In the 18th century, Saint Dominigu

In the 18th century, Saint Dominigue, as Haiti was then known, became France's wealthiest overseas colony, largely because of its production of sugar, coffee, indigo, and cotton generated by an enslaved labor force. When the French revolution broke out in 1789 there were five distinct sets of interest groups in the colony. - See more at: http://www.blackpast.org/gah/haitian-revolution-1791-1804#sthash.jqujCdOz.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในศตวรรษที่ 18 เซนต์ Dominigue เป็นที่เฮติแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นของฝรั่งเศสร่ำรวยต่างประเทศอาณานิคม ส่วนใหญ่เนื่องจากการผลิตน้ำตาล กาแฟ อินดิโก้ และผ้าฝ้ายที่สร้างขึ้น โดยการบังคับแรงงาน enslaved เมื่อการปฏิวัติฝรั่งเศสเกิดขึ้นในค.ศ. 1789 มีชุดทั้งห้าของกลุ่มสนใจในฝูง -ดูเพิ่มเติมได้ที่: http://www.blackpastorg/gah/haitian-revolution-1791-1804#sthash.jqujCdOz.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในศตวรรษที่ 18 เซนต์ Dominigue ขณะที่เฮติเป็นที่รู้จักกันแล้วกลายเป็นของฝรั่งเศสที่ร่ำรวยอาณานิคมในต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นเพราะการผลิตของน้ำตาลกาแฟสีครามและผ้าฝ้ายที่เกิดจากแรงงานทาส เมื่อการปฏิวัติฝรั่งเศสโพล่งออกมาใน 1789 มีห้าชุดที่แตกต่างของกลุ่มผลประโยชน์ในอาณานิคม - ดูเพิ่มเติมได้ที่: http://www.blackpast.org/gah/haitian ปฏิวัติ-1791-1804#sthash.jqujCdOz.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในศตวรรษที่ 18 , เซนต์ dominigue ที่เฮติ ก็รู้จักกันเป็นอาณานิคมฝรั่งเศสที่ร่ำรวยที่สุดในต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นเพราะมีการผลิตน้ำตาล กาแฟ ฝ้าย คราม และสร้างขึ้นโดยการกดขี่แรงงาน เมื่อการปฏิวัติฝรั่งเศสโพล่งออกมาใน 1789 มีห้าชุดที่แตกต่างกันของกลุ่มผลประโยชน์ในอาณานิคม ดูเพิ่มเติมที่ : http://www.blackpast .org / จ๊าก / haitian-revolution-1791-1804 # sthash.jqujcdoz.dpuf