ศิลปะการใช้ภาษาวรรณศิลป์เป็นเครื่องมือสำคัญยิ่งในการสร้างสรรค์งานวรรณก การแปล - ศิลปะการใช้ภาษาวรรณศิลป์เป็นเครื่องมือสำคัญยิ่งในการสร้างสรรค์งานวรรณก ไทย วิธีการพูด

ศิลปะการใช้ภาษาวรรณศิลป์เป็นเครื่อง

ศิลปะการใช้ภาษาวรรณศิลป์เป็นเครื่องมือสำคัญยิ่งในการสร้างสรรค์งานวรรณกรรม ภาษาเป็น องค์ประกอบสำคัญที่ผู้ประพันธ์เลือกสรรถ้อยคำ ประโยค สำนวนโวหาร และภาพพจน์ ใช้เพื่อสื่อความคิด มุมมองใหม่ นัยที่คมคายลึกซึ่ง ผ่านภาษาที่สวยงาม สรรค์สร้างเรื่องราวให้ขับเคลื่อนดำเนินไปตามที่ประสงค์ ศิลปะการนำเสนอที่ชวนติดตามด้วยความเพลิดเพลิน อันจะทำให้ผู้อ่านรับรู้ เกิดจินตนาการ เข้าใจ ยอมรับ และประทับใจเมื่อได้อ่านงานวรรณกรรม ผู้ประพันธ์แต่ละท่านยอมมีศิลปะการใช้ภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ ความสามารถเฉพาะตัวในการทำให้องค์ประกอบต่างๆ ของภาษาสอดรับกันได้อย่างสอดคล้องลงตัวพอดี เพื่อสร้างให้งานเขียนมีความโดดเด่น น่าสนใจ และเกิดอรรถรสในการอ่าน
เดือนวาด พิมวนา เป็นนักเขียนหญิงคุณภาพรุ่นใหม่อีกคนหนึ่งของวงการวรรณกรรม ที่สร้างสรรค์ งานประพันธ์ผ่านศิลปะการใช้ภาษาได้อย่างประณีตบรรจง พิถีพิถัน เลือกสรรภาษาวรรณศิลป์ได้อย่างสละ สลวย สมเหตุสมผล และสมจริง โดยมีผลงานอย่างตอเนื่อง และได้รับความนิยมจากผู้อ่านเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นงานประพันธ์ประเภท “เรื่องสั้น” ไดแก่ รวมเรื่องสั้นคัดสรร ชุด ‘หนังสือเล่มสอง’ ‘สัมพันธภาพ’ และ ‘ทุกข์หฤหรรษ์’ เรื่องสั้นขนาดยาว เรื่อง ‘คุณสงคราม’ งานประพันธ์ประเภท “เรื่องเล่าเชิงความเรียง” ชื่อว่า ‘แดดสิบแปดนาฬิกา’ และงานประพันธ์ประเภท “นวนิยาย” เรื่อง ‘ช่างสาราญ’
เป็นที่น่าสังเกตว่า เดือนวาด พิมวนา เป็นหนังในนักเขียนที่ได้รับรางวัลอย่างสม่ำเสมอ งานประพันธ์ ประเภท‘เรื่องสั้น’ มักจะได้รับรางวัลสำคัญด้านวรรณกรรม เช่น “รางวัลช่อการะเกด” ซึ่งเป็นนักเขียนหญิง คนแรกที่ได้รับรางวัลช่อการะเกดถึง 4 ครั้ง ดังนี้ ครั้งแรก พ.ศ. 2535 เรื่อง ‘รอยภาพ’ ครั้งที่สอง พ.ศ. 2536 เรื่อง ‘ผู้บรรลุ’ ครั้งที่สาม พ.ศ. 2537 เรื่อง ‘กาละแห่งการงาน’ และครั้งล่าสุด พ.ศ. 2552 เรื่อง ‘ลารา’
การประกวดและมอบรางวัลแก่ผลงานวรรณกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างแรงจูงใจต่อนักประพันธ์ ทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพของงานเขียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานวรรณกรรมประเภท ‘นวนิยาย’ ถือได้ว่า เดือนวาด ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม นวนิยายเรื่องแรกในชีวิต คือ เรื่อง “ช่างสำราญ” ได้รับรางวัล ซีไรต์ (The S.E.A. Write Awards) หรือรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (South East Asian Writers Awards) ประจำปีพุทธศักราช 2546 ถือได้ว่าเป็นนักเขียนหญิงลำดับที่ 4 ที่ได้รบรางวัลอัน ทรงคุณค่านี้ ในโอกาสครบรอบ 25 ปีของการมอบรางวัลซีไรต์
