We examined the co-evolution of the

We examined the co-evolution of the transportation, and electricity and heat generation sectors in the Netherlands until 2040 using a MARKAL bottom-up cost optimisation model.

All scenario variants investigated indicate a switch away from crude oil-based diesel and petrol for transportation. Lowest overall CO2 abatement cost is achieved by accommodating transportation first and using relatively expensive options for emissions reduction in electricity generation if needed.

Biomass and carbon capture and storage (CCS) are used to full potential. Transportation CO2 emissions are reduced by switching to ethanol or bio-based synthetic fuels combined with CCS, and series hybrid cars if needed. Depending on the availability of biomass and carbon storage capacity, electricity is produced from biomass, coal with CCS, or wind complemented with natural gas. Indirect greenhouse gas emissions rise to 34–54% of national emissions in 2040.

The difference in annual investment required between the scenario variants with and without CO2 emissions reductions of 68% by 2040 is 4–7 billion euro/year, or 0.5–1.2% of projected GDP.

Investment costs are mostly determined by the cost of cars and electricity generation capacity. We observe competition for limited biomass supply and CO2 storage capacity between the transportation and power sectors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราตรวจสอบการวิวัฒนาการร่วมขนส่ง และภาคสร้างไฟฟ้าและความร้อนในประเทศเนเธอร์แลนด์ถึง 2040 โดยใช้แบบจำลองเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนค่าล่าง MARKALสถานการณ์ย่อยทั้งหมดที่ตรวจสอบบ่งชี้สลับใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินสำหรับการขนส่ง ทุนลดหย่อน CO2 โดยรวมต่ำที่สุดสามารถทำได้ โดยรองรับการขนส่งก่อนตัวเลือกค่อนข้างแพงสำหรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในไฟฟ้าถ้าจำเป็นชีวมวล และจับคาร์บอน และเก็บ (CCS) จะใช้ให้เต็มศักยภาพ ปล่อย CO2 ขนส่งจะลดลงตามการเปลี่ยนเอทานอลหรือไบโอใช้สังเคราะห์เชื้อเพลิงรวมกับ CCS รถไฮบริดชุดถ้าจำเป็น ขึ้นอยู่กับความจุแบบชีวมวลและคาร์บอน เป็นผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ถ่านหิน CCS หรือลมด้วยก๊าซธรรมชาติ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมเพิ่มขึ้นเป็น 34-54% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแห่งชาติใน 2040ความแตกต่างในการลงทุนประจำปีระหว่างตัวแปรกรณีมี และไม่ มีการลดการปล่อยก๊าซ CO2 ของ 68% โดย 2040 คือ 4-7 พันล้านยูโร/ปี หรือ 0.5 – 1.2% ของ GDP คาดการณ์ต้นทุนการลงทุนส่วนใหญ่กำหนด โดยต้นทุนของรถยนต์และกำลังผลิตติดตั้งไฟฟ้า เราสังเกตแข่งขัน CO2 เก็บระหว่างการขนส่งและภาคพลังงานและจัดหาชีวมวลจำกัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราตรวจสอบร่วมวิวัฒนาการของการขนส่งและไฟฟ้าและภาคการเกิดความร้อนในประเทศเนเธอร์แลนด์จนถึง 2040 โดยใช้รูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพด้านล่างขึ้น Markal ค่าใช้จ่าย. สถานการณ์ทุกสายพันธุ์การตรวจสอบแสดงให้เห็นว่าสวิทช์ออกจากน้ำมันที่ใช้น้ำมันดิบน้ำมันดีเซลและน้ำมันสำหรับการขนส่ง ค่าใช้จ่ายโดยรวมลด CO2 ต่ำสุดจะทำได้โดยรองรับการขนส่งครั้งแรกและใช้ตัวเลือกที่ค่อนข้างมีราคาแพงสำหรับลดการปล่อยก๊าซในการผลิตไฟฟ้าในกรณีที่จำเป็น. ชีวมวลและคาร์บอนและเก็บ (CCS) ถูกนำมาใช้ให้เต็มศักยภาพ การขนส่งการปล่อย CO2 จะลดลงโดยสลับไปที่เอทานอลหรือชีวภาพเชื้อเพลิงสังเคราะห์รวมกับ CCS และชุดรถยนต์ไฮบริถ้าจำเป็น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของชีวมวลและความจุคาร์บอนผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลถ่านหินกับ CCS หรือลมครบครันด้วยก๊าซธรรมชาติ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมเพิ่มขึ้นเป็น 34-54% ของการปล่อยของชาติใน 2,040. ความแตกต่างในการลงทุนประจำปีต้องระหว่างสถานการณ์พันธุ์ที่มีและไม่มี CO2 ลดการปล่อยมลพิษจาก 68% จาก 2,040 เป็น 4-7000000000 ยูโร / ปีหรือ 0.5-1.2 % ของ GDP ที่คาดการณ์ไว้. ค่าใช้จ่ายในการลงทุนจะถูกกำหนดโดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของรถยนต์และความสามารถในการผลิตกระแสไฟฟ้า เราสังเกตการแข่งขันสำหรับการจัดหาเชื้อเพลิงชีวมวล จำกัด และความจุ CO2 ระหว่างการขนส่งและภาคพลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราตรวจสอบ Co วิวัฒนาการของการขนส่ง และไฟฟ้า และภาคการผลิตความร้อนในเนเธอร์แลนด์จนกระทั่ง 2040 ใช้ markal ล่างต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพรุ่น

ทุกสถานการณ์แปรเปลี่ยนไป จากสอบสวนระบุว่า น้ำมันดิบและน้ำมันเบนซิน ดีเซล น้ำมันพื้นฐานสำหรับการขนส่งโดยการลดต้นทุนค่า CO2 ได้โดยรองรับการขนส่งแรกและใช้ตัวเลือกค่อนข้างแพงสำหรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตไฟฟ้าถ้าต้องการ

ชีวมวลและการดักจับและกักเก็บคาร์บอน ) จะใช้ให้เต็มศักยภาพ การขนส่งการปล่อย CO2 จะลดลงโดยการเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงไบโอเอทานอลหรือสังเคราะห์รวมกับ CCS ,และชุดรถยนต์ไฮบริด ถ้าจำเป็น ขึ้นอยู่กับความพร้อมของชีวมวลและความจุไฟฟ้าที่ผลิตจากชีวมวลคาร์บอนถ่านหินกับ CCS หรือลม ครบครันด้วยก๊าซธรรมชาติ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยทางอ้อมเพิ่มขึ้น 34 – 54 % ของการปล่อยก๊าซแห่งชาติ

ใน 2040ความแตกต่างระหว่างปีการลงทุนต้องสมมติตัวแปรที่มีและไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของ 68% โดย 2040 เป็น 4 – 7 ล้านยูโร / ปี หรือ 0.5 - 1.2 % คาด GDP .

ลงทุนค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะพิจารณาจากต้นทุนของการผลิตรถยนต์และไฟฟ้ารุ่นเราสังเกตการแข่งขันเพื่อจัดหาชีวมวลจำกัดและ CO2 ความจุระหว่างการขนส่งและพลังงานภาค