Aristotle defines artistic proofs (

Aristotle defines artistic proofs (invention) to be within the scope of the art of rhetoric, and inartistic proofs (testimony) to be outside the art of rhetoric.
Aristotle’s was the first attempt to separate the art of argument from evidence and facts. He was the first to realize that a collection of facts (inartistic proofs) is just a collection of facts. It takes a skilled rhetorician to study those facts and bring them together in a composition that is interesting, persuasive, and useful to others.
There are, according to Aristotle, five types of inartistic proofs: laws, contracts, witnesses, tortures, and oaths. Today we would ethically eliminate tortures, and add to Aristotle’s list—from our technology-driven world—photographs, video clips, Gallup polls, and scientific experimentation. Inartistic proofs should never comprise the bulk of your essay, they are merely the raw materials from which your essay will be constructed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อริสโตเติลกำหนดหลักฐานศิลปะ (ประดิษฐ์) อยู่ในขอบเขตของศิลปะของสำนวน และหลักฐานที่ inartistic (พยาน) จะอยู่นอกศิลปะของสำนวนของอริสโตเติลเป็นครั้งแรกเพื่อแยกศิลปะของอาร์กิวเมนต์จากหลักฐานและข้อเท็จจริง เขาเป็นคนแรกที่ตระหนักว่า คอลเลกชันของข้อเท็จจริง (inartistic หลักฐาน) เป็นเพียงคอลเลกชันของข้อเท็จจริง ใช้ rhetorician ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาข้อเท็จจริงเหล่านั้น และนำพวกเขาเข้าด้วยกันในองค์ประกอบที่น่าสนใจ โน้มน้าวใจ และประโยชน์ผู้อื่นมี ตามที่อริสโตเติล ห้าประเภทของหลักฐาน inartistic: กฎหมาย สัญญา พยาน tortures และ oaths วันนี้เราจะกำจัด tortures และเพิ่มรายการของอริสโตเติล — จากโลกของเราขับเคลื่อนเทคโนโลยี — ภาพ คลิปวิดีโอ Gallup สำรวจ และการทดลองทางวิทยาศาสตร์ สอบ inartistic ไม่ควรประกอบของเรียงความของคุณ พวกเขาเป็นเพียงวัตถุดิบที่จะสร้างของเรียงความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อริสโตเติลกำหนดพิสูจน์ศิลปะ (ประดิษฐ์) จะต้องอยู่ภายในขอบเขตของงานศิลปะของสำนวนและหลักฐานอันผิดหลักศิลปะ (พยานหลักฐาน) จะอยู่นอกศิลปะของสำนวน.
อริสโตเติลเป็นความพยายามครั้งแรกที่จะแยกศิลปะของการโต้แย้งจากหลักฐานและข้อเท็จจริง เขาเป็นคนแรกที่จะตระหนักว่าการเก็บรวบรวมข้อเท็จจริง (ปรู๊ฟผิดหลักศิลปะ) เป็นเพียงการเก็บรวบรวมข้อเท็จจริง มันต้องใช้โวหารที่มีทักษะในการศึกษาข้อเท็จจริงเหล่านั้นและนำพวกเขาเข้าด้วยกันในองค์ประกอบที่เป็นที่น่าสนใจโน้มน้าวใจและเป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ .
นอกจากนี้ตามที่อริสโตเติลห้าประเภทของการพิสูจน์ผิดหลักศิลปะ: กฎหมายสัญญาพยานทรมานและคำสาบาน . วันนี้เรามีจริยธรรมจะกำจัดทรมานและเพิ่มอริสโตเติลรายการจากเทคโนโลยีขับเคลื่อนโลกของเราถ่ายภาพวิดีโอคลิปโพลล์ Gallup, และการทดลองทางวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ผิดหลักศิลปะไม่ควรประกอบด้วยกลุ่มของเรียงความของคุณที่พวกเขาเป็นเพียงวัตถุดิบจากเรียงความของคุณจะถูกสร้างขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อริสโตเติลนิยามหลักฐานศิลปะ ( ประดิษฐ์ ) ให้อยู่ในขอบเขตของศิลปะวาทศิลป์ และหลักฐาน inartistic ( คำให้การ ) นอกศิลปะวาทศิลป์อริสโตเติลเป็นครั้งแรกเพื่อแยกศิลปะจากการโต้แย้งข้อเท็จจริง หลักฐาน และ เขาเป็นคนแรกที่ตระหนักดีว่า คอลเลกชันของข้อเท็จจริง ( ปรู๊ฟ inartistic ) เป็นคอลเลกชันของข้อเท็จจริง มันต้องใช้ทักษะ rhetorician เพื่อศึกษาข้อเท็จจริงเหล่านั้นและนำพวกเขาเข้าด้วยกันในองค์ประกอบที่น่าสนใจ ดึงดูด และเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นมี ตามอริสโตเติล ห้าประเภทของหลักฐาน inartistic : กฎหมาย , สัญญา , พยาน , ทรมานและคำสาบาน . วันนี้เราก็มีจริยธรรมลดทรมานและเพิ่มรายการอริสโตเติลมาจากเทคโนโลยีภาพถ่ายโลกคลิป แกลลัป โพลล์ และการทดลองทางวิทยาศาสตร์ หลักฐาน inartistic ควรประกอบด้วยกลุ่มของเรียงความของคุณ พวกเขาเป็นเพียงวัตถุดิบจากที่บทความของคุณจะถูกสร้างขึ้น