คณะกรรมการรอบตัดสินมีมติเป็นเอกฉันท์ ประกาศให้นวนิยาย เรื่อง “ช่างสำราญ” ได้รับรางวัลซีไรต์ประจำปีพุทธศักราช 2546 ดังมีคำประกาศรางวัลจากคณะกรรมการ ดังนี้ “...นี้คือ
นวนิยายที่เรียบง่าย และงดงามเปี่ยมความหวัง ความฝัน และความเชื่อมันศรัทธาในด้านดีของจิตใจของมนุษย์...” ประภัสสร เสวิกุล (2546, หนา 15) ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการรอบตัดสินได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับ นวนิยายรางวัล ซีไรต์ เรื่อง “ช่างสำราญ” ไว้ว่า “เป็นนวนิยายที่เล็กแต่ใหญ่ งายแต่งาม เจ็บปวดแต่ไม่รวดราวและขื่นขมแต่ไม่ขมขื่น”
จากทัศนะข้างต้นจะเห็นได้ว่า นวนิยายเรื่องนี้มีวิธีการนำเสนอที่แยบยล สื่อแสดงเรื่องธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา เรื่องเศร้าโศกแต่ไม่โศกเศร้า ทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกตรงกันข้าม จะเห็นได้ว่าศิลปะการใช้ภาษาเข้ามา มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นนี้ เรื่อง “ช่างสำราญ” ของเดือนวาด พิมวนา จึงเป็นวรรณกรรมประเภทนวนิยายที่มีความดีเด่น สมควรแก่การ ยกย่องให้เป็นวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมของประเทศไทย ประจำปี 2546 จากรางวัลดังกล่าวข้างต้น ยอมแสดงถึงความสามารถใน การสรรค์สร้างวรรณกรรม ของเดือนวาด พิมวนา ถือได้ว่าเป็นเครื่องยืนยัน ถึงความเป็นนักเขียนมืออาชีพได้เป็นอย่างดี
นวนิยายซีไรต์ เรื่อง “ช่างสำราญ” เป็นนวนิยายคุณภาพเรื่องหนึ่งของเดือนวาด พิมวนา ซึ่งจัดได้ ว่ามีคุณค่าทั้งเริงรมย์และเริงปัญญา สร้างความประทบใจแก่ผู้อ่านจำนวนมาก สังเกตได้จากจำนวนครั้งที่ ตีพิมพ์จนถึงขณะนี้ (พ.ศ. 2554) พิมพ์เป็นครั้งที่ 15 แล้ว
เวียง – วชิระ บัวสนธ์ (2546, หน้า 1) บรรณาธิการของนวนิยายเรื่องนี้ได้แสดงความคิดเห็นเปรียบเทียบ ระหว่างผลงานเล่มแรก คือ รวมเรื่องสั้นคัดสรร ชุด ‘หนังสือเล่มสอง’ และผลงาน
นวนิยาย เรื่อง ‘ช่างสำราญ’ด้านการใช้ภาษาของเดือนวาด พิมวนา ไว้ว่า “หากเปรียบเทียบกันระหว่างผลงานเล่มแรกกับ ‘ช่างสำราญ’ เล่มนี้ จะเห็นได้ว่าเดือนวาด มีพัฒนาการทั้งในแง่วิธีเล่าเรื่อง และการใช้ภาษาที่สอดรับกับตัวเนื้อได้อย่างน่าสนใจยิ่ง”
สิริวรรณ นันทจันทูล (2552, หนา 77) ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับศิลปะการใช้ภาษาใน วรรณกรรม ไว้ว่า “นวนิยายเป็นวรรณกรรมบันเทิงคดีที่ถ่ายทอดลีลาการใช้ภาษาของผู้ประพันธ์ได้อย่างดียิ่ง หากผู้ประพันธ์มีศิลปะการใช้ภาษาได้อย่างยอดเยี่ยมก็จะแสดงลีลาภาษาที่โดดเด่นทำให้ผู้อ่านได้รับอรรถรสและเกิดจินตภาพตามที่ผู้ประพันธ์ประสงค์”
