ดาลตันเป็นนักฟิสิกส์ และนักเคมีชาวอังกฤษผู้ค้นพบทฤษฎีอะตอม ซึ่งทำให้เข การแปล - ดาลตันเป็นนักฟิสิกส์ และนักเคมีชาวอังกฤษผู้ค้นพบทฤษฎีอะตอม ซึ่งทำให้เข ไทย วิธีการพูด

ดาลตันเป็นนักฟิสิกส์ และนักเคมีชาวอ


ดาลตันเป็นนักฟิสิกส์ และนักเคมีชาวอังกฤษผู้ค้นพบทฤษฎีอะตอม ซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการวิทยาศาสตร์
มากขึ้น

ดาลตันเกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1766 ที่เมืองคอกเกอร์เมาท์ ประเทศอังกฤษ ในครอบครัวที่ยากจน บิดาของเขาชื่อ
โจเซฟ ดาลตัน (Joseph Dalton) มีอาชีพเป็นช่างทอผ้า เขามีความสนใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กและตั้งใจว่าเมื่อโตขึ้น
จะต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ให้ได้ แล้วความตั้งใจของเขาก็เป็นจริง ดาลตันเข้ารับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนของจอห์นเฟลทเชอร์
(John Fletcher) ซึ่งใช้โรงสวดที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา เป็นสถานที่ทำการเรียนการสอนและเมื่อมีผู้ต้องการใช้โรงสวดนี้
ประกอบพิธีกรรม โรงเรียนก็ต้องปิดทำการเมื่อโรงเรียนหยดดาลตันมักใช้เวลาไปกับการหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องวิทยาศาสตร์
อยู่เสมอไม่เหมือนกับเด็กคนอื่นเมื่อโรงเรียนหยุดก็มักจะพากันเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนาน

ต่อมาในปี ค.ศ. 1778 โรงเรียนแห่งนี้ต้องหยุดกิจการลง ดังนั้นดาลตันจึงมีความคิดที่จะเปิดโรงเรียนขึ้นบ้าง โดยใช้โรงนา
เป็นสถานที่เรียนดาลตันเก็บค่าเรียนเป็นรายคน โดยเก็บคนละ 6 เพนนี (Penny) ต่อสัปดาห์ แต่ต่อมาไม่นานโรงเรียนของดาลตัน
ก็ต้องปิดกิจการลง เนื่องจากชาวบ้านต้องการใช้สถานที่สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา ภายหลังจากที่โรงเรียนปิดดาลตันได้นำเงิน
ที่เกิดสะสมไว้เปิดร้านจำหน่ายหนังสือ และออกวารสาร ต่อมาในปี ค.ศ. 1781 ดาลตันได้เข้าทำงานเป็นครูอีกครั้งหนึ่งที่โรงเรียน
ของพี่ชายเขาเองที่เมืองเคนดอล

วิทยาศาสตร์แขนงที่ดาลตันให้ความสนใจมากที่สุด คือ อุตุนิยมวิทยา (Meteorology) ดาลตันได้สร้างเครื่องมือเพื่อช่วย
ในการทดลองครั้งนี้ด้วย ได้แก่ บารอริเตอร์ (Barometer) ใช้สำหรับวัดความดันอากาศ เทอร์มอมิเตอร์ (Thermometer1)
ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิ และไฮโกรมิเตอร์(Hygrometer) ใช้สำหรับวัดความชื้นในอากาศ ดาลตันใช้เครื่องมือทั้ง 3 ชนิดนี้วัด
สภาพความเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศ และจดบันทึกไว้อย่างละเอียดเป็นประจำทุกวัน จนกระทั่วเขาเสียชีวิต รายงานเรื่องนี้
ของดาลตันมีมากมาย เขาได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดลงในหนังสือชื่อว่า การสังเกตการณ์ทางอุตุนิยมวิทยา ซึ่งออกตีพิมพ์เผยแพร่
ในปี ค.ศ. 1783

ในปี ค.ศ. 1792 ดาลตันได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับธรรมชาติวิทยา เขาศึกษาจนมีความชำนาญด้านนี้เป็นอย่างดี และได้ตีพิมพ์
หนังสือออกมาเล่มหนึ่งชื่อว่า ออร์ทัส ซิคคัส ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับพันธุ์พืชและสัตว์ มีจำนวน ถึง 11 เล่ม จากผลงานชิ้นดังกล่าว
ดาลตันได้รับเชิญจากวิทยาลัยนิวคอลเลจ แมนเชสเตอร์ ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สอนวิชาปรัชญาธรรมชาติและคณิตศาสตร์

ต่อมาดาลตันได้ย้านไปอยู่ที่เมืองยอร์ค ที่นี่เขาได้ทำงานเป็นครูพิเศษสอนวิชาคณิตศาสตร์โดยเก็บค่าสอนเป็นรายชั่วโมงและ
ในระหว่างนี้เขาได้ทำการทอลงเกี่ยวกับเคมี และในปี ค.ศ. 1808 ดาลตันได้ตีพิมพ์หนังสือเล่มหนึ่งมีชื่อว่า A New System of
ChemicalPhilosophy เล่มที่ 1 เป็นเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีอะตอม (Atomic Theory) โดยดาลตันเป็นคนแรกที่ค้นพบทฤษฎีนี้
ในระหว่างปี ค.ศ. 1801 - 1803 ต่อมาในปี ค.ศ. 1810 ดาลตันได้พิมพ์หนังสือเล่มที่ 2 ชื่อว่า A New System of
Chemical Philosophy จากหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ สามารถอธิบายสมบัติของอะตอมได้ชัดเจนที่สุด ดาลตันสรุปเกี่ยวกับทฤษฎี
อะตอมไว้ดังนี้
1. ธาตุต่าง ๆ ประกอบไปด้วยอนุภาคเล็ก ๆ จำนวนมาก และอนุภาคเล็ก ๆ เหล่านี้ เรียกว่า "อะตอม (Atoms)"
2. อะตอมของธาตุต่าง ๆ ก็มีลักษณะ และน้ำหนักประจำเฉพาะของธาตุนั้น
3. สารประกอบเกิดจากการรวมตัวของสสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป และต้องเป็นไปในอัตราส่วนที่เลขลงตัวเสมอ เช่น
อัตราส่วนเป็น 4 : 1 เสมอ จะไม่เป็น 4.1 : 1 เด็ดขาด
4. อะตอมไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ หรือทำลายให้สิ้นสูญไปได้
5. อะตอมเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด ในส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของธาตุ ซึ่งไม่สามารถแยกออกไปได้อีก

นอกจากนี้เขายังใช้สัญลักษณ์แทนอะตอมของธาตุ และสารประกอบด้วย เช่น แทน ไฮโดรเจน, แทนออกซิเจน, แทน คาร์บอน,
แทน คาร์บอนไดออกไซด์, แทน คาร์บอนมอนอกไซด์ จากการค้นพบดังกล่าว จึงถือได้ว่าดาลตันเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรก
ที่ค้นพบสมบัติของอะตอม และกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับอะตอม

หลังจากนั้นดาลตันได้ทดลองเรื่องความดันของก๊าซ ดาลตันได้ตั้งกฎว่าด้วยความดันย่อย (Dalton's Low of Partial
Pressures)โดยมีใจความสำคัญว่า เมื่อธาตุถูกกดดันมาก ๆ จะเกิดการเสียดสีกันของโมเลกุลทำให้เกิดความร้อน ต่อจากนั้นเขา
ได้ตั้งกฎเกี่ยวกับการระเหยของของเหลว (Evaporation of Liquids) ภายหลังจากการทดลอง ดาลตันพบว่า "ของเหลวจะ
ระเหยกลายเป็นไอได้มากหรือน้อย มีอุณหภูมิเป็นตัวแปรสำคัญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น"

