คุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศสมาชิก
กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เนื่องจากในปีพุทธศักราช 2558 ประเทศไทยของเรากำลังจะเข้าสู่การเป็นสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อความเจริญก้าวหน้าทางสังคมและการพัฒนาในภูมิภาคต่างๆ ทั้งนี้เราก็ต้องมีการเตรียมตัวเตรียมความพร้อม สิ่งที่พวกเราศึกษา คือ คุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศสมาชิกกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตั้งแต่ปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่าง และนำมาเปรียบเทียบว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร อีกทั้งเสนอแนะแนวทางการปฏิบัติเพื่อปรับตัวให้เข้ากับประเทศสมาชิกอีก 9 ประเทศให้ได้ เพราะ ก่อนที่เราจะพัฒนาไปพร้อมๆกัน ก็ต้องมีคุณภาพที่ใกล้เคียงหรือเหมาะสมกันจึงจะทำให้การพัฒนาเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง
ความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิต
คุณภาพชีวิตของประชากร หมายถึง มาตรฐานการดำรงชีวิตอันเหมาะสม ของประชากรในสังคม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์คือการทำให้มนุษย์มี ประสิทธิภาพและ มีคุณภาพในด้านการทำงานเพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ รวมทั้งการมีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์และมีคุณธรรม การพัฒนา คุณภาพชีวิตของประชากรในแต่ละประเทศ จำเป็นต้องเริ่มพัฒนาตั้งแต่เกิดและต่อเนื่องจนถึงตาย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้กำหนดความจำเป็นพื้นฐานหลัก ๆ ไว้ 6 ประการ ได้แก่ ด้านการศึกษา สุขภาพอนามัย การประกอบอาชีพ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาหรือจัดการท้องถิ่นหรือบ้าน เมือง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และจิตใจในการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข เพื่อเป็นเกณฑ์ในการประเมินสถานการณ์ ปัญหา ตลอดจนแนวทางในการพัฒนา คุณภาพชีวิต
ปัจจัยที่ทำให้เกิดความแตกต่างในเรื่องของคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศสมาชิกกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ปัจจัยด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ประเทศสมาชิกกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
1.ประเทศพม่า ทางทิศตะวันออกติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและประเทศไทย ทางทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับประเทศทิเบตและแคว้นยูนนานของประเทศจีน ทางทิศใต้ติดกับอ่าวเบงกอล ทะเลอันดามัน และประเทศไทย ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับประเทศอินเดียและประเทศบังคลาเทศ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ติดกับประเทศไทย
2.ประเทศกัมพูชา ทางทิศตะวันออกมีแนวเทือกเขาอันนัมที่เป็นพรมแดนกั้นประเทศเวียดนาม ทางทิศเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือมีแนวเทือกเขาพนมดงรักเป็นพรมแดนกับประเทศไทย ทางทิผสใต้และตะวันตกเผแยงใต้มีเทือกเขาบรรทัดเป็นพรมแดนกับประเทศไทย
3.ประเทศลาว ทางทิศเหนือติดกับประเทศจีน ทางทิศตะวันออกติดกับประเทศเวียดนาม ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับประเทศประเทศพม่า ทางทิศตะวันตกติดกับประเทศไทย ทางทิศใต้ติดกับประเทศกัมพูชา
4.ประเทศฟิลิปปินส์ ทางทิศเหนือและทิศตะวันตกจรดกับทะเลจีนใต้ ทางทิศเหนือติดกับดินแดนของไต้หวัน จีน ฮ่องกง และ ญี่ปุ่น ทางทิศตะวันตกติดกับประเทศเวียดนาม ทางทิศใต้จรดทะเลเซลีเบส หรือ สลาเวสี อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ทางทิศตะวันออกจรดมหาสมุทรแปซิฟิก
5.ประเทศมาเลเซีย ทางทิศใต้ติดกับประเทศสิงค์โปร์ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับประเทสฟิลิปปินส์ ทางทิศตะวันตกติดกับช่องแคบมะละกาและเกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย ทางทิศเหนือติดกับประเทศไทย
6.ประเทศอินโดนีเซีย ทางทิศเหนือติดกับรัฐซาราวัคและรัฐบาร์ซาของประเทศมาเลเซีย ทางทิศตะวันออกติดกับประเทศปาปัวนิวกินี ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับน่านน้ำของประเทศมาเลเซียโดยมีช่องแคบมะละกาเป็นพรมแดนระหว่างเกาะสุมาตรากับประเทศมาเลเซีย
7.ประเทศบรูไน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว ทางทิศตะวันออก ตะวันตกและทิศใต้ติดกับเขตซาราวัค ประเทศมาเลเซีย
8.ประเทศสิงค์โปร์ ทางทิศเหนือติดกับประเทศมาเลเซีย ทางทิศตะวันตก ทางทิศตะวันออกและทางทิศใต้ติดกับทะเล
9.ประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของคาบสมุทรอินโดจีน ทางทิศเหนือติดกับประเทศลาวและประเทศกัมพูชา ทางทิศตะวันตกติดกับอ่าวตังเกียและทะเลจีนใต้
10.ประเทศไทย ทางทิศเหนือติดกับประเทศลาวและประเทศพม่า ทางทิศใต้ติดกับประเทศมาเลเซีย ทางทิศตะวันออกติดกับประเทศลาวและประเทศกัมพูชา ทางทิศตะวันตกติดกับประเทศพม่า
ปัจจัยด้านการศึกษาของประเทศสมาชิกกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
1.ประเทศพม่า กระทรวงศึกษาธิการใช้ระบบการศึกษาเป็นระบบ 5:4:2 คือ
- ชั้นประถมศึกษา 5 ปี โดยมีอนุบาล 1 ปี และประถมศึกษา 4 ปี
- ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 4 ปี ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 2 ปี อาชีวศึกษา 1-3 ปี
- อุดมศึกษา 4-6 ปี
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ
1) กรมการศึกษาพื้นฐานของพม่า ซึ่งจะรับผิดชอบเกี่ยวกับการวางนโยบายและบริหารการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา มัธยมศึกษา รวมทั้งการศึกษาเกี่ยวกับการฝึกหัดครู
2) กรมการเทคโนโลยีเกษตรและอาชีวศึกษา เป็นหน่วยงานที่ดูแลจัดการศึกษาด้านเกษตรกรรม พาณิชยกรรม
3) กรมอุดมศึกษา ทำหน้าที่วางแผนนโยบายและดำเนินการด้านอุดมศึกษาของประเทศ จัดการศึกษาในรูปแบบของมหาวิทยาลัยใน 3 เมืองสำคัญ คือ มหาวิทยาลัย Yangon Mandalay และ Manlamyine
2.ประเทศกัมพูชา จัดระบบการศึกษารูปแบบเดียวกับประเทศไทย คือ ชั้นประถมวัย อายุ 3-5 ปี ประถมศึกษา อายุ 6-12 ปี มัธยมศึกษาตอนต้น อายุ 13-15 ปี มัธยมศึกษาตอนปลาย อายุ 16-18 ปี และการศึกษาขั้นสูง อายุ 18 ปีขึ้นไป อัตราการอ่านออกเขียนได้ ข้อมูลจากการสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2550 พบว่าประชาการตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป ในภาพรวมของประเทศ มีอัตราการอ่านออกเขียนได้ประมาณร้อยละ 75 สำหรับการเข้ารับการศึกษาของชาวกัมพูชาระหว่าง 5-24 ปี พบว่าในภาพรวมมีประชากรเข้ารับราชการร้อยละ 66
3.ประเทศลาว จะแบ่งการศึกษาเป็น 2 ระบบ คือ
1. การศึกษาในระบบ ก็จะแบ่งเป็น 3 ระดับ
1). ระดับสามัญศึกษา โดยมีอนุบาล 3 ปี ประถม 5 ปี มัธยมต้น 3 ปี มัธยมปลาย 3 ปี
2). ระดับอาชีวะศึกษา ประกอบด้วย ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ระดับช่าง และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
3). ระดับอุดมศึกษา
2. การศึกษานอกระบบ มี 3 ประเภท คือ ฝึกอบรมผู้ใหญ่ที่อ่านละเรียนหนังสือไม่เป็น ยกระดับวิชาชีพให้แก่ผู้ใหญ่
4.ประเทศฟิลิปปินส์ ระบบการศึกษาของประเทศฟิลิปปินส์มีทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยการศึกษาแบบที่เป็นทางการ จะมีอยู่ 3 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษา คือ
- ระด