S1 The main difference about univer

S1 The main difference about university is that you need to be self-motivated. There’s no-one here to prompt you, tell you what to do anymore; you’ve really got to do it on your own back.

S2 The main difference I’ve found between school and university is the independent learning, which is a big shock to the system after you’ve come from college and secondary school.

S3 The main difference is, well for me between school and university, just the first time you go to a lecture theatre and you’re suddenly surrounded by 250 other people and you’re no longer in a class of 25 where you all know the teacher and you’ve got that relationship and you know what’s going on. It is you, 250 others and a lecturer at the front with a PowerPoint presentation. It can be really quite daunting to start off with but you soon get into the swing of it and kind of work out what notes you need to be taking and what you’re doing and you start to get to know people a bit more.

S4 It’s very different studying at university than it was at A-level at school when you’re there from 9.00 until 4.00 every day and pretty much you’re told what to learn and you’re given all the answers to the exams basically.

S5 There's been a big difference between school and university. I’ve found here how to do a lot of independent work, how to go and use the library, using internet resources and stuff.

S6 The University is very much about independent learning, you’ve got to be very self-motivated and develop skills like critical thinking. You’ve got to be able to go to the library and work on your own.

S7 Independent learning is all about learning on your own, motivating yourself to do your own work, studying in your own time, the thing that you don’t do in lectures like reading books, going over old exam questions and things like that.

S8 You have to have the dedication to go to the library and do it yourself.

S9 You just get used to it. You just get used to going into the library, reading about the lecture you’re just come out of and then going to a seminar and having to talk about the subject with passion.

S10 You don’t have teachers running after you 24/7 to hunt down work. Lecturers give you knowledge that you somehow have to learn. You’re not taught; you’re given knowledge from academics that you have to learn.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

s1 แตกต่างที่สำคัญเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยคือการที่คุณจะต้องมีตัวกระตุ้น มีไม่มีใครที่นี่เพื่อแจ้งให้คุณบอกคุณว่าจะทำอีกต่อไปที่คุณได้จริงๆที่จะทำมันอยู่บนหลังของคุณเอง

s2 แตกต่างที่สำคัญที่ฉันได้พบระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นอิสระในการเรียนรู้ซึ่งเป็น. ช็อตใหญ่ให้กับระบบหลังจากที่คุณได้มาจากวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยม.

s3 แตกต่างที่สำคัญคือดีสำหรับฉันระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเพียงครั้งแรกที่คุณไปที่โรงละครการบรรยายและคุณก็ล้อมรอบด้วย 250 คนอื่น ๆ และคุณไม่ได้อยู่ในชั้นเรียนของ 25 ที่ทุกท่านทราบ ครูและคุณได้มีความสัมพันธ์ที่และคุณรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ที่เป็นคุณ, 250 คนอื่น ๆ และวิทยากรที่ด้านหน้าด้วยการนำเสนอ PowerPointมันอาจจะเป็นจริงค่อนข้างน่ากลัวที่จะเริ่มต้นด้วย แต่คุณเร็ว ๆ นี้จะได้รับในการแกว่งของมันและชนิดของผลงานออกมาตั้งข้อสังเกตสิ่งที่คุณจำเป็นต้องได้รับและสิ่งที่คุณกำลังทำและคุณเริ่มที่จะได้รับรู้ว่าคนน้อยมาก.

s4 มันแตกต่างกันมากกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกว่าที่จะอยู่ในระดับที่โรงเรียนเมื่อคุณอยู่ที่นั่นตั้งแต่ 9.00 จนถึง 400 ทุกวันและสวยมากที่คุณกำลังบอกว่าจะเรียนรู้และคุณได้รับทุกคำตอบในการสอบพื้น.

s5 มีการแตกต่างใหญ่ระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ฉันได้พบได้ที่นี่วิธีที่จะทำมากในการทำงานที่เป็นอิสระวิธีการไปใช้ห้องสมุดและการใช้ทรัพยากรอินเทอร์เน็ตและสิ่ง.

s6 มหาวิทยาลัยเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่เป็นอิสระคุณได้มีการเป็นตัวกระตุ้นและพัฒนาทักษะมากเช่นคิดอย่างมีวิจารณญาณ คุณได้มีเพื่อให้สามารถไปที่ห้องสมุดและทำงานด้วยตัวคุณเอง.

การเรียนรู้ที่เป็นอิสระ s7 เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้วยตัวคุณเองสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองในการทำงานของคุณเองที่ศึกษาอยู่ในเวลาของคุณเองสิ่งที่คุณสวม 't ทำในการบรรยายเช่นการอ่านหนังสือจะไปสอบคำถามเก่าและสิ่งที่ต้องการที่.

s8 คุณต้องมีความมุ่งมั่นที่จะไปที่ห้องสมุดและทำมันด้วยตัวคุณเอง.

s9 คุณเพียงแค่ได้ใช้มัน คุณเพิ่งได้รับการใช้ในการที่จะเข้าห้องสมุดอ่านเกี่ยวกับการบรรยายของคุณเพียงแค่ออกมาจากนั้นจะไปสัมมนาและมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องความรักด้วย.

s10 คุณไม่ได้มีครูทำงานหลังจากที่คุณ 24 / 7 เพื่อตามล่างานอาจารย์ให้ความรู้อย่างใดที่คุณต้องเรียนรู้ คุณไม่ได้สอน; คุณได้รับความรู้จากนักวิชาการที่คุณต้องเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

S1 ข้อแตกต่างหลักเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยคือ คุณต้องมีแรงจูงใจตนเอง มีไม่มีใครที่นี่กับคุณ คุณบอกสิ่งที่ต้องทำอีก จริง ๆ ได้ทำบนหลังคุณ

S2 ต่างหลักได้พบระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเป็นราคาเรียนอิสระ ซึ่งเป็นช็อตใหญ่ระบบหลังจากที่คุณได้มาจากโรงเรียนมัธยมและวิทยาลัย

S3 ความแตกต่างหลัก คือ ดีสำหรับฉันระหว่างมหาวิทยาลัยและโรงเรียน เพียงครั้งแรกคุณไปโรงละครบรรยาย และคุณทันทีด้วย 250 คนอื่น ๆ และคุณไม่ได้อยู่ในชั้น 25 ที่คุณทั้งหมดทราบว่าครูได้การ และคุณรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณ 250 คน และอาจารย์ที่ด้านหน้ากับงานนำเสนอ PowerPoint ได้ สามารถจริง ๆ ค่อนข้างยุ่งยากเมื่อต้องการเริ่มต้นด้วย แต่คุณเข้าสวิงมันเร็ว และชนิดของงานสิ่งบันทึกต้องได้รับและสิ่งที่คุณทำ และคุณเริ่มรู้จักคนมากขึ้น

S4 มันแตกต่างกันมากเรียนที่มหาวิทยาลัยกว่าถูกที่กำหนดอย่างที่คุณต้องการมีตั้งแต่ 09.00 ถึง 400 ทุกวันและสวยมากคุณกำลังบอกว่า สิ่งที่เรียนรู้และคุณจะให้คำตอบทั้งหมดเพื่อการสอบโดยทั่วไป

S5 ของการเกิดความแตกต่างระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ได้พบที่นี่ว่าจะทำมากของการทำงานอิสระ วิธีการหา และใช้ห้องสมุด การใช้อินเทอร์เน็ตทรัพยากรและสิ่ง

S6 มหาวิทยาลัยเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้วยตนเอง คุณได้มากตนเองแรงจูงใจ และพัฒนาทักษะการคิดที่สำคัญเช่น สามารถไปไลบรารีและงานของคุณเองได้

S7 อิสระเรียนรู้คือการเรียนรู้ในการสร้างแรงจูงของคุณเอง ใจการทำงานของคุณ เรียนในเวลาของคุณเอง สิ่งที่คุณไม่ได้ทำในบรรยายเช่นอ่านหนังสือ ไปมากกว่าเก่าสอบถาม และสิ่งที่ตัวเองชอบที่.

S8 คุณได้ทุ่มเทไปในไลบรารี และทำตัวเองให้

คุณเพียงรับใช้กับ S9 คุณเพียงได้ใช้ไปรี อ่านเกี่ยวกับการบรรยายคุณเพียงกำลังมาจากแล้วไปงานสัมมนา และมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่มีความรัก

S10 คุณครูที่ทำงานหลังจากคุณ 24/7 สามารถแกะงาน อาจารย์ให้ความรู้ที่คุณมีเรียนอย่างใด คุณกำลังไม่สอน คุณกำลังได้รับความรู้จากนักวิชาการที่คุณต้องเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

S 1 ข้อแตกต่างที่สำคัญเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยเป็นที่คุณต้องการได้ด้วยแรงจูงใจ มีไม่มีใครมาที่นี่เพื่อแจ้งให้คุณบอกคุณว่าจะทำอะไรอีกต่อไปคุณก็ต้องทำที่ด้านหลังของ your. 2

S ข้อแตกต่างที่สำคัญก็จริงๆแล้วผมได้พบได้ในระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัยมีการเรียนรู้อย่างเป็นอิสระซึ่งเป็นขนาดใหญ่เพื่อเป็นระบบหลังจากที่คุณได้เข้ามาในวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยม.

S 3 หลักความแตกต่างเป็นอย่างดีสำหรับผมระหว่างโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเพียงครั้งแรกที่คุณเข้าไปที่การบรรยายโฮมเธียเตอร์และคุณก็โอบล้อมไปด้วย 250 คนและคุณจะไม่มีอีกต่อไปในระดับ first class ของ 25 สถานที่ซึ่งท่านทุกคนทราบดีว่าเป็นครูสอนและคุณได้ว่าความสัมพันธ์และคุณรู้ว่าอะไรเป็นอะไร. เป็นคุณ 250 คนอื่นๆและเป็นอาจารย์ที่ด้านหน้าพร้อมด้วยงานนำเสนอ PowerPointคุณสามารถแท้จริงแล้วเป็นเรื่องยากในการเริ่มปิดด้วยแต่คุณก็จะได้รับไปในที่แขวนคอของมันและ ประเภท ของงานออกมาว่าข้อความที่คุณต้องการจะนำมาใช้และสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่และคุณจะเริ่มทำความรู้จักกับคนที่ค่อนข้างมาก.

S 4 เป็นอย่างมากต่างกันการเรียนในมหาวิทยาลัยมากกว่าที่เคยเป็นในระดับที่โรงเรียนเมื่อคุณอยู่ที่นั่นจาก 9.00 จนกว่า 4 .00 ทุกวันและน่ารักมากคุณจะบอกว่าในการเรียนรู้และคุณจะได้รับคำตอบทั้งหมดเพื่อการสอบโดยพื้นฐานแล้ว.

S 5 มีความแตกต่างมากระหว่างมหาวิทยาลัยและโรงเรียน ผมได้พบได้ที่นี่จะทำได้อย่างไรอย่างมากในการทำงานเป็นอิสระได้อย่างไรจะไปและใช้งานไลบรารีได้โดยใช้สิ่งของและทรัพยากรอินเทอร์เน็ต.

S 6 มหาวิทยาลัยที่เป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเรียนรู้อย่างเป็นอิสระคุณจะต้องเป็นอย่างมากด้วยตนเอง - สร้างแรงจูงใจและพัฒนาทักษะความคิดเหมือนกับที่มีความสำคัญ คุณจะต้องสามารถที่จะไปในไลบรารีและการทำงานในส่วนตัวของคุณ.

การเรียนรู้ S 7 เป็นอิสระเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียนรู้ในตัวของท่านเองด้วยตัวคุณเองเพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่พนักงานของคุณทำการงานของคุณเองการศึกษาในช่วงเวลาส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งที่คุณไม่ได้ทำในการบรรยายเหมือนกับการอ่านหนังสือจะไปตอบคำถามการสอบเก่าและสิ่งต่างๆเช่นที่.

S 8 คุณจะต้องมีความทุ่มเทที่จะไปยังไลบรารีและทำได้ด้วยตัวคุณเอง.

S 9 คุณเพียงได้รับกับมัน คุณจะได้รับใช้ในการเข้าไปในไลบรารีการอ่านเกี่ยวกับการบรรยายคุณอยู่ห่างในระยะทางเพียงไม่กี่ออกมาและจากนั้นจะไปที่งานสัมมนาและมีการพูดถึงเรื่องนี้ด้วยความโกรธแค้น.

S 10 คุณจะไม่มีครูทำงานหลังจากที่คุณ 24/7 24/7 24/7 การล่าลงทำงาน.ผู้ทรงคุณวุฒิให้คุณรู้ว่าคุณไม่รู้ว่าจะต้องเรียนรู้ คุณไม่ได้สอนให้คุณจะได้รับความรู้จากนักวิชาการว่าคุณต้องเรียนรู้