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าการใช้ภาษาในวรรณกรรม หากผู้ประพันธ์มีการเลือกใช้ภาษาที่น่า สนใจ จะมีพลังในการสื่อสารมาก ส่งผลให้เนื้อเรื่องสนุกสนาน ซึ่งจัดได้ว่าทั้งเริงรมย์และเริงปัญญา ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาหาคำตอบว่า เดือนวาด พิมวนา มีลักษณะเด่นในการนำเสนอศิลปะการใช้ภาษาในนวนิยาย เรื่อง‘ช่างสำราญ’ เป็นอย่างไร จึงส่งผลได้รับรางวัลซีไรต์ และสร้างความประทับใจแก่ผู้อ่าน ประกอบกับยังไม่มี งานวิจัยใดที่ศึกษาเกี่ยวกับศิลปะการใช้ภาษาในนวนิยายเรื่องนี้มาก่อนการศึกษาศิลปะการใช้ภาษาจึงเป็นทีมาของงานวิจัยนี้ โดยมุ่งศึกษาวิเคราะห์การใช้ภาษา 4 ด้านได้แก่ การใช้คำ การใช้ประโยค การใช้สำนวน โวหารและการใช้ภาพพจน์ เพื่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางในการใช้ภาษาของนวนิยายเรื่องนี้ อันจะทำให้เห็นความสามารถเชิงวรรณศิลป์ของเดือนวาด พิมวนาซึ่งจะก่อใหเกิดประโยชน์แก่ผู้ที่สนในวร
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ศิลปะการใช้ภาษาวรรณศิลป์เป็นเครื่องมือสำคัญยิ่งในการสร้างสรรค์งานวรรณกรรมภาษาเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ผู้ประพันธ์เลือกสรรถ้อยคำประโยคสำนวนโวหารและภาพพจน์ใช้เพื่อสื่อความคิดมุมมองใหม่นัยที่คมคายลึกซึ่งผ่านภาษาที่สวยงามสรรค์สร้างเรื่องราวให้ขับเคลื่อนดำเนินไปตามที่ประสงค์ศิลปะการนำเสนอที่ชวนติดตามด้วยความเพลิดเพลินอันจะทำให้ผู้อ่านรับรู้เกิดจินตนาการเข้าใจยอมรับและประทับใจเมื่อได้อ่านงานวรรณกรรมผู้ประพันธ์แต่ละท่านยอมมีศิลปะการใช้ภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ความสามารถเฉพาะตัวในการทำให้องค์ประกอบต่าง ๆ ของภาษาสอดรับกันได้อย่างสอดคล้องลงตัวพอดีเพื่อสร้างให้งานเขียนมีความโดดเด่นน่าสนใจและเกิดอรรถรสในการอ่าน เดือนวาดพิมวนาเป็นนักเขียนหญิงคุณภาพรุ่นใหม่อีกคนหนึ่งของวงการวรรณกรรมที่สร้างสรรค์งานประพันธ์ผ่านศิลปะการใช้ภาษาได้อย่างประณีตบรรจงพิถีพิถันเลือกสรรภาษาวรรณศิลป์ได้อย่างสละสลวยสมเหตุสมผลและสมจริงโดยมีผลงานอย่างตอเนื่องและได้รับความนิยมจากผู้อ่านเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นงานประพันธ์ประเภท "เรื่องสั้น" ไดแก่รวมเรื่องสั้นคัดสรรชุด 'หนังสือเล่มสอง' 'สัมพันธภาพ' และ 'ทุกข์หฤหรรษ์' เรื่องสั้นขนาดยาวเรื่อง 'คุณสงคราม' งานประพันธ์ประเภท "เรื่องเล่าเชิงความเรียง" ชื่อว่า 'แดดสิบแปดนาฬิกา' และงานประพันธ์ประเภท "นวนิยาย" เรื่อง 'ช่างสาราญ' เป็นที่น่าสังเกตว่าเดือนวาดพิมวนาเป็นหนังในนักเขียนที่ได้รับรางวัลอย่างสม่ำเสมองานประพันธ์ประเภท 'เรื่องสั้น' มักจะได้รับรางวัลสำคัญด้านวรรณกรรมเช่น "รางวัลช่อการะเกด" ซึ่งเป็นนักเขียนหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลช่อการะเกดถึง 4 ครั้งดังนี้ครั้งแรกพ.ศ. 2535 เรื่อง 'รอยภาพ' ครั้งที่สองพ.ศ. 2536 เรื่อง 'ผู้บรรลุ' ครั้งที่สามพ.ศ. 2537 เรื่อง 'กาละแห่งการงาน' และครั้งล่าสุดพ.