A direct assessment of consistency

A direct assessment of consistency was made hy comparing
students' mean scores at a first writing with those
achieved at a second wnting 3 weeks later This penod of
time was judged sufficient to preclude remembering exact
responses to questions from the first wnting Therefore,
test scores should he satisfactorily independent and
related pnmanly in terms of knowledge levels rather than
proximity of testing sessions In addition, students had not
been provided with sufficient new information dunng this
time to significantly influence their results on the second
wnting The correlation coefficient between time 1 and
time 2 was 0 56 There were also no statistically significant
or meaningful differences in scores at first wnting when
compared with scores at second vwitmg (i=0 19, d f =27,
P=0 99)
Mean score comparisons
A desirahle quality of a test of knowledge is that it distinguishes
among respondents v
th specific charactenstics relative
to that knowledge An analysis of vanance comparing
registered nurses, registered practical nurses, generic students
and post-RN students on the basis of mean number
of correct items was computed As anticipated, sigmficant
differences were identified, with registered nurses sconng
higher than students and registered practical nurses (F=
93 8, d f =3, P=0 000) The Scheffé's procedure indicated
that registered nurses and post-RN students scored significantly
higher than genenc students or registered
practical nurses
It was also anticipated that novice students would
achieve higher scores than more senior students
Consequently, an analysis of variance was also conducted
comparing mean scores achieved by genenc students
accordmg to years of schooling Findings confirmed that
the more senior the student, the higher the mean score
(F=21 3, d f =3, P=0 000) Scheffé's procedure fiirther
indicated that third- and fourth-year students scored significantly
higher than students at lower levels
These findmgs present further evidence of the validity
of the PCQN as a measure of knowledge since it can he
anticipated that as students progress through a 4-year
baccalaureate programme in nursing, they can be expected
to be increasingly exposed to both content related to palliative
care and to climcal expenence with palliative care
patients, and consequently to he mcreasmgly knowledgeable
about palliative care
When summary descnptive statistics were examined by
group accordmg to practice area, work setting, years of
expenence and employment status of practismg nurses,
no meanmgful differences emerged This finding may he
partially explained by the fact that no matter what the
practice area, work setting or employment status, there
was little difference wnth respect to their involvement with
patients receiving palliative care Indeed, only a small
numher of nurses reported a caseload compnsed pnmanly
of patients receiving palliative care The vast majority,
whether hospital or commumty based, reported a caseload
that included only a small numher of individuals who
were receiving palliative care
Civen the expectation that those with formal education
in palliative care would do better on the PCQN than those
without such education, data were also grouped accordmg
to whether or not respondents had received any formal
education m palliative care Analysis revealed that those
who had received palliative care education scored significantly
higher than those who had not (i=29, df=153,
P=0 00)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีการประเมินความสอดคล้องโดยตรงทำฮีเปรียบเทียบนักเรียนหมายถึง คะแนนที่เขียนครั้งแรกกับทำได้ที่ wnting 2 3 สัปดาห์นี้ penod ของเวลาถูกตัดสินเพียงพอที่จะห้ามจำแน่นอนตอบคำถามจาก wnting แรกดังนั้นคะแนนทดสอบควรเขาอิสระผ่าน และpnmanly ที่เกี่ยวข้องในแง่ของความรู้ระดับ rather กว่าความใกล้ชิดของการทดสอบรอบนอกจากนี้ นักเรียนได้ไม่การมีเพียงพอ dunng ข้อมูลใหม่นี้เวลาจะมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์อย่างที่สองwnting ของสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างครั้งที่ 1 และเวลา 2 ถูก 0 56 ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติไม่ความหมายความแตกต่างในคะแนนที่แรก wnting หรือเมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนที่สอง vwitmg (ผม = 19 0, d f = 27P = 0 99)หมายถึง การเปรียบเทียบคะแนนคุณภาพ desirahle ของการทดสอบความรู้ได้ว่า มันแตกต่างผู้ตอบ v
th เฉพาะ charactenstics ญาติความรู้นั้นที่วิเคราะห์การเปรียบเทียบ vananceพยาบาลการลงทะเบียน ลงทะเบียนจริงพยาบาล นักศึกษาทั่วไปนักเรียนไปรษณีย์ RN ตามเลขหมายถึงสินค้าต้องถูกคำนวณเป็นคาดการณ์ sigmficantความแตกต่างที่ระบุ กับพยาบาลลงทะเบียน sconngสูงกว่านักศึกษาและลงทะเบียนจริงพยาบาล (F =93 8, d f = 3, P = 0 000) ขั้นตอนของ Scheffé ที่ระบุที่ลงทะเบียนพยาบาลและนักเรียน RN ลงคะแนนอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่านักเรียน genenc หรือลงทะเบียนพยาบาลจริงมันยังถูกคาดว่า สามเณรนักเรียนจะให้คะแนนสูงกว่านักเรียนอาวุโสมากดังนั้น ผลต่างของการวิเคราะห์ยังได้ดำเนินเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยโดย genenc นักเรียนaccordmg ปีของผลการศึกษาวิจัยยืนยันว่ายิ่งอาวุโสนักเรียน คะแนนเฉลี่ยที่สูง(F = 21 3, d f = 3, P = 0 000) Fiirther ขั้นตอนของ Schefféระบุว่า นักเรียนคนที่สาม และสี่ปีคะแนนอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่านักเรียนในระดับต่ำกว่าFindmgs เหล่านี้แสดงหลักฐานมีผลบังคับใช้เพิ่มเติมของ PCQN เป็นการวัดความรู้จะสามารถเขาคาดว่าที่เป็นความคืบหน้าของนักเรียนถึง 4 ปีหลักสูตร baccalaureate ในพยาบาล พวกเขาสามารถคาดหวังต้องขึ้นทั้งเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ palliativeดูแล และ expenence climcal กับการรักษาบรรเทาผู้ป่วย และจากนั้นให้เขา mcreasmgly ความรู้เกี่ยวกับการรักษาบรรเทาเมื่อ descnptive สรุปสถิติถูกตรวจสอบโดยกลุ่ม accordmg ที่ปฏิบัติพื้นที่ ทำการ ปีสถานะพยาบาล practismg, expenence และการจ้างงานความแตกต่าง meanmgful ไม่เกิดค้นหานี้อาจคงบางส่วนมีอธิบายความจริงที่ว่าสิ่งพื้นที่ฝึกหัด ตั้งค่าการทำงาน หรือ สถานะการจ้างงาน มีไม่เคารพ wnth แตกต่างเล็กน้อยกับการมีส่วนร่วมกับผู้ป่วยที่รับการรักษาบรรเทา Indeed ขนาดเล็กnumher พยาบาลรายงานตัว caseload compnsed pnmanlyของผู้ป่วยที่รับการรักษาบรรเทาใหญ่ว่า โรงพยาบาลหรือ commumty ตาม รายงานตัว caseloadที่รวมเฉพาะ numher เล็กของบุคคลที่ได้รับการรักษาบรรเทาCiven ความคาดหวังว่าผู้ มีการศึกษาอย่างเป็นทางการในการรักษาบรรเทาจะทำดีใน PCQN กว่าโดยการศึกษาดังกล่าว ข้อมูลแนะนำกลุ่ม accordmgหรือไม่ตอบได้รับอย่างเป็นทางการเปิดเผยการศึกษา m บรรเทาวิเคราะห์ที่เหล่านั้นที่ได้รับการศึกษาบรรเทาคะแนนอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่สูงกว่าผู้ที่ไม่มี (ผม = 29, df = 153P = 0 00)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การประเมินโดยตรงของความมั่นคงที่ถูกสร้างขึ้นไม่หยุดหย่อนเมื่อเทียบนักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยในการเขียนครั้งแรกกับผู้ที่ประสบความสำเร็จในwnting สอง 3 สัปดาห์ต่อมา penod นี้เวลาถูกตัดสินเพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ความทรงจำที่แน่นอนการตอบสนองต่อคำถามจากwnting แรกดังนั้นคะแนนการทดสอบควรเขาพอใจที่เป็นอิสระและที่เกี่ยวข้องกับ pnmanly ในแง่ของระดับความรู้มากกว่าความใกล้ชิดของการประชุมการทดสอบนอกจากนี้นักเรียนไม่ได้รับให้กับข้อมูลใหม่ที่เพียงพอdunng นี้ถึงเวลาที่จะมีนัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อผลของพวกเขาที่สองwnting ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างเวลาที่ 1 และครั้งที่2 ได้ 0 56 นอกจากนั้นยังไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่แตกต่างกันหรือมีความหมายในคะแนนที่wnting แรกเมื่อเทียบกับคะแนนที่vwitmg สอง (i = 0 19 DF = 27 P = 0 99) เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนคุณภาพ desirahle ของการทดสอบความรู้ คือว่ามันแตกต่างในหมู่ผู้ตอบแบบสอบถามv charactenstics ที่ n เฉพาะเมื่อเทียบกับความรู้การวิเคราะห์vanance เปรียบเทียบพยาบาลวิชาชีพ, พยาบาลวิชาชีพปฏิบัตินักเรียนทั่วไปและนักเรียนโพสต์ RN บนพื้นฐานของจำนวนค่าเฉลี่ยของรายการที่ถูกต้องได้รับการคำนวณในฐานะที่เป็นที่คาดว่าจะsigmficant ความแตกต่าง ถูกระบุว่ามีพยาบาลวิชาชีพ sconng สูงกว่านักเรียนและจดทะเบียนพยาบาลปฏิบัติ (F = 93 8 DF = 3, P = 0 000) ขั้นตอนของSchefféชี้ให้เห็นว่าพยาบาลที่ลงทะเบียนและนักเรียนโพสต์RN คะแนนอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่านักเรียนgenenc หรือจดทะเบียนในทางปฏิบัติพยาบาลมันเป็นที่คาดว่าจะยังให้นักเรียนสามเณรจะบรรลุคะแนนสูงกว่านักเรียนระดับสูงมากขึ้นดังนั้นการวิเคราะห์ความแปรปรวนได้ดำเนินการยังมีการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยความสำเร็จโดยนักเรียนgenenc accordmg ปีของการศึกษาผลการวิจัยยืนยันว่าอาวุโสมากขึ้นของนักเรียนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยคะแนน(F = 21 3 DF = 3, P = 0 000) ขั้นตอนของScheffé fiirther ชี้ให้เห็นว่าสามและนักเรียนที่สี่ปีคะแนนอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่านักเรียนในระดับล่างเหล่านี้findmgs ปัจจุบันหลักฐานเพิ่มเติมของความถูกต้องของPCQN เป็นตัวชี้วัด ความรู้เพราะมันสามารถที่เขาคาดว่านักเรียนมีความคืบหน้าผ่าน4 ปีโปรแกรมปริญญาตรีในสาขาการพยาบาลที่พวกเขาสามารถคาดหวังที่จะได้สัมผัสมากขึ้นทั้งเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการประคับประคองดูแลและexpenence climcal กับการดูแลแบบประคับประคองผู้ป่วยและจึงจะเขาmcreasmgly มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลแบบประคับประคองเมื่อสรุปสถิติdescnptive ถูกตรวจสอบโดยaccordmg กลุ่มที่จะปฏิบัติในพื้นที่, การตั้งค่าการทำงานปีของexpenence และสถานะการจ้างงานของพยาบาล practismg, ไม่มีความแตกต่าง meanmgful โผล่ออกมาการค้นพบนี้อาจเขาอธิบายบางส่วนจากความจริงที่ว่าไม่ว่าสิ่งที่เป็นพื้นที่การปฏิบัติการตั้งค่าการทำงานหรือสถานะการจ้างงานที่มีความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ wnth ส่วนที่เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของพวกเขากับผู้ป่วยได้รับการดูแลแบบประคับประคองแท้จริงเพียงเล็กnumher ของพยาบาลรายงาน caseload compnsed pnmanly ของผู้ป่วยได้รับการดูแลแบบประคับประคองส่วนใหญ่, ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือ commumty ตามรายงาน caseload ที่รวมเพียง numher เล็ก ๆ ของบุคคลที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคองCiven ความคาดหวังว่าผู้ที่มีการศึกษาอย่างเป็นทางการในการดูแลแบบประคับประคองจะทำดีขึ้นในPCQN กว่าเหล่านั้นไม่มีการศึกษาเช่นข้อมูลถูกแบ่งยังaccordmg ไปหรือไม่ผู้ตอบแบบสอบถามได้รับ อย่างเป็นทางการการศึกษาม. การดูแลแบบประคับประคองการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ได้รับการศึกษาการดูแลแบบประคับประคองคะแนนอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นกว่าผู้ที่ไม่ได้(i = 29 DF = 153, P = 0 00)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การประเมินโดยตรงของความสอดคล้องได้ HY เปรียบเทียบ
คะแนนเฉลี่ยของนักศึกษาในการเขียนครั้งแรกกับ
ความที่สอง wnting 3 สัปดาห์นี้ penod ของ
เวลาถูกตัดสินว่าเพียงพอที่จะดักคอจดจำการตอบสนองแน่นอน
คำถามจากครั้งแรก wnting ดังนั้น
คะแนนการทดสอบควรเขาอิสระได้ดีและ
ที่เกี่ยวข้อง pnmanly ในแง่ ระดับความรู้มากกว่า
ความใกล้ชิดของการทดสอบครั้ง นอกจากนี้ นักศึกษาไม่ได้
ถูกให้กับ dunng ข้อมูลใหม่ พอเวลานี้จะมีอิทธิพลต่อผลของพวกเขาบน
2
wnting สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่าง 1 และ 2 เวลา
0 56 ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
หรือความแตกต่างที่มีความหมายในคะแนนแรก
wnting เมื่อเทียบกับคะแนน ที่ vwitmg ที่สอง ( ฉัน = 0 19D F = 27 ,
p = 0 = 99 )

คุณภาพ desirahle ค่าเฉลี่ยเปรียบเทียบคะแนนของการทดสอบความรู้ที่แตกต่างระหว่าง N แลก
v
charactenstics เฉพาะญาติที่ความรู้การวิเคราะห์ vanance เปรียบเทียบ
พยาบาลวิชาชีพ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ ทั่วไป นักเรียน และนักศึกษาพยาบาล
โพสต์บนพื้นฐาน ค่าเฉลี่ยของจำนวนรายการที่ถูกต้องเรียน

sigmficant ตามที่คาดการณ์ไว้ความแตกต่างที่ถูกระบุว่า มีพยาบาล sconng
สูงกว่านักศึกษาพยาบาลปฏิบัติ ( F =
93 8 D F = 3 , p = 0 , 000 ) เชฟฟ์ ) เป็นขั้นตอน พบว่า นักศึกษาพยาบาล
และโพสต์คะแนนสูงกว่านักศึกษาอย่างมีนัยสำคัญ
rn genenc หรือลงทะเบียนผู้ช่วยพยาบาล

มันก็คาดการณ์ไว้ นักศึกษาที่ไม่มีประสบการณ์จะบรรลุคะแนนที่สูงกว่าอีก

รุ่นพี่นักศึกษาดังนั้นการวิเคราะห์ความแปรปรวนใช้
เปรียบเทียบคะแนนสอบโดยนักเรียน genenc
accordmg ปีของตน ผลการวิจัยยืนยันว่า
รุ่นพี่มากกว่านักเรียน สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนน
( F = 21 3 D F = 3 , p = 0 , 000 ) เชฟฟ์ ) พบว่า fiirther
3 ขั้นตอน - และสี่ปีที่ได้คะแนนสูงกว่านักศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับล่าง

findmgs เหล่านี้เสนอหลักฐานเพิ่มเติมของความถูกต้อง
ของ pcqn เป็นการวัดความรู้ เนื่องจากมันสามารถเขา
คาดการณ์ไว้ว่า เมื่อนักเรียนได้เลื่อนโครงการบัณฑิต 4 ปี
พยาบาลที่พวกเขาสามารถคาดหวังที่จะได้สัมผัสกับทั้งสองมากขึ้น

เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการดูแลแบบประคับประคองและการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองมี Clinical expenence
, และ จากนั้นเขา mcreasmgly ความรู้
เกี่ยวกับการดูแลแบบประคับประคอง descnptive
เมื่อสรุปสถิติทดสอบโดย
กลุ่ม accordmg ฝึกพื้นที่จัดงานปี
expenence และสถานะการจ้างงานของ practismg พยาบาล
ไม่มีความแตกต่าง meanmgful โผล่ออกมาหาเขา
อธิบายบางส่วน โดยความจริงที่ว่าไม่ว่า
ฝึกปฏิบัติ งาน จัด หรือ สถานะการจ้างงาน มี
มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย wnth เคารพความสัมพันธ์กับผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง แน่นอน

numher เพียงเล็ก ๆของพยาบาลรายงานงาน compnsed pnmanly
ของผู้ป่วยได้รับการดูแลแบบประคับประคอง ส่วนใหญ่
ไม่ว่าจะโรงพยาบาลหรือ commumty ตามรายงานงาน
รวมเพียงเล็ก numher

ของบุคคลที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคองciven ความคาดหวังว่าผู้ที่มีการศึกษาในการควงปากกา
จะทำให้ดีขึ้นใน pcqn กว่า
โดยไม่ต้องเช่น การศึกษา ข้อมูล ยังจัดกลุ่ม accordmg
หรือไม่ กลุ่มตัวอย่างได้รับอย่าง
- M ดูแล palliative การวิเคราะห์ พบว่า ผู้ที่ได้รับการศึกษา การดูแลแบบประคับประคอง

คะแนนอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าผู้ที่มี ไม่ ( ฉัน = 29 , df = 153 คน ,
p = 0 00 )