Acne Has Nothing to Do with Diet –

Acne Has Nothing to Do with Diet – Wrong!

Standard dogma from your medical doctor is that your oily skin and acne have nothing to do with the foods you eat. Next time you hear this message, ask for the evidence. You will find this learned professional speechless and almost empty-handed , because this incorrect information dates back to a single article published by Dr. James Fulton in the Journal of the American Medical Association almost 35 years ago (in 1969). Furthermore, the results of this study have been justly criticized and effectively discounted for more than 25 years.2 Still countless millions suffer needlessly.

Dr. Fulton studied 30 adolescents (14 girls and 16 boys) attending an acne clinic and 35 young adult male prisoners with mild to moderate acne. The Chocolate Manufacturers Association of America provided the study with two kinds of candy bars – one with and one without chocolate. Both bars were made mostly of fat and sugar and had similar amounts of calories (557 to 592 calories per bar). The subjects then added one or the other bar to their usual daily food intake for the next 4 weeks. Nothing else was changed in their diet during the experiment, except for the addition of the candy bars. Dr. Fulton and colleagues then counted the pimples on their young faces. Forty-six of the 65 subjects stayed the same, 10 were better and 9 were worse. (Not unexpectedly, the rate of sebum excretion increased by 60% with the addition of either kind of the high-fat, high-sugar candy bar (with or without chocolate) in all subjects.3) (Sebum is a fatty substance secreted by the skin.) Yet the results of this single, seriously flawed, and completely irrelevant (it only tested the effects of chocolate candy bars), experiment are the heart and soul of the claim that “diet has nothing to do with acne.”

The “Acne Plague” is Found Only Where Rich Food is Eaten

Acne develops when the pores in the skin (sebaceous follicles) become blocked with dead skin (hyperkeratinization); then fatty materials (sebum) accumulate within the blocked pore. This overstuffed pore then becomes infected by bacteria, resulting in inflammation – the pimple. The bacteria eat the sebum and thrive. Prevention and treatment are now directed at unblocking the pore, reducing the accumulation of the sebum, lessening inflammation, and killing the bacteria, by various pharmaceuticals sold over-the counter and by prescription. As with all Western diseases, there is a better way – and that is attacking the cause and invoking the cure with a healthy diet.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทำกับอาหาร – ไม่ถูกต้องไม่มีสิวหลักมาตรฐานจากแพทย์ของคุณคือ ผิวมันและสิวของคุณมีอะไรกับอาหารที่คุณกิน ครั้งถัดไปที่คุณได้ยินข้อความนี้ ขอหลักฐาน คุณจะพบนี้มืออาชีพเรียนรู้พูด และเกือบจะมือ เปล่า เนื่องจากวันนี้ข้อมูลไม่ถูกต้องย้อนกลับไปยังบทความเดียวเผยแพร่ โดยดร.ฟุลตัน James ในรายของสมาคมแพทย์อเมริกันเกือบ 35 ปีที่ผ่านมา (ใน 1969) นอกจากนี้ ผลการศึกษานี้ได้วิพากษ์วิจารณ์ศรีวิชัย และส่วนลดสำหรับ years.2 มากกว่า 25 ล้านนับไม่ถ้วนที่ยังต้องทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพดร.ฟุลตันได้ศึกษาวัยรุ่น 30 (14 ผู้หญิงและเด็กผู้ชาย 16) เข้าร่วมเป็นคลินิกสิวและ 35 หนุ่มผู้ใหญ่ชายนักโทษกับไมลด์กับสิวปานกลาง ในช็อคโกแลตผู้ผลิตสมาคมของอเมริกาให้การศึกษากับลูกอมบาร์ – มีสองชนิดไม่ช็อกโกแลต แถบทั้งสองได้ทำส่วนใหญ่ของไขมันและน้ำตาล และมีจำนวนแคลอรี่ที่คล้ายกัน (557-592 แคลอรี่ต่อแถบ) หัวข้อเพิ่มหนึ่งหรือแถบอื่น ๆ เพื่อการบริโภคอาหารประจำวันตามปกติสำหรับ 4 สัปดาห์ถัดไปด้วย อะไรเปลี่ยนแปลงในอาหารของพวกเขาในระหว่างทดลอง ยกเว้นแห่งบาร์ขนม ดร.ฟุลตันและผู้ร่วมงานนับสิวบนใบหน้าหนุ่ม สี่สิบหกเรื่อง 65 อยู่เดียว 10 ดี และ 9 ก็แย่ (ไม่คาดคิด อัตราของการขับถ่ายความมันเพิ่มขึ้น 60% ด้วยการเพิ่มประเภทใดที่มี น้ำตาลสูง ไขมันสูงขนม (มี หรือไม่ มีช็อคโกแลต) ใน subjects.3 ทั้งหมด) (ความมันคือ สารไขมัน secreted ตามผิวหนัง) แต่ผลลัพธ์นี้เดี่ยว flawed อย่างจริงจัง และความเกี่ยวข้องทั้งหมด (มันเท่าทดสอบผลกระทบของบาร์ลูกอมช็อคโกแลต) ทดลองเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของการเรียกร้องที่ว่า "อาหารที่ได้ไม่ มีสิว""กาฬโรคสิว" จะพบเฉพาะที่อุดมไปด้วยรับประทานอาหารสิวพัฒนาเมื่อรูขุมขนในผิวหนัง (รูขุมขนไขมัน) กลายเป็นถูกับผิว (hyperkeratinization); แล้ว วัสดุมัน (ความมัน) สะสมอยู่ภายในรูขุมขนถูกบล็อค รูขุมขนนี้ขนห่านแล้วกลายเป็นติดเชื้อแบคทีเรีย เกิดอักเสบสิว แบคทีเรียกินความมัน และเจริญเติบโต ป้องกันและรักษาจะเดี๋ยวนี้ถูกนำไปที่บล็อกรูขุมขน ลดการสะสมของความมัน lessening อักเสบ และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยขายมากกว่าที่เคาน์เตอร์ยาต่าง ๆ และยา เช่นเดียวกับโรคตะวันตกทั้งหมด มีวิธีที่ดีกว่า – และที่โจมตีสาเหตุ และเรียกรักษา ด้วยอาหารเพื่อสุขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิวมีอะไรจะทำอย่างไรกับอาหาร - ผิดเชื่อมาตรฐานจากแพทย์ของคุณที่มีผิวมันและสิวมีอะไรจะทำอย่างไรกับอาหารที่คุณกิน ครั้งต่อไปที่คุณได้ยินข้อความนี้ถามหาหลักฐาน คุณจะพบนี้ได้เรียนรู้พูดมืออาชีพและเกือบจะมือเปล่าเพราะข้อมูลไม่ถูกต้องนี้วันที่กลับไปบทความเดียวที่ตีพิมพ์โดยดร. เจมส์ฟุลตันในวารสารของสมาคมการแพทย์อเมริกันเกือบ 35 ปีที่ผ่านมา (ในปี 1969) นอกจากนี้ผลการศึกษาครั้งนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างเป็นธรรมและลดมากกว่า 25 years.2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพยังคงนับไม่ถ้วนนับล้านประสบจำเป็นดร. ฟุลตันศึกษา 30 วัยรุ่น (14 เด็กหญิงและเด็กชาย 16) ที่มาคลินิกสิวและ 35 หนุ่มนักโทษผู้ใหญ่เพศชายที่มีสิวเล็กน้อยถึงปานกลาง ช็อคโกแลตสมาคมผู้ผลิตของอเมริกาให้การศึกษาที่มีสองชนิดของบาร์ขนม - หนึ่งที่มีและเป็นหนึ่งโดยไม่ต้องช็อคโกแลต บาร์ทั้งสองได้ทำส่วนใหญ่ของไขมันและน้ำตาลและมีปริมาณแคลอรี่ที่คล้ายกัน (557-592 แคลอรี่ต่อบาร์) วิชาแล้วเพิ่มหนึ่งหรือแถบอื่น ๆ ที่จะรับประทานอาหารของพวกเขาปกติในชีวิตประจำวันต่อไปอีก 4 สัปดาห์ ไม่มีอะไรก็เปลี่ยนไปในอาหารของพวกเขาในระหว่างการทดลองยกเว้นสำหรับการเพิ่มขึ้นของบาร์ขนม ดร. ฟุลตันและเพื่อนร่วมงานแล้วนับสิวบนใบหน้าของหนุ่มสาวของพวกเขา สี่สิบหกของ 65 เรื่องอยู่เหมือนกัน, 10 ได้ดีและ 9 คนแย่ลง (ไม่อย่างไม่คาดคิดอัตราการขับถ่ายไขมันเพิ่มขึ้น 60% ด้วยนอกเหนือจากชนิดของไขมันสูงน้ำตาลสูงลูกอมบาร์ (มีหรือไม่มีทั้งช็อคโกแลต) ใน subjects.3 ทั้งหมด) (Sebum เป็นสารไขมันที่หลั่งมาจาก ผิว.) แต่ผลของการเดียวนี้มีข้อบกพร่องอย่างจริงจังและไม่เกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์ (มันเพียงการทดสอบผลกระทบของบาร์ขนมช็อคโกแลต), การทดลองเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของการอ้างว่า "อาหารมีอะไรจะทำอย่างไรกับสิว." "สิวโรคระบาด" ถูกพบเฉพาะที่อุดมไปด้วยอาหารการกินสิวพัฒนาเมื่อรูขุมขนในผิวหนัง (รูขุมไขมัน) กลายเป็นบล็อกที่มีผิวที่ตายแล้ว (hyperkeratinization); แล้ววัสดุไขมัน (ไขมัน) สะสมอยู่ภายในรูขุมขนอุดตัน รูขุมขน overstuffed นี้แล้วจะกลายเป็นที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียที่มีผลในการอักเสบ - สิว แบคทีเรียกินไขมันและเจริญเติบโต การป้องกันและการรักษาเป็นผู้กำกับตอนนี้ยกเลิกการปิดกั้นรูขุมขนลดการสะสมของไขมัน, ลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยยาต่างๆที่ขายผ่านเคาน์เตอร์และตามใบสั่งยา เช่นเดียวกับโรคตะวันตกทั้งหมดมีวิธีที่ดีกว่า - และที่มีการโจมตีสาเหตุและการเรียกใช้การรักษาด้วยการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิวไม่เกี่ยวกับอาหาร–ผิด !

มาตรฐานความเชื่อจากแพทย์ของคุณคือผิวมันและสิวไม่เกี่ยวกับอาหารที่คุณกิน ครั้งต่อไปที่คุณได้ยินข้อความนี้ ขอหลักฐาน คุณจะพบนี้เรียนรู้วิชาชีพพูดไม่ออก และเกือบจะว่างเปล่า เพราะข้อมูลไม่ถูกต้อง ย้อนกลับไป เดียวบทความที่เผยแพร่โดยดร.เจมส์เพิร์ลในวารสารของสมาคมแพทย์อเมริกันเกือบ 35 ปี ( 1969 ) นอกจากนี้ ผลการศึกษานี้ได้รับการวิจารณ์อย่างเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพลดกว่า 25 ปี ที่ 2 ยังนับไม่ถ้วนนับล้านประสบเกินไป

ดร.เพิร์ลเรียน 30 วัยรุ่น ( หญิง 14 และ 16 ชาย ) เข้าร่วมการประชุมคลินิกสิวผู้ใหญ่เพศชาย 35 นักโทษกับอ่อนถึงปานกลางสิว . สมาคมผู้ผลิตแห่งอเมริกาให้การศึกษากับสองชนิดของขนมแท่ง–หนึ่งและหนึ่งโดยช็อคโกแลต แถบทั้งสองทำขึ้นส่วนใหญ่ของไขมันและน้ำตาล และมีแคลอรี่ในปริมาณที่คล้ายกัน ( เป็นพวกแคลอรี่ต่อบาร์ )วิชาแล้วเพิ่มหนึ่งหรืออื่น ๆ แถบปกติทุกวัน อาหารที่บริโภค สำหรับ 4 สัปดาห์ถัดไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในอาหารของพวกเขาในระหว่างการทดลอง ยกเว้นส่วนของลูกกวาด ดร. ฟุลตันและเพื่อนร่วมงานแล้วนับสิวบนใบหน้าเล็กของพวกเขา สี่สิบหกของ 65 วิชาอยู่เหมือนกัน 10 ดีกว่า และ 9 ก็แย่ลง ( ไม่ได้โดยไม่คาดคิดอัตราการขับถ่ายสารจากต่อมไขมันเพิ่มขึ้น 60 % กับการเพิ่มของชนิดของไขมันสูง น้ำตาลสูง ลูกอมบาร์ ( มี หรือ ไม่มี ช็อคโกแลต ) ทุกวิชา 3 ) ( Sebum เป็นไขมัน สารที่หลั่งโดยผิว ) แต่ผลของซิงเกิ้ลนี้อย่างจริงจังข้อบกพร่องและไม่เกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์ ( มันแค่ทดสอบ ผลของขนมช็อกโกแลตแท่ง )การทดลองเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของการเรียกร้องว่า " อาหารไม่เกี่ยวกับสิว . "

" สิวระบาด " พบเพียงที่อุดมไปด้วยอาหารกิน

สิวพัฒนาเมื่อรูขุมขนในผิวหนัง ( sebaceous follicles ) กลายเป็นบล็อกที่มีผิวที่ตายแล้ว ( hyperkeratinization ) ไขมัน ( sebum ) วัสดุแล้ว สะสมภายในที่อุดตันรูขุมขน รูขุมขน overstuffed นี้แล้วจะกลายเป็นติดเชื้อแบคทีเรียส่งผลให้เกิดการอักเสบและสิว แบคทีเรียกินไขมัน และเจริญ การป้องกันและการรักษาจะมุ่งไปที่บล็อกรูขุมขน ลดการสะสมของไขมัน ลดการอักเสบ , และฆ่าแบคทีเรีย ยาต่าง ๆโดยขายผ่านเคาน์เตอร์และใบสั่งยา เช่นเดียวกับโรคตะวันตกทั้งหมดไม่มีวิธีที่ดีกว่า ) และนั่นคือการโจมตีสาเหตุและการรักษา ด้วยอาหารมีสุขภาพดี