นอกจากนี้เขายังค้นคว้าเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ตาบอดสี (Color - Blindness) เขาได้อธิบายสาเหตุของตาบอดสีว่าเกิด
จากความผิดปกติของสารที่ทำหน้าที่แปรผลของสี การที่ดาลตันค้นคว้าเรื่องนี้ เนื่องจากน้องชายของเขาตาบอดสีนั่นเอง

ดาลตันเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1844 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester) ประเทศอังกฤษ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ดาลตันเป็นนักฟิสิกส์และนักเคมีชาวอังกฤษผู้ค้นพบทฤษฎีอะตอมซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการวิทยาศาสตร์มากขึ้น ดาลตันเกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายนค.ศ. 1766 ที่เมืองคอกเกอร์เมาท์ประเทศอังกฤษในครอบครัวที่ยากจนบิดาของเขาชื่อโจเซฟดาลตัน (โจเซฟดาลตัน) มีอาชีพเป็นช่างทอผ้าเขามีความสนใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กและตั้งใจว่าเมื่อโตขึ้นจะต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ให้ได้แล้วความตั้งใจของเขาก็เป็นจริงดาลตันเข้ารับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนของจอห์นเฟลทเชอร์เป็นสถานที่ทำการเรียนการสอนและเมื่อมีผู้ต้องการใช้โรงสวดนี้ซึ่งใช้โรงสวดที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา (จอห์นเฟล็ตเชอร์)ประกอบพิธีกรรมโรงเรียนก็ต้องปิดทำการเมื่อโรงเรียนหยดดาลตันมักใช้เวลาไปกับการหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องวิทยาศาสตร์อยู่เสมอไม่เหมือนกับเด็กคนอื่นเมื่อโรงเรียนหยุดก็มักจะพากันเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนาน ต่อมาในปีค.ศ. 1778 โรงเรียนแห่งนี้ต้องหยุดกิจการลงดังนั้นดาลตันจึงมีความคิดที่จะเปิดโรงเรียนขึ้นบ้างโดยใช้โรงนาเป็นสถานที่เรียนดาลตันเก็บค่าเรียนเป็นรายคนโดยเก็บคนละ 6 เพนนี (Penny) ต่อสัปดาห์แต่ต่อมาไม่นานโรงเรียนของดาลตันก็ต้องปิดกิจการลงเนื่องจากชาวบ้านต้องการใช้สถานที่สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาภายหลังจากที่โรงเรียนปิดดาลตันได้นำเงินที่เกิดสะสมไว้เปิดร้านจำหน่ายหนังสือและออกวารสารต่อมาในปีค.ศ. 1781 ดาลตันได้เข้าทำงานเป็นครูอีกครั้งหนึ่งที่โรงเรียน ของพี่ชายเขาเองที่เมืองเคนดอล ดาลตันได้สร้างเครื่องมือเพื่อช่วยวิทยาศาสตร์แขนงที่ดาลตันให้ความสนใจมากที่สุดคืออุตุนิยมวิทยา (อุตุนิยมวิทยา)ในการทดลองครั้งนี้ด้วยได้แก่บารอริเตอร์ (บารอมิเตอร์) ใช้สำหรับวัดความดันอากาศเทอร์มอมิเตอร์ (Thermometer1) ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิ และไฮโกรมิเตอร์(Hygrometer) ใช้สำหรับวัดความชื้นในอากาศดาลตันใช้เครื่องมือทั้ง 3 ชนิดนี้วัดสภาพความเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศและจดบันทึกไว้อย่างละเอียดเป็นประจำทุกวันจนกระทั่วเขาเสียชีวิตรายงานเรื่องนี้ของดาลตันมีมากมายเขาได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดลงในหนังสือชื่อว่าการสังเกตการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาซึ่งออกตีพิมพ์เผยแพร่ในปีค.ศ. 1783 ในปีค.ศ. ค.