ศ. 2552 เรื่อง 'ลารา' การประกวดและมอบรางวัลแก่ผลงานวรรณกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างแรงจูงใจต่อนักประพันธ์ทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพของงานเขียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวรรณกรรมประเภท 'นวนิยาย' ถือได้ว่าเดือนวาดประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมนวนิยายเรื่องแรกในชีวิตคือเรื่อง "ช่างสำราญ" ได้รับรางวัลซีไรต์ (รางวัลไรต์) หรือรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (รางวัลนักเขียนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ประจำปีพุทธศักราช 2546 ถือได้ว่าเป็นนักเขียนหญิงลำดับที่ 4 ที่ได้รบรางวัลอันทรงคุณค่านี้ในโอกาสครบรอบ 25 ปีของการมอบรางวัลซีไรต์ เรื่องประกาศให้นวนิยายคณะกรรมการรอบตัดสินมีมติเป็นเอกฉันท์ "ช่างสำราญ" ได้รับรางวัลซีไรต์ประจำปีพุทธศักราช 2546 ดังมีคำประกาศรางวัลจากคณะกรรมการดังนี้... นี้คือนวนิยายที่เรียบง่ายและงดงามเปี่ยมความหวังความฝันและความเชื่อมันศรัทธาในด้านดีของจิตใจของมนุษย์..." ประภัสสรเสวิกุล (2546 หนา 15) ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการรอบตัดสินได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับนวนิยายรางวัลซีไรต์เรื่อง "ช่างสำราญ" ไว้ว่า "เป็นนวนิยายที่เล็กแต่ใหญ่งายแต่งามเจ็บปวดแต่ไม่รวดราวและขื่นขมแต่ไม่ขมขื่น" จากทัศนะข้างต้นจะเห็นได้ว่า นวนิยายเรื่องนี้มีวิธีการนำเสนอที่แยบยล สื่อแสดงเรื่องธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา เรื่องเศร้าโศกแต่ไม่โศกเศร้า ทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกตรงกันข้าม จะเห็นได้ว่าศิลปะการใช้ภาษาเข้ามา มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นนี้ เรื่อง “ช่างสำราญ” ของเดือนวาด พิมวนา จึงเป็นวรรณกรรมประเภทนวนิยายที่มีความดีเด่น สมควรแก่การ ยกย่องให้เป็นวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมของประเทศไทย ประจำปี 2546 จากรางวัลดังกล่าวข้างต้น ยอมแสดงถึงความสามารถใน การสรรค์สร้างวรรณกรรม ของเดือนวาด พิมวนา ถือได้ว่าเป็นเครื่องยืนยัน ถึงความเป็นนักเขียนมืออาชีพได้เป็นอย่างดี นวนิยายซีไรต์เรื่อง "ช่างสำราญ" เป็นนวนิยายคุณภาพเรื่องหนึ่งของเดือนวาดพิมวนาซึ่งจัดได้ว่ามีคุณค่าทั้งเริงรมย์และเริงปัญญาสร้างความประทบใจแก่ผู้อ่านจำนวนมากสังเกตได้จากจำนวนครั้งที่ตีพิมพ์จนถึงขณะนี้ (พ.ศ. ๒๕๕๔) พิมพ์เป็นครั้งที่ 15 แล้ว เวียง-วชิระบัวสนธ์ (2546 หน้า 1) บรรณาธิการของนวนิยายเรื่องนี้ได้แสดงความคิดเห็นเปรียบเทียบระหว่างผลงานเล่มแรกคือรวมเรื่องสั้นคัดสรรชุด 'หนังสือเล่มสอง' และผลงานนวนิยาย เรื่อง ‘ช่างสำราญ’ด้านการใช้ภาษาของเดือนวาด พิมวนา ไว้ว่า “หากเปรียบเทียบกันระหว่างผลงานเล่มแรกกับ ‘ช่างสำราญ’ เล่มนี้ จะเห็นได้ว่าเดือนวาด มีพัฒนาการทั้งในแง่วิธีเล่าเรื่อง และการใช้ภาษาที่สอดรับกับตัวเนื้อได้อย่างน่าสนใจยิ่ง” สิริวรรณ นันทจันทูล (2552, หนา 77) ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับศิลปะการใช้ภาษาใน วรรณกรรม ไว้ว่า “นวนิยายเป็นวรรณกรรมบันเทิงคดีที่ถ่ายทอดลีลาการใช้ภาษาของผู้ประพันธ์ได้อย่างดียิ่ง