Living on Campus or Living off Camp

Living on Campus or Living off Campus
When I passed the entrance examination, I had to decide whether I lived on campus or off campus. After I had talked with my parents and friends, I decided to live in the university dormitory. When I have considered expenses, safety, and convenience, living on campus is better than living off campus.
Living on campus is cheaper than living off campus. On campus, students have to pay for accommodation semester by semester. If there are 3 students in one room, one has to pay 8,000 baht per semester—2,000 baht per month. If they live off campus, for example in an apartment, they have to pay approximately 5,000 baht per month. Moreover, students have to pay for electricity and water bills the rate of which is more expensive if they live off campus.
Living in the university dormitory is safer. There are security guards on campus and there are also maids, who take care of everything. The dormitory also has an exact time for opening and closing its gate. In addition, male and female students live in separate buildings.
When we consider convenience, living-on-campus students are easier to be exposed to university facilities. The dormitory is close to the library, the gym, the central cafeteria, the swimming pool, the bank and the ATM. For students who want to commute on campus, the University also provides a free “tram”—an eco-car running from building to building on campus.
All in all, living on campus is cheaper, safer, and more convenient. When you live on campus, you can help your parents save expenses and they can feel relieved because they know that their children are safe. Will you choose to live on campus?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยหรือชีวิตออกจากมหาวิทยาลัย เมื่อผมผ่านการสอบเข้า ฉันได้ตัดสินใจว่า ฉันอาศัยอยู่ ในมหาวิทยาลัย หรือ จากมหาวิทยาลัย หลังจากที่ผมได้พูดคุยกับพ่อแม่และเพื่อนของฉัน ฉันตัดสินใจอาศัยอยู่ในหอพักมหาวิทยาลัย เมื่อผมได้พิจารณาค่าใช้จ่าย ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้ดีกว่าชีวิตออกจากมหาวิทยาลัย ชีวิตในมหาวิทยาลัยจะถูกกว่าชีวิตออกจากมหาวิทยาลัย ในมหาวิทยาลัย นักศึกษาต้องจ่ายค่าที่พักภาคเรียนโดยภาคการศึกษา ถ้ามีนักเรียน 3 ห้อง ไม่มีค่าจ้าง 8000 บาท ต่อภาคการศึกษาคือ 2000 บาท ต่อเดือน ถ้าพวกเขาอาศัยอยู่ออกวิทยาเขต เช่นในอพาร์ทเม้น พวกเขาได้จ่ายประมาณ 5000 บาท ต่อเดือน นอกจากนี้ นักเรียนจะต้องจ่ายสำหรับไฟฟ้าและน้ำประปาสูตรอัตราซึ่งมีราคาแพงมากขึ้นถ้าพวกเขาอาศัยอยู่ออกวิทยาเขต อาศัยอยู่ในหอพักมหาวิทยาลัยจะปลอดภัย มียามรักษาความปลอดภัยในมหาวิทยาลัย และยังมีแม่บ้าน คนดูแลทุกอย่าง หอพักยังมีเวลาแน่นอนสำหรับการเปิด และปิดของประตู นอกจากนี้ นักเรียนชาย และหญิงอยู่ในอาคารที่แยกต่างหาก เมื่อเราพิจารณาความสะดวก นักเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยได้ง่ายขึ้นถูกมหาวิทยาลัยสิ่งอำนวยความสะดวก หอพักมีห้องสมุด โรงยิม โรงอาหารกลาง สระว่ายน้ำ ธนาคาร และ ATM เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยยังมีการฟรี "รถราง" ซึ่งเป็นอีโครถทำงานจากตึกอาคารในมหาวิทยาลัย หมด ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยได้ถูกกว่า ปลอดภัย และเพิ่มความสะดวกสบาย เมื่อคุณอยู่ในมหาวิทยาลัย คุณสามารถช่วยพ่อแม่ประหยัดค่าใช้จ่าย และพวกเขาสามารถรู้สึกปลดปล่อย เพราะพวกเขารู้ว่า เด็กมีความปลอดภัย คุณจะเลือกอยู่ในมหาวิทยาลัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยหรือที่อาศัยอยู่นอกมหาวิทยาลัย
และเมื่อเราผ่านการสอบเข้าผมต้องตัดสินใจว่าผมอยู่ในมหาวิทยาลัยหรือนอกมหาวิทยาลัย หลังจากที่ผมได้พูดคุยกับพ่อแม่และเพื่อน ๆ ของฉันฉันตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัย เมื่อฉันได้มีการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการรักษาความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยจะดีกว่าอยู่นอกมหาวิทยาลัย.
ที่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยมีราคาถูกกว่าที่อาศัยอยู่นอกมหาวิทยาลัย ในมหาวิทยาลัยนักเรียนจะต้องจ่ายสำหรับภาคการศึกษาภาคการศึกษาที่พัก หากมีนักเรียน 3 คนในห้องหนึ่งอย่างใดอย่างหนึ่งจะต้องจ่าย 8,000 บาทต่อภาคการศึกษา 2,000 บาทต่อเดือน ถ้าพวกเขาอาศัยอยู่นอกมหาวิทยาลัยเช่นในอพาร์ทเม้น, พวกเขาต้องจ่ายประมาณ 5,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้นักเรียนต้องจ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าและน้ำในอัตราซึ่งมีราคาแพงมากขึ้นถ้าพวกเขาอาศัยอยู่นอกมหาวิทยาลัย.
ที่อาศัยอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยมีความปลอดภัย มียามรักษาความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยและยังมีแม่บ้านที่ดูแลทุกอย่าง หอพักนอกจากนี้ยังมีเวลาที่แน่นอนสำหรับการเปิดและปิดประตูของ นอกจากนี้ชายและนักเรียนหญิงที่อาศัยอยู่ในอาคารที่แยกต่างหาก.
เมื่อเราพิจารณาความสะดวกที่อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยนักเรียนจะง่ายต่อการได้สัมผัสกับสิ่งอำนวยความสะดวกในมหาวิทยาลัย หอพักอยู่ใกล้กับห้องสมุด, ห้องฟิตเนส, โรงอาหารกลางสระว่ายน้ำ, ธนาคารและตู้เอทีเอ็ม สำหรับนักเรียนที่ต้องการที่จะเดินทางในมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยนอกจากนี้ยังมีฟรี "รถราง" โครงสร้างเชิงนิเวศรถวิ่งออกมาจากอาคารที่สร้างในมหาวิทยาลัย.
ทั้งหมดในทุกการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยมีราคาถูกปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น เมื่อคุณอาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยที่คุณสามารถช่วยพ่อแม่ของคุณประหยัดค่าใช้จ่ายและพวกเขาสามารถรู้สึกโล่งใจเพราะพวกเขารู้ว่าเด็กของพวกเขามีความปลอดภัย คุณจะเลือกที่จะใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยหรืออาศัยอยู่นอกวิทยาเขต
เมื่อฉันผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผมต้องตัดสินใจว่าผมอยู่ในมหาวิทยาลัยหรือนอกมหาวิทยาลัย หลังจากที่ผมได้พูดคุยกับพ่อแม่และเพื่อน ฉันตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยหอ เมื่อผมได้พิจารณาค่าใช้จ่าย ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ดีกว่าใช้ชีวิตนอกมหาวิทยาลัย
การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยจะถูกกว่าที่อาศัยอยู่นอกมหาวิทยาลัยในมหาวิทยาลัย นักศึกษาต้องจ่ายสำหรับที่พักภาคโดยภาคการศึกษา หากมีนักเรียน 3 คน ในหนึ่งห้อง คนหนึ่งต้องจ่าย 8 , 000 บาทต่อบาท semester-2000 ต่อเดือน ถ้าพวกเขาอาศัยอยู่นอกมหาวิทยาลัย ตัวอย่างเช่น ในอพาร์ทเม้นท์ พวกเขาต้องจ่ายประมาณ 5 , 000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้นักศึกษาต้องจ่ายค่าไฟฟ้าและน้ำในอัตราที่แพงมากขึ้นถ้าพวกเขาอาศัยอยู่นอกมหาวิทยาลัย
ชีวิตในมหาวิทยาลัย หอพัก จะปลอดภัยกว่า มีการ์ดของมหาลัย และยังมีแม่บ้าน ที่ดูแลทุกอย่าง หอพักก็มีเวลาที่แน่นอนในการเปิดและปิดของประตู นอกจากนี้ นักเรียนชายและนักเรียนหญิงอยู่ในอาคารที่แยกต่างหาก
เมื่อเราพิจารณาความสะดวกสบาย การใช้ชีวิตนักศึกษาวิทยาเขตจะง่ายต่อการได้รับเครื่องมหาวิทยาลัย หอพักอยู่ใกล้กับห้องสมุด , โรงยิม , โรงอาหารกลาง , สระว่ายน้ำ , ธนาคารและ ATM สำหรับนักศึกษาที่ต้องการเดินทางในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยยังให้ฟรี " รถราง " eco - รถวิ่งจากตึก อาคารในมหาวิทยาลัย .
ทั้งหมดนี้การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ราคาถูก ปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น เมื่อคุณอยู่ในมหาวิทยาลัย คุณสามารถช่วยพ่อแม่ประหยัดค่าใช้จ่ายและพวกเขาก็รู้สึกโล่งใจเพราะรู้ว่าเด็กของพวกเขาจะปลอดภัย คุณจะเลือกที่จะอยู่ในโรงเรียน