3.3. Benefits of corn phytoattenuat

3.3. Benefits of corn phytoattenuation
The data collected in this study indicated that the mean dry matter weight of spring and summer corn plants was 302 g and 258 g, respectively (overall mean, 280 g). Corn can be planted two to three times per year in Taiwan. Assume that corn is planted in twice per year, with a row spacing of 30 cm and plant spacing of 20 cm. Table 4 shows the dry biomass, lead removal, and bioenergy produced by the harvested corn. Annually, each hectare of corn can produce approximately 93.37 tons of dry matter; the weight (total percentage of biomass) of the roots, stems, leaves, bracteal leaves, corn cobs, and corn kernels is 6.73 (7.2%), 25.83 (27.7%), 14.17 (15.2%), 12.43 (13.3%), 9.13 (9.8%), and 25.07 (26.8%) tons. According to the lead concentration in the various corn parts, each corn plant could absorb approximately 21.5 mg of lead, and thus, each hectare of corn can remove approximately 7.2 kg of lead from the soil. The heat combustion measurement results showed that each corn plant produced 4635 kJ when burned. Therefore, burning a hectare of corn can produce 1545 GJ/yr, which is equivalent to the energy from burning 57 tons of hard coal (6500 kcal/kg). If hard coal is priced at US$120/ton, the maximal economic value of heat generated each year would be US$6840. The results suggested that the lead content in the corn kernels was lower than the standard limits set on the lead content for food consumer by animals. If the corn kernels were used as animal feed, each hectare of land would produce approximately 25 tons of corn kernels per year. Assuming that the mean price of the corn kernels is US$0.4/kg, a hectare of corn could produce approximately US$10,000 per year. In addition, the remaining parts of the corn, including the roots, stems, leaves, and cobs, could provide energy that is equivalent to the heat energy obtained from 40 tons of hard coal combustion, which is valued at approximately US$4800. Thus, the maximal annual revenue from these two sources is US$14,800. Because the lead concentration in the corn kernels was less than the standard limit set on lead content for food consumed by animals, corn kernels could be used for animal feed, which is more valuable than using them to produce energy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.3. ประโยชน์ของข้าวโพด phytoattenuationThe data collected in this study indicated that the mean dry matter weight of spring and summer corn plants was 302 g and 258 g, respectively (overall mean, 280 g). Corn can be planted two to three times per year in Taiwan. Assume that corn is planted in twice per year, with a row spacing of 30 cm and plant spacing of 20 cm. Table 4 shows the dry biomass, lead removal, and bioenergy produced by the harvested corn. Annually, each hectare of corn can produce approximately 93.37 tons of dry matter; the weight (total percentage of biomass) of the roots, stems, leaves, bracteal leaves, corn cobs, and corn kernels is 6.73 (7.2%), 25.83 (27.7%), 14.17 (15.2%), 12.43 (13.3%), 9.13 (9.8%), and 25.07 (26.8%) tons. According to the lead concentration in the various corn parts, each corn plant could absorb approximately 21.5 mg of lead, and thus, each hectare of corn can remove approximately 7.2 kg of lead from the soil. The heat combustion measurement results showed that each corn plant produced 4635 kJ when burned. Therefore, burning a hectare of corn can produce 1545 GJ/yr, which is equivalent to the energy from burning 57 tons of hard coal (6500 kcal/kg). If hard coal is priced at US$120/ton, the maximal economic value of heat generated each year would be US$6840. The results suggested that the lead content in the corn kernels was lower than the standard limits set on the lead content for food consumer by animals. If the corn kernels were used as animal feed, each hectare of land would produce approximately 25 tons of corn kernels per year. Assuming that the mean price of the corn kernels is US$0.4/kg, a hectare of corn could produce approximately US$10,000 per year. In addition, the remaining parts of the corn, including the roots, stems, leaves, and cobs, could provide energy that is equivalent to the heat energy obtained from 40 tons of hard coal combustion, which is valued at approximately US$4800. Thus, the maximal annual revenue from these two sources is US$14,800. Because the lead concentration in the corn kernels was less than the standard limit set on lead content for food consumed by animals, corn kernels could be used for animal feed, which is more valuable than using them to produce energy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.3 ประโยชน์ของข้าวโพด phytoattenuation
การเก็บรวบรวมข้อมูลในการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยน้ำหนักแห้งของฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนพืชข้าวโพด 302 กรัมและ 258 กรัมตามลำดับ (โดยรวมหมายถึง 280 กรัม) ข้าวโพดสามารถปลูก 2-3 ครั้งต่อปีในไต้หวัน สมมติข้าวโพดที่ปลูกในสองครั้งต่อปีโดยมีระยะห่างแถว 30 ซม. และระยะปลูก 20 ซม ตารางที่ 4 แสดงชีวมวลแห้งกำจัดตะกั่วและพลังงานชีวภาพที่ผลิตจากข้าวโพดที่เก็บเกี่ยว เป็นประจำทุกปี, เฮคเตอร์ของข้าวโพดแต่ละคนจะสามารถผลิตประมาณ 93.37 ตันของวัตถุแห้ง; น้ำหนัก (ร้อยละรวมของชีวมวล) ของรากลำต้นใบใบ bracteal, ซังข้าวโพดและเมล็ดข้าวโพดคือ 6.73 (7.2%) 25.83 (27.7%) 14.17 (15.2%) 12.43 (13.3%) 9.13 (9.8%) และ 25.07 (26.8%) ตัน ตามความเข้มข้นของตะกั่วในส่วนข้าวโพดต่างๆแต่ละต้นข้าวโพดสามารถดูดซับประมาณ 21.5 มิลลิกรัมของสารตะกั่วและทำให้เฮกตาร์ของข้าวโพดแต่ละคนจะสามารถลบประมาณ 7.2 กิโลกรัมนำมาจากดิน ผลการตรวจวัดการเผาไหม้ความร้อนพบว่าโรงงานข้าวโพดแต่ละผลิต 4635 กิโลจูลเมื่อเผา ดังนั้นการเผาไหม้เฮกตาร์ของข้าวโพดสามารถผลิต 1545 GJ / ปีซึ่งเทียบเท่ากับพลังงานจากการเผาไหม้ 57 ตันของถ่านหินอย่างหนัก (6500 กิโลแคลอรี / กิโลกรัม) หากถ่านหินยากมีราคาอยู่ที่ US $ 120 / ตันมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุดของความร้อนที่เกิดในแต่ละปีจะเป็น US $ 6,840 ผลการชี้ให้เห็นว่าปริมาณตะกั่วในเมล็ดข้าวโพดต่ำกว่าขีด จำกัด ที่ตั้งอยู่บนมาตรฐานปริมาณตะกั่วสำหรับผู้บริโภคอาหารสัตว์ ถ้าเมล็ดข้าวโพดถูกนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์, เฮคเตอร์ของที่ดินแต่ละคนจะผลิตประมาณ 25 ตันของเมล็ดข้าวโพดต่อปี สมมติว่าราคาเฉลี่ยของเมล็ดข้าวโพดอยู่ที่ US $ 0.4 / กกเฮกตาร์ของข้าวโพดสามารถผลิตประมาณ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี นอกจากนี้ในส่วนที่เหลือของข้าวโพดรวมทั้งรากลำต้นใบและค็อบ, สามารถให้พลังงานที่เทียบเท่ากับพลังงานความร้อนที่ได้จาก 40 ตันของการเผาไหม้ถ่านหินแข็งซึ่งมีมูลค่าประมาณ US $ 4,800 ดังนั้นรายได้ประจำปีสูงสุดจากทั้งสองแหล่งที่มาอยู่ที่ US $ 14,800 เพราะความเข้มข้นของสารตะกั่วในเมล็ดข้าวโพดได้น้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งอยู่บนเนื้อหาที่นำอาหารที่บริโภคโดยสัตว์, เมล็ดข้าวโพดสามารถนำมาใช้สำหรับอาหารสัตว์ที่มีคุณค่ามากขึ้นกว่าการใช้พวกเขาในการผลิตพลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.3 . ประโยชน์ของข้าวโพด phytoattenuation
เก็บรวบรวมข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ พบว่า ค่าเฉลี่ยน้ำหนักแห้งของฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนพืชข้าวโพด 302 กรัมและ 258 กรัม ตามลำดับ ( โดยรวมหมายถึง , 280 กรัม ) ข้าวโพดสามารถปลูกได้ 2-3 ครั้งต่อปี ในไต้หวัน สมมติว่าเป็นข้าวโพดที่ปลูกใน 2 ครั้งต่อปี มีระยะห่างระหว่างแถวปลูกพืช 30 เซนติเมตร และระยะห่าง 20 ซม. ตารางที่ 4 แสดงมวลชีวภาพแห้งการกำจัดตะกั่วและพลังงานที่ผลิตโดยเก็บเกี่ยวข้าวโพด ปี แต่ละไร่ข้าวโพด สามารถผลิตได้ประมาณ 93.37 ตันแห้ง ; น้ำหนัก ( เปอร์เซ็นต์รวมของชีวมวล ) ของราก , ลำต้น , ใบ , ใบ , bracteal ซังข้าวโพดและข้าวโพดเป็น 6.73 ( 7.2% ) , 7 ( 7.7 ร้อยละ 14.17 ( 15.2% ) , 25.1% PVC ( 13.3% ) 9.13 , ( 9.8% ) และ 25.07 ( 26.8 % ) ตันไปตามความเข้มข้นของตะกั่วในส่วนข้าวโพดต่างๆ ที่แต่ละโรงงานสามารถดูดซับข้าวโพดประมาณ 21.5 mg ของตะกั่ว และดังนั้น ในแต่ละไร่ข้าวโพด สามารถเอาประมาณ 7.2 กิโลกรัมของตะกั่วจากดิน ผลการวัดการเผาไหม้ความร้อนพบว่า แต่ละโรงงานผลิตข้าวโพด 4635 KJ เมื่อเผาไหม้ ดังนั้น เผาไร่ข้าวโพด สามารถผลิตของ GJ / ปีซึ่งเทียบเท่ากับพลังงานที่ได้จากการเผาไหม้ถ่านหินหนัก 57 ตัน ( 6 , 500 กิโลแคลอรี / กิโลกรัม ) ถ้าถ่านหินหนัก ราคาอยู่ที่ 120 เหรียญสหรัฐ / ตัน มูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุดของความร้อนที่สร้างขึ้นในแต่ละปีจะเป็น US $ รวมถึง . ผลการศึกษาพบว่าปริมาณตะกั่วในเมล็ดข้าวโพดต่ำกว่ามาตรฐาน จำกัด กำหนดเนื้อหา ส่งผลให้ผู้บริโภคอาหารจากสัตว์ ถ้าข้าวโพดที่ใช้เป็นอาหารสัตว์แต่ละเฮคเตอร์ของที่ดินจะผลิตเมล็ดข้าวโพดประมาณ 25 ตัน ต่อปี สมมติว่าหมายความว่าราคาของเมล็ดข้าวโพดเป็น US $ 0.4/kg , ไร่ข้าวโพด สามารถผลิตประมาณ US $ 10 , 000 ต่อปี นอกจากนี้ ส่วนที่เหลือของข้าวโพด ได้แก่ ราก ลำต้น ใบ และฝัก ,สามารถให้พลังงานที่เทียบเท่ากับพลังงานความร้อนที่ได้จากการเผาไหม้ถ่านหินหนัก 40 ตัน ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ US $ 4 , 800 . ดังนั้น สูงสุดประจําปีรายได้จากสองแหล่งคือ สหรัฐฯ $ 14800 . เพราะความเข้มข้นของตะกั่วในเมล็ดข้าวโพด คือ น้อยกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในเนื้อหาที่นำอาหารที่บริโภคโดยสัตว์ เมล็ดข้าวโพด สามารถใช้เป็นอาหารสัตว์ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าการใช้พวกเขาเพื่อผลิตพลังงาน