หากผู้ประพันธ์มีศิลปะการใช้ภาษาได้อย่างยอดเยี่ยมก็จะแสดงลีลาภาษาที่โดดเด่นทำให้ผู้อ่านได้รับอรรถรสและเกิดจินตภาพตามที่ผู้ประพันธ์ประสงค์” จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าการใช้ภาษาในวรรณกรรม หากผู้ประพันธ์มีการเลือกใช้ภาษาที่น่า สนใจ จะมีพลังในการสื่อสารมาก ส่งผลให้เนื้อเรื่องสนุกสนาน ซึ่งจัดได้ว่าทั้งเริงรมย์และเริงปัญญา ผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาหาคำตอบว่า เดือนวาด พิมวนา มีลักษณะเด่นในการนำเสนอศิลปะการใช้ภาษาในนวนิยาย เรื่อง‘ช่างสำราญ’ เป็นอย่างไร จึงส่งผลได้รับรางวัลซีไรต์ และสร้างความประทับใจแก่ผู้อ่าน ประกอบกับยังไม่มี งานวิจัยใดที่ศึกษาเกี่ยวกับศิลปะการใช้ภาษาในนวนิยายเรื่องนี้มาก่อนการศึกษาศิลปะการใช้ภาษาจึงเป็นทีมาของงานวิจัยนี้ โดยมุ่งศึกษาวิเคราะห์การใช้ภาษา 4 ด้านได้แก่ การใช้คำ การใช้ประโยค การใช้สำนวน โวหารและการใช้ภาพพจน์ เพื่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางในการใช้ภาษาของนวนิยายเรื่องนี้ อันจะทำให้เห็นความสามารถเชิงวรรณศิลป์ของเดือนวาด พิมวนาซึ่งจะก่อใหเกิดประโยชน์แก่ผู้ที่สนในวร
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ภาษาเป็น ประโยคสำนวนโวหารและภาพพจน์ใช้เพื่อสื่อความคิดมุมมองใหม่นัยที่คมคายลึกซึ่งผ่านภาษาที่สวยงาม อันจะทำให้ผู้อ่านรับรู้เกิดจินตนาการเข้าใจยอมรับ สนใจและน่าเกิดอรรถรสในหัวเรื่อง:
การอ่านเดือนวาดพิมวนา ที่สร้างสรรค์ พิถีพิถันเลือกสรรภาษาวรรณศิลป์ได้อย่างสละสลวยสมเหตุสมผลและสมจริงโดยมีผลงานอย่างตอเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานประพันธ์ประเภท "เรื่องสั้น" ไดแก่รวมเรื่องสั้นคัดสรรชุด 'หนังสือเล่มสอง' 'สัมพันธภาพ' และ 'ทุกข์หฤหรรษ์' เรื่องสั้นขนาดยาวเรื่อง 'คุณสงคราม' งานประพันธ์ประเภท "เรื่องเล่าเชิงความเรียง" ชื่อว่า ' แดดสิบแปดนาฬิกา 'และงานประพันธ์ประเภท "นวนิยาย" เรื่อง' ช่างสาราญ
'เป็นที่น่าสังเกตว่าเดือนวาดพิมวนา งานประพันธ์ประเภท 'เรื่องสั้น' เช่น "รางวัลช่อการะเกด" ซึ่งเป็นนักเขียนหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลช่อการะเกดถึง 4 ครั้งดังนี้ครั้งแรก พ.ศ. 2535 เรื่อง 'รอยภาพ' ครั้งที่สอง พ.ศ. 2536 เรื่อง 'ผู้บรรลุ' ครั้งที่สาม พ.ศ. 2537 เรื่อง "กาละแห่งการงาน 'และครั้งล่าสุด พ.ศ. 2552 เรื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานวรรณกรรมประเภท 'นวนิยาย' ถือได้ว่าเดือนวาดประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมนวนิยายเรื่องแรกในชีวิตคือเรื่อง "ช่างสำราญ" ได้รับรางวัลซีไรต์ (The Sea เขียนรางวัล) (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับรางวัลนักเขียน) ประจำปีพุทธศักราช 2546 ถือได้ว่าเป็นนักเขียนหญิงลำดับที่ 4 ที่ได้รบรางวัลอันทรงคุณค่านี้ในโอกาสครบรอบ 25
ประกาศให้นวนิยายเรื่อง "ช่างสำราญ" 2546 ดังมีคำประกาศรางวัลจากคณะกรรมการดังนี้ "...
