Gustav Klimt was an Austrian painte

Gustav Klimt was an Austrian painter, founder of the school of painting known as the Vienna Secession.

After studying at the Vienna School of Decorative Arts, Klimt in 1883 opened an independent studio specializing in the execution of mural paintings. His early work was typical of late 19th-century academic painting, as can be seen in his murals for the Vienna Burgtheater (1888) and on the staircase of the Kunsthistorisches Museum.

In 1897 Klimt’s mature style emerged, and he founded the Vienna Sezession, a group of painters who revolted against academic art in favor of a highly decorative style similar to Art Nouveau. Soon thereafter he painted three allegorical murals for the ceiling of the University of Vienna auditorium that were violently criticized; the erotic symbolism and pessimism of these works created such a scandal that the murals were rejected. His later murals, the Beethoven Frieze (1902) and the murals (1909–11) in the dining room of the Stoclet House in Brussels, are characterized by precisely linear drawing and the bold and arbitrary use of flat, decorative patterns of color and gold leaf. Klimt’s most successful works include The Kiss (1907–08) and a series of portraits of fashionable Viennese matrons, such as Frau Fritza Riedler (1906) and Frau Adele Bloch-Bauer (1907). In these works he treats the human figure without shadow and heightens the lush sensuality of skin by surrounding it with areas of flat, highly ornamental, and brilliantly composed areas of decoration.

During World War II Frau Adele Bloch-Bauer and several other Klimt paintings belonging to the Bloch-Bauer family were confiscated by the Nazis and eventually added to the collection of the Österreichische Gallery in Vienna. These works later became the focus of a lengthy legal battle, and in 2006 they were finally returned to the family. Later that year Frau Adele Bloch-Bauer was sold to the Neue Galerie in New York City for a then-record price of $135 million.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กุสตาฟ Klimt เป็นจิตรกรชาวออสเตรีย ผู้ก่อตั้งโรงเรียนของจิตรกรรมที่เรียกว่าเวียนนาซีเซสชัน หลังจากเรียนที่เวียนนาโรงเรียนของศิลปะการตกแต่ง Klimt ลอนเปิดเป็นสตูดิโออิสระที่เชี่ยวชาญในการทำฝาผนัง งานแรกของเขาคือ ทั่วไปศตวรรษของสายวิชาการวาดภาพ สามารถเห็นได้ในภาพจิตรกรรมฝาผนังของเขา และ บนบันไดของพิพิธภัณฑ์ Kunsthistorisches Burgtheater เวียนนา (1888) ใน 1897 สไตล์ผู้ใหญ่ของ Klimt โผล่ออกมา และเขาก่อตั้ง Sezession เวียนนา กลุ่มของจิตรกรที่ revolted กับศิลปะในความโปรดปรานสไตล์ลายที่คล้ายกับอาร์ต