The windmill area at Kinderdijk in

The windmill area at Kinderdijk in the Netherlands was named a UNESCO World Heritage Site in 1997. The system of dikes, polders, windmills and holding basins ("boezems" in Dutch) at Kinderdijk was used for several centuries to reclaim land and keep flood waters away.

Water management is essential in the Netherlands, because a large percentage of the country is actually below sea level. In the 13th century, the Dutch began building dikes and drainage canals to create more farmland. These reclaimed pieces of land, called "polders," had to be carefully managed because they were susceptible to flooding and to subsidence.

Polder boards were created to manage the land so that one single landowner would not have to protect the farms of others from surging water. These polder boards are still in existence today in the form of water management districts. Kinderdijk lies at the edge of two water management districts, Nederwaard and Overwaard.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นที่สีลมที่ Kinderdijk ในประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นชื่อยูเนสโกมรดกโลกในปี 1997 ระบบการทำงานของคู Polders, กังหันลมและถืออ่าง ("boezems" ในดัตช์) ที่ Kinderdijk ถูกนำมาใช้เป็นเวลาหลายศตวรรษที่การเรียกคืนที่ดินและให้น้ำท่วมไป.

จัดการน้ำเป็นสิ่งสำคัญในประเทศเนเธอร์แลนด์เพราะใหญ่ร้อยละของ ประเทศเป็นจริงต่ำกว่าระดับน้ำทะเลในศตวรรษที่ 13, ดัตช์เริ่มสร้างเขื่อนและคลองระบายน้ำที่จะสร้างพื้นที่เพาะปลูกมากขึ้น ชิ้นส่วนเหล่านี้ยึดที่ดินที่เรียกว่า "Polders" จะต้องได้รับการจัดการอย่างระมัดระวังเพราะพวกเขาเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมและการทรุดตัวของ. บอร์ด

ลุ่มที่ถูกสร้างขึ้นในการจัดการที่ดินเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวเจ้าของที่ดินจะไม่ต้องปกป้องฟาร์มของผู้อื่น จากพล่านน้ำกระดานลุ่มเหล่านี้ยังคงดำรงอยู่ในปัจจุบันในรูปแบบของเขตการจัดการน้ำ Kinderdijk อยู่ที่ขอบของสองเขตการจัดการน้ำและ nederwaard overwaard

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริเวณวินด์มิลล์ Kinderdijk ในเนเธอร์แลนด์ที่ชื่อไซต์มรดกโลกองค์การยูเนสโกในปี 1997 ระบบของประเทศ polders, windmills และถืออ่างล่างหน้า ("boezems" ในภาษาดัตช์) ที่ Kinderdijk ใช้หลายศตวรรษ การเรียกคืนแผ่นดินให้ท่วมไป

จัดการน้ำเป็นสิ่งจำเป็นในประเทศเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากร้อยละใหญ่ของประเทศเป็นจริงต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ในศตวรรษที่ 13 ดัตช์ที่เริ่มสร้างประเทศและคลองระบายน้ำเพื่อสร้างพื้นที่การเกษตรเพิ่มเติม ชิ้นส่วนเหล่านี้ reclaimed ที่ดิน เรียกว่า "polders มีการจัดการอย่างระมัดระวังได้เพราะไวต่อน้ำ และหิน

สร้างการจัดการที่ดินให้ที่ดินหนึ่งเดียวก็ไม่ต้องปกป้องฟาร์มของคนอื่นจากน้ำ surging Polder กระดาน บอร์ด polder เหล่านี้ยังคงอยู่ในวันนี้ในรูปแบบของเขตการจัดการน้ำที่มีอยู่ได้ Kinderdijk ที่อยู่ในขอบเขตจัดการน้ำสอง Nederwaard และ Overwaard

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริเวณพื้นที่กังหันลมที่ kinderdijk ในประเทศเนเธอร์แลนด์ได้รับการขนานนามว่าโลกของยูเนสโกในปี 1997 ระบบของกังหันลมที่ลุ่มด้านประวัติศาสต์และอ่างล้างหน้าอยู่(" boezems "ในดัตช์)ที่ kinderdijk ถูกใช้สำหรับช่วงระยะเวลาหลายศตวรรษเพื่อขอคืนที่ดินและน้ำทำให้น้ำท่วมอยู่ห่างออกไปในระยะทาง

การจัดการน้ำเป็นสิ่งจำเป็นในประเทศเนเธอร์แลนด์เพราะเปอร์เซ็นต์ขนาดใหญ่ของประเทศที่เป็นจริงด้านล่างระดับน้ำทะเลในช่วงศตวรรษที่ 13 ตามแบบ Dutch ที่เริ่มก่อสร้างคลองระบายน้ำและซึ่งโดดเด่นไปด้วยการสร้างพื้นที่การเกษตรมากกว่า เหล่านี้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยขอคืนของที่ดินเรียกว่า"ที่ลุ่ม"จะต้องถูกจัดการอย่างระมัดระวังเพราะพวกเขามีความรู้สึกไวจะเกิดน้ำท่วมและการยุบตัว.บอร์ด

ลุ่มถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการจัดการที่ดินที่ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวจะได้ไม่ต้องปกป้องฟาร์มของผู้อื่นจากคาดว่าน้ำบอร์ดลุ่มเหล่านี้จะยังคงอยู่ในการดำรงอยู่ในวันนี้ในรูปแบบของเขตการจัดการน้ำ kinderdijk ทอดตัวอยู่ที่ขอบของสองเขตพื้นที่การจัดการน้ำและ nederwaard overwaard