวกที่อยู่ใกล้กับสถานที่ตั้งของแผ่นดินอย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การจำลองเชิงตัวเลขที่ใช้ในการตรวจสอบระยะเวลาเรโซแนนซ์ที่มีประสิทธิภาพ ปัจจัยคุณภาพ Q และสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเชิงเส้นและกลไกของกระแสน้ำ และคลื่นพายุในอ่าวไทย ผลการศึกษาพบว่า เสียงสะท้อน การตอบสนองจะถูกทริกเกอร์ โดยการบังคับให้คลื่นด้วย เวลา 20.25 ชั่วโมง Q ปัจจัยและสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเส้นตรงประมาณ 3.15 และ 2.76 × 10 − 5 ms − 1 ตามลำดับ เป็นอ่าวที่ถือว่าเป็นระบบ dissipative ปานกลาง ซึ่งอาจให้ผลขยายเสียงขนาดเล็กสำหรับสั่นบังคับคลื่น เสียงสะท้อน โครงสร้างของแอ่งสามารถมีบทบาทสำคัญในการกระจายทางพื้นที่และขยายของน้ำขึ้นน้ำลงคลื่นในอ่าวไทยและบริเวณใกล้เคียง ระยะทางจากช่วงเสียงที่มีประสิทธิภาพและปัจจัยคิวที่สามารถใช้ในลักษณะของการเพิ่มปริมาณของน้ำขึ้นน้ำลงในอ่าวไทย ผลการศึกษาพบว่า ความแตกต่างของเฟสในเข้ามาเกาะกระแสคลื่นสามารถทำให้เกิดการบิดเบือนของกลุ่มแต่ละผลวิเคราะห์โหมดปกติ เสียงสะท้อนในทิศเหนือ–ใต้ทิศทางเป็นกลไกหลักในการควบคุมป้องกันคลื่น โดยเฉพาะตอนบนของอ่าวไทย ( อ่าวไทย ) อย่างไรก็ตาม ผลของการสะท้อนในตะวันตก - ตะวันออกทิศทางในการสื่อสารโดยคลื่นใกล้ส่วนใต้ของอ่าว ( เวียดนาม มาเลเซีย และฝั่งสิงคโปร์ ) อาจจะชัดเจน จากผลของพายุและทำซ้ำประวัติศาสตร์กระแสสมมุติในการกระจายเชิงพื้นที่ของคลื่นพายุซัดฝั่งสูงและอัตราการตอบสนองอยู่ในข้อตกลงกับเรโซแนนซ์โหมดและ Q factor ของแอ่ง แต่ละส่วนของปัจจัยเรโซชวนกระชากพายุรุนแรง ( กระชากบวก ) มีแนวโน้มที่จะแตกต่างกัน ในทางกลับกัน กระบวนการปฏิสัมพันธ์ระหว่างระบบและแพร่กระจายคลื่นรบกวนคลื่นในอ่าวไทย ก่อให้เกิดกระแสบวกขนาดใหญ่ใกล้สถานที่แผ่นดินอย่างมาก