คาร์ฟูร์ เอสเอ (อังกฤษ: Carrefour S

คาร์ฟูร์ เอสเอ (อังกฤษ: Carrefour SA) เป็นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตข้ามชาติ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส มีสาขาอยู่ทั่วโลก ถ้าคิดจากรายได้แล้ว คาร์ฟูร์จะเป็นกลุ่มค้าปลีกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงวอลมาร์ต
คาร์ฟูร์เปิดสาขาแรกวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) ในเขตปริมณฑลของเมืองแอนเนซี (Annecy) ใกล้กับทางแยก (คำว่า "ทางแยก" ในภาษาฝรั่งเศส คือ carrefour) ซึ่งในปัจจุบันเป็นสาขาที่เล็กที่สุดในโลกของคาร์ฟูร์
ปี ค.ศ. 1970 คาร์ฟูร์มีสาขารวม 7 แห่งและคาร์ฟูร์ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในปี ค.ศ. 1972 เปิดได้เปิดสาขาที่ใหญ่ที่สุดมีพื้นที่ 24,000 ตารางเมตรขึ้นที่เมืองตูลูส และปี ค.ศ. 1985 คาร์ฟูร์ก็ได้ผลิตสินค้าในตราสัญลักษณ์ของคาร์ฟูร์ ออกสู่ตลาด จนในปี ค.ศ. 1992 คาร์ฟูร์มีสาขาทั้งหมด 120 สาขา

ห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทย
บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด เป็นชื่อของคาร์ฟูร์ เมื่อเข้ามาประกอบธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย โดยชื่อมาจาก central + carrefour เนื่องด้วยเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง เซ็นทรัลรีเทลคอร์เปอเรชั่น (ซีอาร์ซี) และ คาร์ฟูร์เนเธอร์แลนด์บีวี ในอัตราส่วน 60:40 แต่ภายหลัง ซีอาร์ซี ได้จำนองหุ้นระยะยาวให้กับคาร์ฟูร์ เนื่องด้วยวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ. 2540 แต่ตามพรบ.ค้าปลีกฯ ไม่อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นทั้งหมด หุ้นจำนวนดังกล่าวจึงอยู่ที่บริษัทโฮลดิ้งที่จัดตั้งขึ้นใหม่แทนและดำเนิน ธุรกิจเรื่อยมา จนถึงปี พ.ศ. 2553 ทางคาร์ฟูร์เนเธอร์แลนด์บีวี ได้ตัดสินใจถอนการลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากไม่สามารถสร้างผลกำไรได้มากเป็นปีที่ 5 โดยเบื้องต้นมีผู้เสนอเข้าประมูลกิจการถึง 4 ราย คือ บริษัท เซ็นทรัลรีเทลคอร์ปเรชั่น จำกัด (มหาชน), Casino Guichard-Perrachon หรือกลุ่มคาสิโน จากประเทศฝรั่งเศส (ถือหุ้นอยู่ใน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)), บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (BJC) และ ปตท.
