This 12-week pilot study examined e

This 12-week pilot study examined effects of vinegar on markers of type 2 diabetes in at-risk adults. Participants (n = 14) ingested 750 mg acetic acid as a vinegar drink or a control pill (40 mg acetic acid) twice daily at mealtime. Blood glucose (fasting and 2-h postprandial) was recorded daily. Fasting blood collected at weeks 0 and 12 was analyzed for insulin and glycated hemoglobin. Average change in fasting glucose was reduced in the vinegar group versus control group (−0.91 ± 0.27 versus −0.26 ± 0.17 mmol/l) (p = 0.05). Average change in 2-h postprandial glucose, insulin and glycated hemoglobin did not vary between groups. Fasting breath hydrogen at week 12 was elevated 19% in the vinegar group versus control group suggesting an increase in colonic fermentation in the vinegar group. These data indicate that vinegar, a simple addition to meals, has antiglycaemic effects in adults at-risk for type 2 diabetes, possibly related to carbohydrate maldigestion.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานำร่อง 12 สัปดาห์นี้ตรวจสอบผลของน้ำส้มสายชูเครื่องหมายของชนิดที่ 2 โรคเบาหวานในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยง ผู้เรียน (n = 14) กิน 750 มิลลิกรัมกรดอะซิติกเป็นเครื่องดื่มน้ำส้มสายชูหรือยาควบคุม (40 มิลลิกรัมกรดอะซิติก) สองครั้งทุกวันที่ mealtime น้ำตาลในเลือด (การถือศีลอดและ 2 h postprandial) ถูกบันทึกไว้ทุกวัน เลือดที่เก็บในสัปดาห์ที่ 0 และ 12 ถือศีลอดถูกวิเคราะห์สำหรับฮีโมโกลบินอินซูลินและ glycated เปลี่ยนแปลงเฉลี่ยในกลูโคสถือศีลอดได้ลดลงในกลุ่มน้ำส้มสายชูเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (−0.91 ± 0.27 และ −0.26 ± 0.17 mmol/l) (p = 0.05) การเปลี่ยนแปลง 2-h postprandial กลูโคส อินซูลิน และ glycated ฮีโมโกลบินเฉลี่ยได้ไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม ถือศีลอดลมไฮโดรเจนที่สัปดาห์ 12 ถูกยกระดับ 19% ในกลุ่มน้ำส้มสายชูเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมแนะนำการเพิ่มหมัก colonic ในกลุ่มน้ำส้มสายชู ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่า น้ำส้มสายชู นี้เป็นเรื่องอาหาร มีผล antiglycaemic ในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงสำหรับเบาหวานชนิดที่ 2 อาจเกี่ยวข้องกับคาร์โบไฮเดรต maldigestion

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษานำร่องนี้ 12 สัปดาห์การตรวจสอบผลกระทบของน้ำส้มสายชูกับตัวบ่งชี้ของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยง ผู้เข้าร่วมกิจกรรม (n = 14) ติดเครื่อง 750 มก. กรดอะซิติกเป็นเครื่องดื่มน้ำส้มสายชูหรือยาควบคุม (40 มก. กรดอะซิติก) วันละสองครั้งที่รับประทานอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือด (การอดอาหารและ 2 ชั่วโมงภายหลังตอนกลางวัน) จะถูกบันทึกประจำวัน เลือดอดอาหารเก็บที่สัปดาห์ที่ 0 และ 12 ได้รับการวิเคราะห์อินซูลินและฮีโมโกล glycated การเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยในกลูโคสลดลงในกลุ่มน้ำส้มสายชูเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม (-0.91 ± 0.27 เมื่อเทียบกับ -0.26 ± 0.17 มิลลิโมล / ลิตร) (p = 0.05) การเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยใน 2 ชั่วโมงระดับน้ำตาลภายหลังตอนกลางวัน, อินซูลินและฮีโมโกล glycated ไม่ได้แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม การถือศีลอดลมหายใจไฮโดรเจนในสัปดาห์ที่ 12 สูงขึ้น 19% ในกลุ่มน้ำส้มสายชูเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมแนะนำการเพิ่มขึ้นของการหมักลำไส้ใหญ่ในกลุ่มน้ำส้มสายชู ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าน้ำส้มสายชูนอกจากนี้ง่ายในการรับประทานอาหารมีผล antiglycaemic ในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อาจจะเกี่ยวข้องกับคาร์โบไฮเดรต maldigestion

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

12 สัปดาห์การศึกษานำร่องการตรวจสอบผลของน้ำส้มสายชูในเครื่องหมายของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยง . ผู้เข้าร่วม ( N = 14 ) กิน 750 มิลลิกรัม กรดเป็นน้ำส้มสายชูดื่มหรือควบคุมยา ( 40 มิลลิกรัม กรด ) วันละสองครั้ง เวลาทานอาหารกันนะครับ เลือดกลูโคสอดอาหารและ 2-h หลังอาหาร ) คือบันทึกประจำวัน อดเลือดที่เก็บในสัปดาห์ที่ 0 และ 12 ใช้อินซูลิน และไกลเคตเตต ฮีโมโกลบินเปลี่ยนโดยการอดอาหารกลูโคสลดลงในกลุ่มส้มและกลุ่มควบคุม ( − ( −± 0.27 และ 0.26 ± 0.17 มิลลิโมล / ลิตร ) ( p = 0.05 ) การเปลี่ยนแปลงโดยเฉลี่ยใน 2-h หลังอาหารกลูโคส อินซูลิน และไกลเคตเตตินไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มอดอาหารลมหายใจไฮโดรเจนในสัปดาห์ที่ 12 ได้สูงเมื่อเทียบกับ 19% ในน้ำส้มสายชูกลุ่มกลุ่มควบคุมจะเพิ่มเครื่องหมายหมักในกลุ่มส้ม ข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ว่าน้ำส้มสายชู นอกจากนี้ง่ายอาหารที่มีผลใน antiglycaemic ที่มีผู้ใหญ่สำหรับเบาหวานชนิดที่ 2 อาจจะเกี่ยวข้องกับ 57% ของคาร์โบไฮเดรต