His Majesty King Bhumibol Adulyadej

His Majesty King Bhumibol Adulyadej initiated the
establishment of the Huai Hong Khrai Royal Development
Study Centre on December 11, 1982 in the area of Khun Mae
Kuang Forest, Doi Saket District, Chiang Mai Province, on a
total area of about 8,500 rai (1,360 hectares) to be the centre of experimentation and research for
the suitable method for watershed area development and disseminate the results to the villagers.
The intention is to achieve the optimum use of the water flowing down from the hilltop by means of
building check dams and fish bone-shaped ditches in order to preserve and maintain soil moisture
during the dry season which is useful for reforestation and can also serve as wet fire breaks. The water
that flows down to the foothill can be retained in the reservoir for crop cultivation, animal husbandry and
fishery. In the reforestation, the indigenous tree species as well as the trees for timber, for fruits and for
firewood are replanted to be the sources of seeds which will float down the hill and germinate in lower
areas to become a dense and fully-fertile forest.
Later, on February 3, 1984, His Majesty the King added that the Centre conducts the study
mainly on the complete development of forests in watershed areas. At the outset was the study on
forestry; whereas, at the end was the study on fishery in the reservoirs. These activities were coupled
with the studies in the field of agriculture, livestock and milch cow development as well as agroindustry.
The aim was to become a complete development study centre which would generate the
true applicable benefits to the people coming to observe the Centre’s activities.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พระสมเด็จเริ่มต้นจัดตั้งพัฒนารอยัลไคร้ฮ่องกงห้วยศูนย์การศึกษาบน 11 ธันวาคม 1982 ในพื้นที่ของคุณแม่กวางป่า อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ในตัวรวมพื้นที่ประมาณ 8,500 ไร่ (1,360 ไร่) เป็นการทดลองและการวิจัยสำหรับวิธีที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำ และเผยแพร่ผลการให้ชาวบ้านเพื่อให้การใช้น้ำที่ไหลลงจากยอดเขาโดยวิธีของสร้างฝายชะลอน้ำและคูรูปกระดูกปลาเพื่อ รักษาความชื้นในดินในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับปลูกป่า และยังสามารถทำหน้าที่เป็นตัวแบ่งไฟเปียก น้ำว่า สามารถสะสมกระแส foothill ลงไปในอ่างเก็บน้ำสำหรับการเพาะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และประมง ในการปลูกป่า พันธุ์ไม้พื้นเมือง เป็นต้น สำหรับไม้ ผลไม้ และฟืนจะมีสภาพเป็น แหล่งมาของเมล็ดซึ่งจะลอยลงจากภูเขา และงอกต่าพื้นที่เป็น ป่าหนาแน่น และ อุดมสมบูรณ์ในภายหลัง บน 3 กุมภาพันธ์ 1984 สมเด็จเพิ่มให้ ดำเนินการศึกษาหลักในการพัฒนาที่สมบูรณ์ของป่าไม้ในพื้นที่ลุ่มน้ำ เริ่มแรกคือการศึกษาในป่าไม้ ในขณะที่ ในตอนท้ายคือการประมงในอ่างเก็บน้ำการศึกษา กิจกรรมเหล่านี้ถูกควบคู่กับการศึกษาในด้านการเกษตร ปศุสัตว์ และพัฒนาวัว milch เป็น agroindustryจุดมุ่งหมายได้กลาย เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่สมบูรณ์ซึ่งจะสร้างความประโยชน์ใช้ได้จริงเพื่อคนมาสังเกตกิจกรรมของศูนย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชริเริ่ม
จัดตั้งห้วยฮ่องไคร้รอยัลพัฒนา
ศูนย์ศึกษาวันที่ 11 ธันวาคม 1982 ในพื้นที่ขุนแม่
กวงป่าอำเภอดอยสะเก็ดจังหวัดเชียงใหม่บน
พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 8,500 ไร่ (1,360 เฮคเตอร์ ) เพื่อเป็นศูนย์กลางของการทดลองและการวิจัยสำหรับ
วิธีที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำและเผยแพร่ผลให้ชาวบ้าน.
ความตั้งใจที่จะให้เกิดการใช้ที่เหมาะสมของน้ำที่ไหลลงมาจากยอดเขาโดยวิธีการของ
การสร้างเขื่อนการตรวจสอบและกระดูกปลา คู -shaped เพื่อที่จะรักษาและรักษาความชุ่มชื้นในดิน
ในช่วงฤดูแล้งซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการปลูกป่าและยังสามารถใช้เป็นเปียกแบ่งไฟ น้ำ
ที่ไหลลงไปที่ตีนเขาสามารถเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำสำหรับการเพาะปลูกพืชเลี้ยงสัตว์และ
การประมง ในการปลูกป่าที่ต้นไม้ชนิดพื้นเมืองเช่นเดียวกับต้นไม้ไม้, ผลไม้และ
ฟืนมีการปลูกสร้างที่จะเป็นแหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์ที่จะลอยลงเขาและงอกในที่ต่ำกว่า
พื้นที่ที่จะกลายเป็นป่าหนาแน่นและอุดมสมบูรณ์อย่างเต็มที่
ต่อมาวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1984 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสริมว่าศูนย์จะทำการศึกษา
ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการพัฒนาที่สมบูรณ์ของป่าไม้ในพื้นที่ลุ่มน้ำ เริ่มแรกคือการศึกษาเกี่ยวกับการ
ป่าไม้ ในขณะที่ในตอนท้ายคือการศึกษาเกี่ยวกับการประมงในอ่างเก็บน้ำที่ กิจกรรมเหล่านี้ได้รับการควบคู่
กับการศึกษาในด้านการเกษตรปศุสัตว์และการพัฒนาวัวนมเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมเกษตร.
มีจุดมุ่งหมายที่จะกลายเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่สมบูรณ์ซึ่งจะสร้าง
ผลประโยชน์บังคับที่แท้จริงให้กับคนที่มาดูงานของศูนย์ฯ