ศ. 1792 ดาลตันได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับธรรมชาติวิทยาเขาศึกษาจนมีความชำนาญด้านนี้เป็นอย่างดีและได้ตีพิมพ์หนังสือออกมาเล่มหนึ่งชื่อว่าออร์ทัสซิคคัสซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับพันธุ์พืชและสัตว์มีจำนวนถึง 11 เล่มจากผลงานชิ้นดังกล่าวดาลตันได้รับเชิญจากวิทยาลัยนิวคอลเลจแมนเชสเตอร์ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สอนวิชาปรัชญาธรรมชาติและคณิตศาสตร์ ต่อมาดาลตันได้ย้านไปอยู่ที่เมืองยอร์คที่นี่เขาได้ทำงานเป็นครูพิเศษสอนวิชาคณิตศาสตร์โดยเก็บค่าสอนเป็นรายชั่วโมงและในระหว่างนี้เขาได้ทำการทอลงเกี่ยวกับเคมีและในปีค.ศ. 1808 ดาลตันได้ตีพิมพ์หนังสือเล่มหนึ่งมีชื่อว่าระบบใหม่ โดยดาลตันเป็นคนแรกที่ค้นพบทฤษฎีนี้ ChemicalPhilosophy เล่มที่ 1 เป็นเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีอะตอม (ทฤษฎีอะตอม)ในระหว่างปีค.ศ. 1801-1803 ต่อมาในปีค.ศ. 1810 ดาลตันได้พิมพ์หนังสือเล่มที่ 2 ชื่อว่าระบบใหม่ ปรัชญาเคมีจากหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้สามารถอธิบายสมบัติของอะตอมได้ชัดเจนที่สุดดาลตันสรุปเกี่ยวกับทฤษฎีอะตอมไว้ดังนี้ 1. ธาตุต่างๆ ประกอบไปด้วยอนุภาคเล็กๆ จำนวนมากและอนุภาคเล็กๆ เหล่านี้เรียกว่า "อะตอม (อะตอม)" 2. อะตอมของธาตุต่างๆ ก็มีลักษณะและน้ำหนักประจำเฉพาะของธาตุนั้น 3. สารประกอบเกิดจากการรวมตัวของสสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปและต้องเป็นไปในอัตราส่วนที่เลขลงตัวเสมอเช่น อัตราส่วนเป็น 4:1 เสมอจะไม่เป็น 4.1:1 เด็ดขาด 4. อะตอมไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่หรือทำลายให้สิ้นสูญไปได้ 5. อะตอมเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดในส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของธาตุซึ่งไม่สามารถแยกออกไปได้อีก แทนออกซิเจน นอกจากนี้เขายังใช้สัญลักษณ์แทนอะตอมของธาตุและสารประกอบด้วยเช่นแทนไฮโดรเจน แทน คาร์บอนแทนคาร์บอนไดออกไซด์ แทนคาร์บอนมอนอกไซด์จากการค้นพบดังกล่าวจึงถือได้ว่าดาลตันเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่ค้นพบสมบัติของอะตอมและกำหนดรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับอะตอม หลังจากนั้นดาลตันได้ทดลองเรื่องความดันของก๊าซดาลตันได้ตั้งกฎว่าด้วยความดันย่อย (ต่ำของดาลตันของบางส่วนความดัน) โดยมีใจความสำคัญว่าเมื่อธาตุถูกกดดันมากๆ จะเกิดการเสียดสีกันของโมเลกุลทำให้เกิดความร้อนต่อจากนั้นเขาได้ตั้งกฎเกี่ยวกับการระเหยของของเหลว (ระเหยของของเหลว) ภายหลังจากการทดลองดาลตันพบว่า "ของเหลวจะระเหยกลายเป็นไอได้มากหรือน้อยมีอุณหภูมิเป็นตัวแปรสำคัญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น" นอกจากนี้เขายังค้นคว้าเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ตาบอดสี (สี - ผู้พิการทางสายตา) เขาได้อธิบายสาเหตุของตาบอดสีว่าเกิดจากความผิดปกติของสารที่ทำหน้าที่แปรผลของสีการที่ดาลตันค้นคว้าเรื่องนี้เนื่องจากน้องชายของเขาตาบอดสีนั่นเอง ดาลตันเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมค.ศ. 1844 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ (แมน) ประเทศอังกฤษ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

ดาลตันเป็นนักฟิสิกส์ 6 กันยายน ค.ศ. 1766 เมืองคอกที่เกอร์เมาท์ประเทศอังกฤษในครอบครัวที่ยากจนบิดาของเขาชื่อโจเซฟดาลตัน(โจเซฟดาลตัน) มีอาชีพเป็นช่างทอผ้า แล้วความตั้งใจของเขาก็เป็นจริง เฟลตเชอร์) ค.ศ. 1778 โรงเรียนแห่งนี้ต้องหยุดกิจการลง โดยเก็บคนละ 6 เพนนี (Penny) ต่อสัปดาห์ และออกวารสารต่อมาในปี ค.ศ. 1781 คืออุตุนิยมวิทยา (อุตุนิยมวิทยา) ได้แก่ บารอริเตอร์ (Barometer) ใช้สำหรับวัดความดันอากาศเทอร์มอมิเตอร์ (Thermometer1) ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิและไฮโกรมิเตอร์ (Hygrometer) ใช้สำหรับวัดความชื้นในอากาศดาลตันใช้เครื่องมือทั้ง 3 กระทั่วจนเขาเสียชีวิตรายงานเรื่องนี้ของดาลตันมีมากมาย สังเกตการณ์ทางหัวเรื่อง: การอุตุนิยมวิทยาซึ่งออกตีพิมพ์เผยแพร่ในปีค.ศ. 1783 ในปี ค.ศ. 1792 ออร์ทัสซิคคัส มีจำนวนถึง 11 เล่ม แมนเชสเตอร์ และในปี ค.ศ. 1808 ระบบใหม่ของการChemicalPhilosophy เล่มที่ 1 เป็นเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีอะตอม (Atomic ทฤษฎี) ค.ศ. 1801 - 1803 ต่อมาในปี ค.ศ. 1,810 ดาลตันได้พิมพ์หนังสือเล่มที่ 2 ชื่อว่าระบบใหม่ของเคมีปรัชญาจากหนังสือทั้ง2 เล่มนี้ ธาตุต่าง ๆ ประกอบไปด้วยอนุภาคเล็ก ๆ จำนวนมากและอนุภาคเล็ก ๆ เหล่านี้เรียกว่า "อะตอม (อะตอม)" 2 อะตอมของธาตุต่าง ๆ ก็มีลักษณะและน้ำหนักประจำเฉพาะของธาตุนั้น3 2 ชนิดขึ้นไป เช่นอัตราส่วนเป็น 4: 1 เสมอจะไม่เป็น 4.1: 1 เด็ดขาด 4 อะตอมไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่หรือทำลายให้สิ้นสูญไปได้5 อะตอมเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดในส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของธาตุ และสารประกอบด้วยเช่นแทนไฮโดรเจน, แทนออกซิเจน, แทนคาร์บอน, แทนคาร์บอนไดออกไซด์, แทนคาร์บอนมอนอกไซด์จากการค้นพบดังกล่าว และกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ดาลตันได้ตั้งกฎว่าด้วยความดันย่อย (ดาลตันต่ำบางส่วนแรงกดดัน) โดยมีใจความสำคัญว่าเมื่อธาตุถูกกดดันมาก ๆ (การระเหยของของเหลว) ภายหลังจากการทดลองดาลตันพบว่า (สี - ตาบอด) การที่ดาลตันค้นคว้าเรื่องนี้ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1844 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ (แมนเชสเตอร์) ประเทศอังกฤษ




















































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!




ดาลตันเป็นนักฟิสิกส์และนักเคมีชาวอังกฤษผู้ค้นพบทฤษฎีอะตอมซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการวิทยาศาสตร์มากขึ้นดาลตันเกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายนค . ศ .1766 ที่เมืองคอกเกอร์เมาท์ประเทศอังกฤษในครอบครัวที่ยากจนบิดาของเขาชื่อ
โจเซฟดาลตัน ( Joseph Dalton ) มีอาชีพเป็นช่างทอผ้าเขามีความสนใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็กและตั้งใจว่าเมื่อโตขึ้น
จะต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ให้ได้แล้วความตั้งใจของเขาก็เป็นจริงดาลตันเข้ารับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนของจอห์นเฟลทเชอร์
( ตือโป๊ยก่าย ) ซึ่งใช้โรงสวดที่ทำพิธีกรรมทางศาสนาเป็นสถานที่ทำการเรียนการสอนและเมื่อมีผู้ต้องการใช้โรงสวดนี้
ประกอบพิธีกรรมโรงเรียนก็ต้องปิดทำการเมื่อโรงเรียนหยดดาลตันมักใช้เวลาไปกับการหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องวิทยาศาสตร์

อยู่เสมอไม่เหมือนกับเด็กคนอื่นเมื่อโรงเรียนหยุดก็มักจะพากันเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนานต่อมาในปีค . ศ . 1608 โรงเรียนแห่งนี้ต้องหยุดกิจการลงดังนั้นดาลตันจึงมีความคิดที่จะเปิดโรงเรียนขึ้นบ้างโดยใช้โรงนา
เป็นสถานที่เรียนดาลตันเก็บค่าเรียนเป็นรายคนโดยเก็บคนละ 6 เพนนี ( เพนนี ) ต่อสัปดาห์แต่ต่อมาไม่นานโรงเรียนของดาลตัน
ก็ต้องปิดกิจการลงเนื่องจากชาวบ้านต้องการใช้สถานที่สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาภายหลังจากที่โรงเรียนปิดดาลตันได้นำเงิน
ที่เกิดสะสมไว้เปิดร้านจำหน่ายหนังสือและออกวารสารต่อมาในปีค . ศ .1781 ดาลตันได้เข้าทำงานเป็นครูอีกครั้งหนึ่งที่โรงเรียน
ของพี่ชายเขาเองที่เมืองเคนดอล

วิทยาศาสตร์แขนงที่ดาลตันให้ความสนใจมากที่สุดความอุตุนิยมวิทยา ( อุตุนิยมวิทยา ) ดาลตันได้สร้างเครื่องมือเพื่อช่วย
ในการทดลองครั้งนี้ด้วยได้แก่บารอริเตอร์ ( ปรอท ) ใช้สำหรับวัดความดันอากาศเทอร์มอมิเตอร์ ( เทอร์มอมิเตอร์ )
ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิและไฮโกรมิเตอร์ ( hygrometer ) ใช้สำหรับวัดความชื้นในอากาศดาลตันใช้เครื่องมือทั้งชนิดนี้วัด
3สภาพความเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศและจดบันทึกไว้อย่างละเอียดเป็นประจำทุกวันจนกระทั่วเขาเสียชีวิตรายงานเรื่องนี้
ของดาลตันมีมากมายเขาได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดลงในหนังสือชื่อว่าการสังเกตการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาซึ่งออกตีพิมพ์เผยแพร่
สามารถค . ศ . 1783

สามารถค . ศ .1 ดาลตันได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับธรรมชาติวิทยาเขาศึกษาจนมีความชำนาญด้านนี้เป็นอย่างดีและได้ตีพิมพ์
หนังสือออกมาเล่มหนึ่งชื่อว่าออร์ทัสซิคคัสซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับพันธุ์พืชและสัตว์มีจำนวนถึง 11 เล่มจากผลงานชิ้นดังกล่าว
ดาลตันได้รับเชิญจากวิทยาลัยนิวคอลเลจแมนเชสเตอร์ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สอนวิชาปรัชญาธรรมชาติและคณิตศาสตร์