หลังจากนั้นไม่นานเขาวาดสามเชิงเปรียบเทียบภาพจิตรกรรมฝาผนังเพดานของหอประชุมมหาวิทยาลัยเวียนนาที่ถูกโหงวิจารณ์ สัญลักษณ์ที่เร้าอารมณ์และลางร้ายของผลงานเหล่านี้สร้างขึ้นในเว็บว่า ภาพจิตรกรรมฝาผนังถูกปฏิเสธ เขาใหม่กว่าจิตรกรรมฝาผนัง ฤทธ์บีโธเฟน (1902) และภาพจิตรกรรมฝาผนัง (1909-11) ที่ห้องอาหารของบ้าน Stoclet ในบรัสเซลส์ มีลักษณะ โดยวาดเส้นตรงได้อย่างแม่นยำและใช้ตัวหนา และตามอำเภอใจแบน ตกแต่งรูปแบบของสีและทองคำเปลว งานประสบความสำเร็จของ Klimt รวมการจูบ (1907 – 08) และชุดของภาพของแฟชั่นเวียนนา matrons เช่น Frau Fritza Riedler (ค.ศ. 1906) และ Frau Adele ลค-Bauer (1907) ในการทำงานเหล่านี้ เขาถือว่ารูปคนไม่ มีเงา และระดับสูงราคะอันเขียวชอุ่มของผิว โดยรอบพื้นที่แบน ประดับสูง และเก่งประกอบด้วยพื้นที่ของตกแต่ง ในระหว่างสงครามโลก Frau Adele ลค-Bauer และหลายอื่น ๆ Klimt ภาพวาดครอบครัว Bauer ลคถูกยึด โดย Nazis และในที่สุดเพิ่มคอลเลกชันของแกลเลอรี่ Österreichische ในเวียนนา ผลงานเหล่านี้ภายหลังกลายเป็น จุดเน้นของการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนาน และในปี 2006 พวกเขาได้กลับมากับครอบครัว ในปี Frau Adele ลค-Bauer ถูกขายให้กา Neue ในนิวยอร์กแล้วคอร์ดราคา 135 ล้านเหรียญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กุสตาฟคลิมท์เป็นจิตรกรชาวออสเตรียผู้ก่อตั้งโรงเรียนของการวาดภาพที่รู้จักในฐานะแยกตัวออกจากกรุงเวียนนา. หลังจากเรียนที่โรงเรียนเวียนนามัณฑนศิลป์ Klimt ใน 1,883 เปิดสตูดิโออิสระที่เชี่ยวชาญในการดำเนินการของภาพวาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง งานแรกของเขาเป็นแบบอย่างของสายการวาดภาพทางวิชาการในศตวรรษที่ 19 ที่สามารถมองเห็นได้ในภาพจิตรกรรมฝาผนังของเขาสำหรับเวียนนากรุงเวียนนา (1888) และบันไดของพิพิธภัณฑ์ Kunsthistorisches ได้. ในปี 1897 สไตล์ผู้ใหญ่ Klimt โผล่ออกมาและเขาก่อตั้งเวียนนา Sezession, กลุ่มของจิตรกรที่เห็นด้วยกับวิชาการศิลปะในความโปรดปรานของสไตล์การตกแต่งคล้ายกับอาร์ตนูโว หลังจากนั้นไม่นานเขาวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังสามเปรียบเทียบสำหรับเพดานของมหาวิทยาลัยเวียนนาหอประชุมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงนั้น สัญลักษณ์ที่เร้าอารมณ์และมองในแง่ร้ายของผลงานเหล่านี้ได้สร้างเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกปฏิเสธ ภาพจิตรกรรมฝาผนังในภายหลังเขาเบโธเฟนผ้าสักหลาด (1902) และภาพจิตรกรรมฝาผนัง (1909-1911) ที่ห้องรับประทานอาหารของ Stoclet บ้านในกรุงบรัสเซลส์ที่โดดเด่นด้วยการวาดภาพได้อย่างแม่นยำเชิงเส้นและการใช้ตัวหนาและโดยพลการของแบนรูปแบบการตกแต่งที่มีสีและสีทอง ใบไม้. Klimt ผลงานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ได้แก่ การจูบ (1907-1908) และชุดของภาพของ matrons เวียนนาแฟชั่นเช่นนาง Fritza Riedler (1906) และนาง Adele Bloch-Bauer (1907) ก ในผลงานเหล่านี้ที่เขาปฏิบัติต่อร่างมนุษย์โดยไม่ต้องเงาและ heightens ราคะอันเขียวชอุ่มของผิวโดยรอบด้วยพื้นที่ของพื้นที่ราบ, ไม้ประดับสูงและแต่งเก่งของการตกแต่ง. ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนาง Adele Bloch-Bauer และอีกหลายภาพวาด Klimt อื่น ๆ ที่เป็น กับครอบครัว Bloch-Bauer ถูกยึดโดยพวกนาซีและเพิ่มการเก็บของแกลลอรี่Österreichischeในเวียนนาในที่สุด ผลงานเหล่านี้ต่อมาได้กลายเป็นจุดสนใจของการต่อสู้ทางกฎหมายที่มีความยาวและในปี 2006 พวกเขาถูกส่งกลับมาในที่สุดก็ถึงครอบครัว หลังจากนั้นในปี Frau Adele Bloch-Bauer ถูกขายให้กับอู Galerie ในนิวยอร์กซิตี้สำหรับราคานั้นบันทึกของ $ 135 ล้าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กุสตาฟ คลิมท์ เป็นจิตรกรชาวออสเตรีย ผู้ก่อตั้งโรงเรียนจิตรกรรมที่เรียกว่าการแยกตัวออกจากกรุงเวียนนาหลังจากเรียนที่เวียนนาโรงเรียนของศิลปะการตกแต่ง คลิมท์ใน 1883 เปิดสตูดิโออิสระที่เชี่ยวชาญในการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง งานแรกของเขาคือโดยทั่วไปของปลายศตวรรษวิชาการวาดภาพ โดยจะเห็นได้จากจิตรกรรมฝาผนังของเขาสำหรับเวียนนา burgtheater ( 2431 ) และบนบันไดของกองทัพอากาศสวีเดนพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1897 คลิ้มท์เป็นผู้ใหญ่สไตล์โผล่ออกมา และเขาได้ก่อตั้งเวียนนาเซเซสซัน กลุ่มของจิตรกรที่ปฏิวัติต่อต้านศิลปะวิชาการในความโปรดปรานของตกแต่งที่มีสไตล์คล้ายกับศิลปะนูโว . ไม่นานหลังจากนั้นเขาวาดสามภาพจิตรกรรมฝาผนังเปรียบเทียบสำหรับเพดานของมหาวิทยาลัยเวียนนา หอประชุมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ; สัญลักษณ์เร้าอารมณ์และสิ้นหวัง ผลงานเหล่านี้สร้างขึ้น เช่น เรื่องอื้อฉาวที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกปฏิเสธ จิตรกรรมฝาผนังต่อมาของเขา บัวบีโธเฟ่น ( 1902 ) และจิตรกรรมฝาผนัง ( 1909 – 11 ) ที่ห้องอาหารของ stoclet บ้านในกรุงบรัสเซลส์ มีลักษณะแบบเชิงเส้นและแน่นอนใช้ตัวหนาและโดยพลการของแบน ตกแต่งลวดลาย สีสัน และทองคำเปลว คลิมท์ประสบความสำเร็จมากที่สุดผลงานรวมถึงจูบ ( 1907 – 08 ) และชุดของภาพเหมือนของที่ปรึกษาหัวหน้าบาทหลวงชาวเวียนนาแฟชั่น เช่น เฟรา fritza riedler ( 1906 ) และเฟรา อเดล บล๊อค บาวเออร์ ( 1907 ) ในงานนี้เขาถือว่ารูปร่างมนุษย์ไร้เงา และระดับสูงราคะอันเขียวชอุ่มของผิวหนังโดยรอบ ด้วยพื้นที่ของแฟลตสูง , ประดับ , และเก่งประกอบด้วยพื้นที่ของการตกแต่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเฟรา อเดล บล๊อค บาวเออร์ และ หลาย ๆภาพที่เป็นของครอบครัวคลิ้ม บล๊อค บาวเออร์ถูกยึดโดยนาซีและในที่สุดเพื่อเพิ่มคอลเลกชันของÖ sterreichische Gallery ในเวียนนา ผลงานเหล่านี้ต่อมากลายเป็นจุดสำคัญของการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาว และในปี 2006 พวกเขาในที่สุดก็กลับคืนสู่ครอบครัว ต่อมาในปีนั้นเฟรา อเดล บล๊อค บาวเออร์ ถูกขายให้กับ นู กาเล ในนครนิวยอร์กแล้ว บันทึกราคา $ 135 ล้านบาท