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 กลุ่มคาสิโนได้ชนะการประมูลกิจการคาร์ฟูร์ในประเทศไทย ด้วยราคาซื้อขาย 686 ล้านยูโร โดยมีธนาคารดอยซ์แบงก์ เป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวถือหุ้น บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ในประเทศไทย และ 2 บริษัทจะร่วมตัวกัน และจะส่งผลให้สาขาของบิ๊กซีเพิ่มเป็น 105 สาขาทันที จาก 60 สาขา คิดเป็นมูลค่า 35,500 ล้านบาท และยังส่งผลให้ตลาดค้าปลีกในประเทศไทยเหลือเพียง 2 เจ้าใหญ่เท่านั้น ได้แก่ เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ซึ่งกิจการก็ได้ควบรวมกันเสร็จสิ้นในเดือนมกราคม 2554 และบิ๊กซีได้ทำการรีโนเวตห้างคาร์ฟูร์จำนวนทั้งหมด 41 สาขาให้กลายเป็นบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 25 สาขา, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า 15 สาขา, บิ๊กซี จัมโบ้ 1 สาขาซึ่งเป็นสาขาทดลองตลาด [2] และที่สำคัญบิ๊กซีได้กำหนดแบรนด์ใหม่ที่จะมาใช้แทนคาร์ฟูร์คือบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ซึ่งเป็นการนำเอาจุดเด่นในด้านการคัดสรรสินค้าจากทุกมุมโลก, การบริการที่เป็นเลิศของคาร์ฟูร์ มารวมกับราคาคุณภาพของบิ๊กซี โดยกรณีนี้ เป็นการศึกษาการให้บริการของ Extra ที่เป็นแบรนด์ไฮเปอร์มาร์เก็ตในประเทศบราซิล และเป็น 1 ในสมาชิกของกลุ่มคาสิโน และก็ได้นำมาปรับใช้ให้เข้ากับกับบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า และเพื่อป้องกันการเปิดสาขาซ้ำซ้อนในพื้นที่ใกล้เคียงนั่นเอง เนื่องจากในบางพื้นที่คาร์ฟูร์ตั้งอยู่หน้าบิ๊กซีโดยตรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คาร์ฟูร์เอสเอ (อังกฤษ: Carrefour SA) เป็นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตข้ามชาติมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสมีสาขาอยู่ทั่วโลกถ้าคิดจากรายได้แล้วคาร์ฟูร์จะเป็นกลุ่มค้าปลีกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเป็นรองเพียงวอลมาร์ตคาร์ฟูร์เปิดสาขาแรกวันที่ 3 มิถุนายนพ.ศในเขตปริมณฑลของเมืองแอนเนซี 2500 (ค.ศ. 1957) (อานซี) ใกล้กับทางแยก (คำว่า "ทางแยก" ในภาษาฝรั่งเศสคือคาร์ฟูร์) ซึ่งในปัจจุบันเป็นสาขาที่เล็กที่สุดในโลกของคาร์ฟูร์ปีค.ศ. 1970 คาร์ฟูร์มีสาขารวม 7 แห่งและคาร์ฟูร์ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปีค.ศ. 1972 เปิดได้เปิดสาขาที่ใหญ่ที่สุดมีพื้นที่ 24,000 ตารางเมตรขึ้นที่เมืองตูลูสและปีค.ศ. 1985 คาร์ฟูร์ก็ได้ผลิตสินค้าในตราสัญลักษณ์ของคาร์ฟูร์ออกสู่ตลาดจนในปีค.ศ. 1992 คาร์ฟูร์มีสาขาทั้งหมด 120 สาขาห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทยบริษัทเซ็นคาร์จำกัดเป็นชื่อของคาร์ฟูร์เมื่อเข้ามาประกอบธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยโดยชื่อมาจากกลาง + คาร์ฟูร์เนื่องด้วยเป็นการร่วมทุนกันระหว่างเซ็นทรัลรีเทลคอร์เปอเรชั่น (ซีอาร์ซี) และคาร์ฟูร์เนเธอร์แลนด์บีวีในอัตราส่วน 60:40 แต่ภายหลังซีอาร์ซีได้จำนองหุ้นระยะยาวให้กับคาร์ฟูร์เนื่องด้วยวิกฤติเศรษฐกิจพ.ศ. 2540 แต่ตามพรบ.