คือนี้นวนิยายที่เรียบง่ายและงดงามเปี่ยมความหวังความฝัน ประภัสสรเสวิกุล (2546, หนา 15) นวนิยายรางวัลซีไรต์เรื่อง "ช่างสำราญ" ไว้ว่า "เป็นนวนิยายที่เล็ก แต่ใหญ่งาย แต่งาม
สื่อแสดงเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเรื่องเศร้าโศก แต่ไม่โศกเศร้า จะเห็นได้ว่าศิลปะการใช้ภาษาเข้ามา ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นนี้เรื่อง "ช่างสำราญ" ของเดือนวาดพิมวนา สมควรแก่การ ประจำปี 2546 จากรางวัลดังกล่าวข้างต้นยอมแสดงถึงความสามารถในการสรรค์สร้างวรรณกรรมของเดือนวาดพิมวนาถือได้ว่าเป็นเครื่องยืนยัน
เรื่อง "ช่างสำราญ" พิมวนาซึ่งจัดได้ สังเกตได้จากจำนวนครั้งที่ตีพิมพ์จนถึงขณะนี้ (พ.ศ. 2554) พิมพ์เป็นครั้งที่ 15
แล้วเวียง- วชิระบัวสนธ์ (2546, หน้า 1) ระหว่างผลงานเล่มแรกคือรวมเรื่องสั้นคัดสรรชุด 'หนังสือเล่มสอง'
ผลงานและนวนิยายเรื่อง พิมวนาไว้ว่า 'ช่างสำราญ' เล่มนี้จะเห็นได้ว่าเดือนวาดมีพัฒนาการทั้งในแง่วิธีเล่าเรื่อง
นันทจันทูล (2552, หนา 77) วรรณกรรมไว้ว่า
สนใจจะมีพลังในการสื่อสารมากส่งผลให้เนื้อเรื่องสนุกสนาน เดือนวาดพิมวนา เรื่อง 'ช่างสำราญ' เป็นอย่างไรจึงส่งผลได้รับรางวัลซีไรต์และสร้างความประทับใจแก่ผู้อ่านประกอบกับยังไม่มี โดยมุ่งศึกษาวิเคราะห์การใช้ภาษา 4 ด้าน ได้แก่ การใช้คำการใช้ประโยคการใช้สำนวนโวหารและการใช้ภาพพจน์
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
文学语言是艺术创作的重要工具,语言是文学的一个重要组成部分,作者选择的话句子的修辞思想的内涵,利用新媒体的深度,通过美丽的语言。创新驱动的故事和希望表现艺术的享受和追求,这将使读者理解、接受和承认的想象力给了阅读文学作品。在业务流程各有独特的艺术语言。独特的能力,使各种元素语言一致的完美匹配。建立优秀的写作和阅读兴趣新的质量พิมวนาเดือนวาด女作家散文创作的另一个文学可以通过复杂的语言艺术仔细选择和合理地把文学语言和现实的影响,作品不断地大量流行的读者。无论是“短篇小说”创作的短篇小说。本书精选系列”,“关系”和“สอง’受苦。”中篇小说“战”的故事,散文,和子类型,叫“太阳钟”,十八子类型。“小说”的“非技术问题”。值得注意的是,เดือนวาดพิมวนา获奖作家电影是“定期工作联系的短篇小说类文学的重要都会得到回报。“รางวัลช่อการะเกด女作家”,这是第一个得到第一次到4รางวัลช่อการะเกด1992年如下问题“第二次1993年焊接图像的第三次“实现”,“定期工作的1994年2009年”和最近几次的故事“劳拉”。文学作品竞赛和奖励的激励因素.写作质量产生,特别是文学作品被认为“小说类型”。
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: