Prudent financial macroeconomic pol

Prudent financial macroeconomic policy is one reason why Indonesia was resilient to the global financial crisis of 2008-2009. Both public and private debt have fallen sharply (as a percentage of GDP), international reserves have grown fast and inflation has been under control. In combination with relative political stability and certain favorable demographic trends it provides opportunities for strong economic performance over the medium term. Regarding the longer term, the Indonesian government aims to be in the top six of largest global economies by the year 2030.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นโยบายเศรษฐกิจมหภาคการเงินระมัดระวังเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมอินโดนีเซียถูกทนวิกฤตการเงินโลกของปี 2008-2009 ทั้งหนี้สาธารณะ และส่วนตัวได้ลดลงอย่างรวดเร็ว (เป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP), เงินสำรองระหว่างประเทศมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีอัตราเงินเฟ้อภายใต้การควบคุม ร่วมกับเทศบาลสัมพันธ์และแนวโน้มประชากรบางอัน จะให้โอกาสสำหรับประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าระยะปานกลาง เกี่ยวกับระยะยาว รัฐบาลอินโดนีเซียมุ่งหวังให้เป็นในชั้นหกของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลก โดยปีปี 2030

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระมัดระวังนโยบายเศรษฐกิจมหภาคการเงินเป็นเหตุผลหนึ่งที่อินโดนีเซียมีความยืดหยุ่นที่จะเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกของ 2008-2009 ทั้งหนี้ภาครัฐและเอกชนได้ลดลงอย่างรวดเร็ว (คิดเป็นร้อยละของ GDP) เงินสำรองระหว่างประเทศมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและอัตราเงินเฟ้อได้รับภายใต้การควบคุม ร่วมกับเสถียรภาพทางการเมืองและญาติแนวโน้มประชากรบางอย่างที่ดีมันให้โอกาสในการดำเนินงานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในระยะปานกลาง เกี่ยวกับการใช้ระยะยาวรัฐบาลอินโดนีเซียมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นในด้านบนหกของเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่ที่สุดโดยในปี 2030

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รอบคอบทางการเงิน เศรษฐกิจมหภาค นโยบายคือหนึ่งเหตุผลที่อินโดนีเซีย ซึ่งในวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลก 2008-2009 . ทั้งสาธารณะและหนี้ภาคเอกชนลดลงอย่างรวดเร็ว ( คิดเป็นร้อยละของ GDP , เงินสำรองระหว่างประเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและอัตราเงินเฟ้อได้อยู่ภายใต้การควบคุมในการรวมกันกับเสถียรภาพทางการเมืองที่สัมพันธ์ และมีจำนวนประชากรอันมีโอกาสทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงระยะกลาง ส่วนระยะยาว รัฐบาลอินโดนีเซียมีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นในด้านบนหกของประเทศที่ใหญ่ที่สุดของโลกโดยปี 2030