ค้าปลีกฯ ไม่อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นทั้งหมดหุ้นจำนวนดังกล่าวจึงอยู่ที่บริษัทโฮลดิ้งที่จัดตั้งขึ้นใหม่แทนและดำเนินธุรกิจเรื่อยมาจนถึงปีพ.ศ. 2553 ทางคาร์ฟูร์เนเธอร์แลนด์บีวีได้ตัดสินใจถอนการลงทุนในประเทศไทยเนื่องจากไม่สามารถสร้างผลกำไรได้มากเป็นปีที่ 5 โดยเบื้องต้นมีผู้เสนอเข้าประมูลกิจการถึง 4 รายคือบริษัทเซ็นทรัลรีเทลคอร์ปเรชั่นจำกัด (มหาชน), คาสิโน Guichard Perrachon หรือกลุ่มคาสิโนจากประเทศฝรั่งเศส (ถือหุ้นอยู่ในบริษัทบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์จำกัด (มหาชน)), บริษัทเบอร์ลี่ยุคเกอร์ (BJC) จำกัดและปตทจนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 กลุ่มคาสิโนได้ชนะการประมูลกิจการคาร์ฟูร์ในประเทศไทย ด้วยราคาซื้อขาย 686 ล้านยูโร โดยมีธนาคารดอยซ์แบงก์ เป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวถือหุ้น บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ในประเทศไทย และ 2 บริษัทจะร่วมตัวกัน และจะส่งผลให้สาขาของบิ๊กซีเพิ่มเป็น 105 สาขาทันที จาก 60 สาขา คิดเป็นมูลค่า 35,500 ล้านบาท และยังส่งผลให้ตลาดค้าปลีกในประเทศไทยเหลือเพียง 2 เจ้าใหญ่เท่านั้น ได้แก่ เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ซึ่งกิจการก็ได้ควบรวมกันเสร็จสิ้นในเดือนมกราคม 2554 และบิ๊กซีได้ทำการรีโนเวตห้างคาร์ฟูร์จำนวนทั้งหมด 41 สาขาให้กลายเป็นบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 25 สาขา, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า 15 สาขา, บิ๊กซี จัมโบ้ 1 สาขาซึ่งเป็นสาขาทดลองตลาด [2] และที่สำคัญบิ๊กซีได้กำหนดแบรนด์ใหม่ที่จะมาใช้แทนคาร์ฟูร์คือบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ซึ่งเป็นการนำเอาจุดเด่นในด้านการคัดสรรสินค้าจากทุกมุมโลก, การบริการที่เป็นเลิศของคาร์ฟูร์ มารวมกับราคาคุณภาพของบิ๊กซี โดยกรณีนี้ เป็นการศึกษาการให้บริการของ Extra ที่เป็นแบรนด์ไฮเปอร์มาร์เก็ตในประเทศบราซิล และเป็น 1 ในสมาชิกของกลุ่มคาสิโน และก็ได้นำมาปรับใช้ให้เข้ากับกับบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า และเพื่อป้องกันการเปิดสาขาซ้ำซ้อนในพื้นที่ใกล้เคียงนั่นเอง เนื่องจากในบางพื้นที่คาร์ฟูร์ตั้งอยู่หน้าบิ๊กซีโดยตรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คาร์ฟูร์เอสเอ (อังกฤษ: คาร์ฟูร์ SA) เป็นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตข้ามชาติ มีสาขาอยู่ทั่วโลกถ้าคิดจากรายได้แล้ว
3 มิถุนายน พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) ในเขตปริมณฑลของเมืองแอนเนซี (Annecy) ใกล้กับทางแยก (คำว่า "ทางแยก" ในภาษาฝรั่งเศสคือคาร์ฟูร์)
ค.ศ. 1970 คาร์ฟูร์มีสาขารวม 7 ในปี ค.ศ. 1972 24,000 ตารางเมตรขึ้นที่เมืองตูลูสและปี ค.ศ. 1985 ออกสู่ตลาดจนในปี ค.ศ. 1992 คาร์ฟูร์มีสาขาทั้งหมด 120 สาขาห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทยบริษัท บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด เป็นชื่อของคาร์ฟูร์ โดยชื่อมาจากกลาง + คาร์ฟูร์ เซ็นทรัลรีเทลคอร์เปอเรชั่น (ซีอาร์ซี) และคาร์ฟูร์เนเธอร์แลนด์บีวีในอัตราส่วน 60:40 แต่ภายหลังซีอาร์ซีได้จำนองหุ้นระยะยาวให้กับคาร์ฟูร์เนื่องด้วยวิกฤติเศรษฐกิจพ ศ 2540 แต่ตามพรบ. ค้าปลีกฯ ธุรกิจเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2553 ทางคาร์ฟูร์เนเธอร์แลนด์บีวีได้ตัดสินใจถอนการลงทุนในประเทศไทย 5 4 รายคือ บริษัท เซ็นทรัลรีเทลคอร์ปเรชั่น จำกัด (มหาชน), คาสิโน Guichard-Perrachon หรือกลุ่มคาสิโนจากประเทศฝรั่งเศส (ถือหุ้นอยู่ใน บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)) บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (BJC) และปตท. จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ด้วยราคาซื้อขาย 686 ล้านยูโรโดยมีธนาคารดอยซ์แบงก์เป็นที่ปรึกษาทั้งนี้ บริษัท ดังกล่าวถือหุ้น บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ในประเทศไทยและ 2 บริษัท จะร่วมตัวกัน 105 สาขาทันทีจาก 60 สาขาคิดเป็นมูลค่า 35,500 ล้านบาท 2 เจ้าใหญ่เท่านั้น ได้แก่ เทสโก้โลตัสและบิ๊กซี 2554 41 สาขาให้กลายเป็นบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ 25 สาขา, บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า 15 สาขา, บิ๊กซีจัมโบ้ 1 สาขาซึ่งเป็นสาขาทดลองตลาด [2] เอ็กซ์ตร้า การบริการที่เป็นเลิศของคาร์ฟูร์มารวมกับราคาคุณภาพของบิ๊กซีโดยกรณีนี้เป็นการศึกษาการให้บริการของพิเศษ และเป็น 1 ในสมาชิกของกลุ่มคาสิโน เอ็กซ์ตร้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คาร์ฟูร์เอสเอ ( อังกฤษ :คาร์ฟูร์ SA ) เป็นกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตข้ามชาติมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสมีสาขาอยู่ทั่วโลกถ้าคิดจากรายได้แล้วคาร์ฟูร์จะเป็นกลุ่มค้าปลีกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเป็นรองเพียงวอลมาร์ต
คาร์ฟูร์เปิดสาขาแรกวันที่ 3 มิถุนายนพ . ศ . 2500 ( ค . ศ . 1957 ) ในเขตปริมณฑลของเมืองแอนเนซี ( แอนซี ) ใกล้กับทางแยก ( คำว่า " ทางแยก " ในภาษาฝรั่งเศสความคาร์ฟูร์ ) ซึ่งในปัจจุบันเป็นสาขาที่เล็กที่สุดในโลกของคาร์ฟูร์
. ค . ศ .1970 คาร์ฟูร์มีสาขารวม 7 แห่งและคาร์ฟูร์ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์สามารถค . ศ . 1972 เปิดได้เปิดสาขาที่ใหญ่ที่สุดมีพื้นที่ 24000 ตารางเมตรขึ้นที่เมืองตูลูสและปีค . ศ .1985 คาร์ฟูร์ก็ได้ผลิตสินค้าในตราสัญลักษณ์ของคาร์ฟูร์ออกสู่ตลาดจนในปีค . ศ . 1992 คาร์ฟูร์มีสาขาทั้งหมด 120 สาขา


ห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทยบริษัทเซ็นคาร์จำกัดเป็นชื่อของคาร์ฟูร์เมื่อเข้ามาประกอบธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยโดยชื่อมาจากเซ็นทรัล คาร์ฟูร์เนื่องด้วยเป็นการร่วมทุนกันระหว่างเซ็นทรัลรีเทลคอร์เปอเรชั่น ( ซีอาร์ซี ) และในอัตราส่วน 60 :40 แต่ภายหลังซีอาร์ซีได้จำนองหุ้นระยะยาวให้กับคาร์ฟูร์เนื่องด้วยวิกฤติเศรษฐกิจพ . ศ . 2540 แต่ตามพรบ .ค้าปลีกฯไม่อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นทั้งหมดหุ้นจำนวนดังกล่าวจึงอยู่ที่บริษัทโฮลดิ้งที่จัดตั้งขึ้นใหม่แทนและดำเนินธุรกิจเรื่อยมาจนถึงปีพ . ศ .