ต่อมาดาลตันได้ย้านไปอยู่ที่เมืองยอร์คที่นี่เขาได้ทำงานเป็นครูพิเศษสอนวิชาคณิตศาสตร์โดยเก็บค่าสอนเป็นรายชั่วโมงและ
ในระหว่างนี้เขาได้ทำการทอลงเกี่ยวกับเคมีและในปีค . ศ .1808 ดาลตันได้ตีพิมพ์หนังสือเล่มหนึ่งมีชื่อว่าระบบใหม่
chemicalphilosophy เล่มที่ 1 เป็นเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีอะตอม ( ทฤษฎีอะตอมโดยดาลตันเป็นคนแรกที่ค้นพบทฤษฎีนี้
ในระหว่างปีค . ศ . 1801 - 1803 ต่อมาในปีค . ศ .1810 ดาลตันได้พิมพ์หนังสือเล่มที่ 2 ชื่อว่าระบบใหม่ของปรัชญาทางเคมีจากหนังสือทั้ง
2 เล่มนี้สามารถอธิบายสมบัติของอะตอมได้ชัดเจนที่สุดอะตอมไว้ดังนี้ดาลตันสรุปเกี่ยวกับทฤษฎี

1ธาตุต่างจะไม่มีประกอบไปด้วยอนุภาคเล็กจำนวนมากและอนุภาคเล็กจะเหล่านี้เรียกว่า " อะตอม ( อะตอม ) "
2 อะตอมของธาตุต่างจะก็มีลักษณะและน้ำหนักประจำเฉพาะของธาตุนั้น
3สารประกอบเกิดจากการรวมตัวของสสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปและต้องเป็นไปในอัตราส่วนที่เลขลงตัวเสมอเช่น
อัตราส่วนเป็น 4 : 1 เสมอจะไม่เป็น 4.1 : 1 เด็ดขาด
4 อะตอมไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่หรือทำลายให้สิ้นสูญไปได้
5อะตอมเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดในส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของธาตุซึ่งไม่สามารถแยกออกไปได้อีก

นอกจากนี้เขายังใช้สัญลักษณ์แทนอะตอมของธาตุและสารประกอบด้วยเช่นแทนไฮโดรเจนแทนออกซิเจนแทนคาร์บอน
, , ,แทนคาร์บอนไดออกไซด์แทนคาร์บอนมอนอกไซด์ , จากการค้นพบดังกล่าวจึงถือได้ว่าดาลตันเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรก
ที่ค้นพบสมบัติของอะตอมและกำหนดรายละเอียดต่างจะเกี่ยวกับอะตอม

หลังจากนั้นดาลตันได้ทดลองเรื่องความดันของก๊าซดาลตันได้ตั้งกฎว่าด้วยความดันย่อย ( ดาลตันต่ำของแรงกดดันบางส่วน
) โดยมีใจความสำคัญว่าเมื่อธาตุถูกกดดันมากจะจะเกิดการเสียดสีกันของโมเลกุลทำให้เกิดความร้อนต่อจากนั้นเขา
ได้ตั้งกฎเกี่ยวกับการระเหยของของเหลว ( การระเหยของของเหลว ) ภายหลังจากการทดลองดาลตันพบว่า " ของเหลวจะ


ระเหยกลายเป็นไอได้มากหรือน้อยมีอุณหภูมิเป็นตัวแปรสำคัญเพียงอย่างเดียวเท่านั้น "นอกจากนี้เขายังค้นคว้าเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ตาบอดสี ( สี - ตาบอด ) เขาได้อธิบายสาเหตุของตาบอดสีว่าเกิด
จากความผิดปกติของสารที่ทำหน้าที่แปรผลของสีการที่ดาลตันค้นคว้าเรื่องนี้เนื่องจากน้องชายของเขาตาบอดสีนั่นเอง

ดาลตันเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมค . ศ . 1844 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ( แมนเชสเตอร์ ) ประเทศอังกฤษ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: