Confucianism still uses the concept

Confucianism still uses the concept of responsibility and justice. for example, Mencius discusses social justice several times, as mentioned above. his concepts, however, were considerably different from the concepts of social justice used today. In general, in past Confucian history, not enough attention has been paid to critiquing the current state of justice and striving for justice among the poor and oppressed. professor Lin Anwu’s explanation for this is worth quoting at length:

There are three types of Confucianism: the first one is “Adaptive Confucianism” which provided guidance for the activities and occu- pations of daily life. Secondly, “Dominating Confucianism” was used as a political tool to organize and dominate over a monarchial and patriarchal society. The third type of Confucianism is “Critical Confucianism” that criticized injustice and other social problems in society and government. Dominating Confucianism has been the pri- mary type of Confucianism practiced in Chinese history, therefore it suppresses the development of Critical Confucianism. (2003:114)
Similar to Confucianism, philosophical Daoism has two phases. The first phase occurred during the Qin dynasty (221–206 B.C.E.). This phase marked the advent of Daoism, during which Daoism’s most respected scholars, Laozi and Zhuangzi, are said to have com- piled the major canonical Daoist works. The second phase lasted from the end of the Qin dynasty (around 206 B.C.e.) to the Qing dynasty (A.D. 1644–1912). During this time, Daoism existed under political monarchy. Due to the restrictions placed on physical activities during the imperial monarchy, philosophers researched subjective metaphys- ics instead.22


Confucianism and Daoism emphasize self-cultivation more than social justice. As far as political action is concerned, Confucians and Daoists have been known to campaign for changes in the Chinese political structure. for instance, local covenant (xiangyue), discussed above, emphasized helping each other and promoting philanthropy; however, changing the social structure was not advocated. Therefore, in some sense, Confucianism and Daoism have been more affiliated with subjective cultivation of mind and body and seem to lack the critical perspective that designates social awareness.
Liberation theology on a large scale does denote specific and rigid ideas of what constitutes social justice, but it can serve as a social the- ory to practice justice fully. According to liberation theology, its per- spective on justice is central, and pursuing social justice is at the heart of following God’s will (Liu, 1996:235), “for whatever you have done to the least of these brothers and sisters, you have done to me . . . enter into the reward prepared to you for all eternity” (Mt 25:31-46). This differs greatly from Karl Marx’s theory of liberation and also differs from that of Confucianism and Daoism. In the modern world, one-third of the global population suffers from starvation. Liberation theology can encourage different religions and cultures to continue to develop a means to be in solidarity with this population. Therefore, some tenets of liberation theology can be joined with tenets of Con- fucianism and Daoism and hand-in-hand they can work to develop a more philanthropic culture, internally within the minds of people and externally by changing the social structure.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขงจื้อยังคงใช้แนวคิดของความรับผิดชอบและความยุติธรรม ตัวอย่างเช่น Mencius กล่าวถึงความยุติธรรมทางสังคมหลายครั้งดังกล่าวข้างต้น แนวความคิดของเขา แต่เป็นอย่างมากแตกต่างจากแนวความคิดของความยุติธรรมทางสังคมที่ใช้ในปัจจุบัน โดยทั่วไปในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาขงจื้อไม่สนใจมากพอที่ได้รับการจ่ายเงินให้กับ critiquing สถานะปัจจุบันของความยุติธรรมและความมุ่งมั่นเพื่อความยุติธรรมในหมู่คนยากจนและถูกกดขี่ อาจารย์คำอธิบายหลิน Anwu สำหรับนี้มีมูลค่า quoting ที่มีความยาว: มีสามประเภทของขงจื้อคือคนแรกคือ "การปรับตัวขงจื้อ" ซึ่งให้คำแนะนำในการทำกิจกรรมและ pations occu- ของชีวิตประจำวัน ประการที่สอง "ครอบครองขงจื้อ" ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการจัดระเบียบและมีอิทธิพลเหนือสังคม monarchial และปรมาจารย์ ชนิดที่สามของขงจื้อคือ "ที่สำคัญขงจื้อ" ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ความอยุติธรรมและปัญหาทางสังคมอื่น ๆ ในสังคมและรัฐบาล มีอำนาจเหนือขงจื้อได้รับชนิดขั้นต้นของขงจื้อได้รับการฝึกฝนในประวัติศาสตร์จีนจึงยับยั้งการพัฒนาของขงจื้อที่สำคัญ (2003: 114) คล้ายกับขงจื้อเต๋าปรัชญามีสองขั้นตอน ในช่วงแรกที่เกิดขึ้นในช่วงราชวงศ์ฉิน (221-206 คริสตศักราช) ขั้นตอนนี้เป็นจุดกำเนิดของลัทธิเต๋าในระหว่างที่นักวิชาการที่ยอมรับมากที่สุดของลัทธิเต๋า, Laozi และ Zhuangzi จะกล่าวว่าจะมีการสั่งซ้อน Daoist งานที่สำคัญเป็นที่ยอมรับ ระยะที่สองตั้งแต่ปลายของราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 206 คริสตศักราช) เพื่อราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644-1912) ในช่วงเวลานี้อยู่ภายใต้ลัทธิเต๋าระบอบการเมือง เนื่องจากข้อ จำกัด ที่วางอยู่บนกิจกรรมการออกกำลังกายในระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่นักปรัชญาวิจัย ICs metaphys- อัตนัย instead.22 ขงจื้อและลัทธิเต๋าเน้นการปลูกด้วยตนเองมากกว่าความยุติธรรมทางสังคม เท่าที่ดำเนินการทางการเมืองเป็นห่วง Confucians Daoists และได้รับทราบเพื่อการรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างทางการเมืองจีน เช่นพันธสัญญาท้องถิ่น (xiangyue) กล่าวข้างต้นเน้นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันและการส่งเสริมการทำบุญ; แต่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมไม่ได้รับการสนับสนุน ดังนั้นในความรู้สึกบางขงจื้อและลัทธิเต๋าในเครือได้รับการเพาะปลูกมากขึ้นด้วยทัศนะของร่างกายและจิตใจและดูเหมือนจะขาดมุมมองที่สำคัญที่กำหนดรู้ทางสังคม. วิมุตติธรรมในขนาดใหญ่ไม่แสดงความคิดที่เฉพาะเจาะจงและเข้มงวดของสิ่งที่ถือว่าเป็นความยุติธรรมทางสังคม แต่ก็สามารถทำหน้าที่เป็นออร์รี่ล้ำหน้าด้วยสังคมที่จะปฏิบัติความยุติธรรมได้อย่างเต็มที่ ตามวิมุตติธรรม, มุมมองภาพที่มีต่อความยุติธรรมเป็นศูนย์กลางและใฝ่หาความยุติธรรมทางสังคมเป็นหัวใจของการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า (หลิว 1996: 235), "สำหรับสิ่งที่คุณได้ทำเพื่ออย่างน้อยของพี่ชายและน้องสาวเหล่านี้คุณ ได้ทำกับฉัน . . ใส่ลงไปในรางวัลที่เตรียมไว้ให้คุณตลอดกาล "(Mt 25: 31-46) มีความแตกต่างอย่างมากจากนี้คาร์ลมาร์กซ์ทฤษฎีของการปลดปล่อยและยังแตกต่างจากที่ของขงจื้อและลัทธิเต๋า ในโลกสมัยใหม่ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของประชากรโลกที่ทนทุกข์ทรมานจากความอดอยาก วิมุตติธรรมสามารถส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเพื่อดำเนินการต่อในการพัฒนาวิธีการที่จะอยู่ในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประชากรกลุ่มนี้ ดังนั้นหลักคำสอนของวิมุตติธรรมบางส่วนสามารถเข้าร่วมกับหลักคำสอนของ con- fucianism และลัทธิเต๋าและมือในมือพวกเขาสามารถทำงานในการพัฒนาวัฒนธรรมการกุศลมากขึ้นภายในภายในจิตใจของผู้คนและภายนอกโดยการเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลัทธิขงจื๊อยังใช้แนวคิดของความรับผิดชอบและความยุติธรรม ตัวอย่างเช่น เม่งจื๊อกล่าวถึงความยุติธรรมหลายครั้ง ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แนวคิดของเขา แต่ถูกมากแตกต่างจากแนวคิดของความยุติธรรมในสังคมที่ใช้วันนี้ โดยทั่วไป ในประวัติศาสตร์ของอดีตไม่พอจ่ายความสนใจได้รับการวิพากษ์สถานะปัจจุบันของความยุติธรรมและต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของผู้ที่ยากจนและถูกกดขี่ ศาสตราจารย์หลิน anwu คำอธิบายสำหรับเรื่องนี้มีมูลค่า quoting ยาว :

มีสามประเภทของลัทธิขงจื้อ คนแรกคือ " แบบขงจื้อ " ที่ให้คำแนะนำสำหรับกิจกรรมและ occu - pations ในชีวิตประจําวัน ประการที่สอง" Dominating ลัทธิขงจื้อ " ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อจัดระเบียบและอิทธิพลเหนือประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และการเข้าใจสังคม ชนิดที่สามของขงจื้อ " ลัทธิขงจื้อ " วิพากษ์วิจารณ์ความอยุติธรรม และปัญหาสังคมอื่น ๆ ในสังคมและรัฐบาล ในลัทธิขงจื๊อได้รับ pri - แมรี่ ประเภทของลัทธิขงจื้อ ท่าในประวัติศาสตร์จีนจึงทำให้พัฒนาการของลัทธิขงจื้อ ที่สําคัญ ( 2003:114 )
คล้ายกับปรัชญาขงจื้อ ลัทธิเต๋า มี 2 ขั้นตอนคือ เฟสแรกเกิดขึ้นในราชวงศ์ฉิน ( 221 ) 206 b.c.e ) ขั้นตอนนี้ทำเครื่องหมายการมาถึงของลัทธิเต๋า ในระหว่างที่ส่วนใหญ่นับถือลัทธิเต๋า เป็นนักวิชาการ และเล่าจื๊อ zhuangzi , จะว่ามีดอทคอม - กองหลักมาตรฐาน daoist ทํางานระยะที่สองกินเวลาจากปลายราชวงศ์ฉิน ( ราว 206 b.c.e ) สมัยราชวงศ์ชิง ( ค.ศ. 1644 – 2455 ) ในช่วงเวลานี้ , ลัทธิเต๋าอยู่ภายใต้ระบอบการเมือง เนื่องจากข้อ จำกัด อยู่ในกิจกรรมทางกายภาพระหว่างราชวงศ์อิมพีเรียล นักปรัชญาวิจัยหัวข้อเรื่อง metaphys - ไอซีแทน 22


ลัทธิขงจื้อและลัทธิเต๋าเน้น self-cultivation มากกว่าสังคมยุติธรรมเท่าที่ดำเนินการทางการเมืองและเป็นห่วง Confucians daoists ได้รับทราบเพื่อการรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมืองจีน ตัวอย่างกติกาท้องถิ่น ( xiangyue ) ที่กล่าวข้างต้น เน้นช่วยเหลือกันและส่งเสริมการทำบุญ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนโครงสร้างสังคมไม่สนับสนุน . ดังนั้นในความรู้สึกบางอย่างลัทธิขงจื้อและลัทธิเต๋าได้มากขึ้น ร่วมกับการปลูกอัตนัยของจิตใจและร่างกาย และดูจะมีมุมมองที่แสดงว่าการรับรู้ทางสังคม .
วิมุตติธรรมบนขนาดใหญ่จะแสดงเฉพาะทางความคิดของสิ่งที่ก่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม แต่เป็นสังคมที่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ เทววิทยาการปลดปล่อยตาม ,ของต่อ - spective ยุติธรรมเป็นกลาง และการใฝ่หาความยุติธรรมในสังคมเป็นหัวใจของต่อไปนี้ของพระเจ้า ( หลิว 1996:235 ) , " สิ่งที่คุณได้ทำลงไป อย่างน้อย น้อง ๆทั้งหลาย คุณทำเพื่อผม . . . . . . . ระบุเป็นรางวัลเตรียมไว้ให้คุณ ตลอดกาล " ( MT 25:31-46 )นี้แตกต่างอย่างมากจากคาร์ลมาร์กซ์ทฤษฎีของการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ และยังแตกต่างจากที่ของลัทธิขงจื้อและลัทธิเต๋า . ในโลกสมัยใหม่ หนึ่งในสามของประชากรโลกทนทุกข์ทรมานจากความอดอยาก เทววิทยาการปลดปล่อยสามารถส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันต่อการพัฒนาวิธีการที่จะอยู่ในความสมัครสมานกับประชากรนี้ ดังนั้นบางความเชื่อของเทววิทยาการปลดปล่อยสามารถเข้าร่วมกับความเชื่อของลัทธิเต๋า และมือ fucianism con - และพวกเขาสามารถทำงานเพื่อพัฒนาวัฒนธรรมกุศลมากขึ้น ภายใน ภายในจิตใจของคน และภายนอก โดยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคม