Early YearsLee Kuan Yew was born in

Early Years

Lee Kuan Yew was born into a wealthy Chinese family that had resided in Singapore since the 19th century. After World War II, Lee studied law at Fitzwilliam College, in Cambridge, UK. In 1950, he was admitted to the English bar, but instead of practicing law there, Lee returned to Singapore to do so.

Political Beginnings

At the time, Singapore was a British colony and held Britain's main naval base in the Far East. The country was ruled by a governor and a legislative council, mostly comprising wealthy Chinese businessmen who were appointed rather than elected by the people. In the early 1950s, Singapore buzzed with talk of constitutional reform and independence, and Lee banded with other like minds to challenge the governing structure of the country. Soon breaking from this group and taking a more radical stance, in 1954 Lee became secretary-general of his own party, the People's Action Party.

The PAP Evolves

In 1955, a new Singapore constitution was introduced. It increased the number of elected seats on the council to 25 out of a total of 32, thereby allowing only 7 seats to be filled by appointment. In the elections that followed, the party founded by Lee's former colleagues, the Labour Front, won 13 seats, while Lee's PAP won merely 3.

But with his party represented on the council, in 1956 Lee headed to London as part of the delegation seeking self-rule for Singapore. After the negotiations failed, Singapore experienced a year of civil unrest, but in 1957, Lee returned to London yet again as talks resumed.

The next year, Lee helped negotiate what Singapore's status would be as a self-governing state, and a new constitution was formed.

Under the new constitution, national elections were held in June 1959. Lee campaigned on an anticolonialist, anticommunist platform and called for sweeping social reforms and an eventual federation with neighboring countries.

Lee's party won a decisive victory, taking 43 of the 51 seats in the assembly, and Singapore gained self-governing status (except in matters of defense and foreign affairs). Lee was sworn in as prime minister on June 5, 1959, becoming the first prime minister of an independent Singapore.

Singapore Independence

Once in office, Lee Kuan Yew introduced a five-year plan calling for urban renewal and construction of new public housing, greater rights for women, educational reform and industrialization.

His plan also called for a merger of Singapore with Malaysia, and after Malayan prime minister Tunku Abdul Rahman proposed the formation of a federation that would include Malaya, Singapore, Sabah and Sarawak, Lee began to campaign in favor of the effort and to end British colonial rule for good.

To show that the people of Singapore were supportive, Lee used the results of a referendum held in September 1962, in which 70 percent of the votes were cast in favor of the proposal. So in 1963, Singapore joined the newly created Federation of Malaysia. In elections held shortly after, the PAP retained its control of Singapore's Parliament, and Lee held onto his post as prime minister.

Split With Malaysia

Growing tension between Chinese and Malays in the Federation, however, resulted in rioting in Singapore, notably marked by the Prophet Muhammad Birthday Riots, or Sino-Malay riots, of the summer of 1964. A year later, with racial strife continuing, Lee was told by his Malaysian colleagues that Singapore must leave the federation.

Lee was passionate about working out a compromise, but his efforts proved fruitless, and he signed a separation agreement on August 7, 1965. The failure of the merger was a serious blow to Lee, who believed that unity was crucial for Singapore's survival. In a televised press conference, he was emotionally drained as he announced the formal separation and Singapore's full independence:

"For me, it is a moment of anguish," he said. "All my life ... I believed in Malaysian merger and unity of the two territories. You know that we, as a people, are connected by geography, economics, by ties of kinship ... It literally broke everything that we stood for ... now Singapore shall be forever a sovereign democratic and independent nation, founded upon the principles of liberty and justice and ever seeking the welfare and happiness of the people in a most and just equal society."

With the broken union came problems beyond Lee's personal grief: Singapore's lack of natural resources and a limited defensive capability were major challenges.

Singapore needed a strong economy to survive as an independent country, and Lee quickly spearheaded a program to transform it into a major exporter of finished goods. He also encouraged foreign investment and made moves to ensure a rising standard of living for workers.

When the opposition party decided to boycott Parliament from 1966 onward, the PAP won every seat in Parliament in the elections of 1968, 1972, 1976 and 1980.

Later Years and Legacy

Lee resigned as prime minister in November 1990 but remained the leader of the PAP until 1992. After 14 years away, Lee's family took its place at the head of the Singapore government once again in the summer of 2004, when Lee's son Lee Hsien Loong took power.

In early 2015, Lee Kuan Yew was hospitalized with pneumonia. By early March, he was on a ventilator, in critical condition, and he died soon after, on March 23.

Lee has left behind a legacy of an efficiently run country and as a leader who brought prosperity unheard of before his tenure, at the cost of a mildly authoritarian style of government. By the 1980s, Singapore, under Lee's guidance, had a per capita income second only to Japan's in East Asia, and the country had become a chief financial center of Southeast Asia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปีแรก ๆโฮบาร์ตควนลีเกิดในครอบครัวมั่งคั่งแต่จีนที่มีอยู่ในประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 หลังจากสงครามโลก ลีศึกษากฎหมายที่พิพิธภัณฑ์วิทยาลัย ในเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร ในปี 1950 เขาได้รับเข้าไปแถบภาษาอังกฤษ แต่แทนกฎหมายมีการฝึกซ้อม ลีกลับไปสิงคโปร์ดังจุดเริ่มต้นทางการเมืองเวลา สิงคโปร์เป็นอาณานิคมอังกฤษ และจัดฐานทัพเรือหลักของอังกฤษในตะวันออกไกล ประเทศที่ปกครอง โดยข้าและสภาสภา ส่วนใหญ่ประกอบด้วยนักธุรกิจจีนมั่งคั่งที่ถูกแต่งตั้ง มากกว่าเลือกตั้ง โดยประชาชน ในช่วงต้นทศวรรษ 1950 สิงคโปร์ buzzed กับคุยปฏิรูปรัฐธรรมนูญและความเป็นอิสระ และลีแถบกันเช่นจิตใจการท้าทายโครงสร้างการกำกับดูแลของประเทศ เร็ว ๆ นี้ แบ่งจากกลุ่มนี้ และมีท่าทางที่รุนแรงมากขึ้น ใน 1954 ลีกลายเป็น เลขาธิการพรรคของเขาเอง ประชาชนพรรคบอยู่เสมอใน 1955 รัฐธรรมนูญฉบับสิงคโปร์ใหม่ถูกนำมาใช้ จะเพิ่มจำนวนที่นั่งที่ได้รับเลือกในสภาถึง 25 จากทั้งหมด 32 จึงให้เพียง 7 ที่นั่งจะต้องเต็มไป ด้วยการนัดหมาย ในการเลือกตั้งที่ตามมา บุคคลก่อตั้งขึ้น โดย Lee อดีตเพื่อนร่วมงาน การแรงงานหน้า ชนะที่นั่ง 13 ในขณะที่ลีของ PAP ชนะเพียง 3แต่กับฝ่ายของเขาแทนในสภา ในปี 1956 ลีมุ่งหน้าไปลอนดอนเป็นส่วนหนึ่งของการมอบหมายไม่ self-rule สำหรับสิงคโปร์ หลังจากที่การเจรจาล้มเหลว สิงคโปร์มีประสบการณ์ปีของความไม่สงบแพ่ง แต่ใน 1957 ลีกลับไปลอนดอนอีกครั้งเป็นการเจรจาดำเนินต่อปีถัดไป ลีช่วยเจรจาอะไรสถานะของสิงคโปร์จะเป็นสถานะควบคุมตนเอง และก่อตั้งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ เลือกตั้งแห่งชาติถูกจัดขึ้นในเดือน 1959 มิถุนายน ลีมูลบนแพลตฟอร์มเป็น anticolonialist, anticommunist และเรียกกวาดปฏิรูปสังคมและสภาการเก็บกับประเทศเพื่อนบ้านลีของฝ่ายชนะชัยเด็ดขาด การ 43 51 ที่นั่งในสภา และสิงคโปร์ได้รับสถานะที่ควบคุมตนเอง (ยกเว้นในเรื่องของการป้องกันประเทศและกิจการต่างประเทศ) ลีได้สาบานในการเป็นนายกรัฐมนตรีบน 5 มิถุนายน 1959 กลายเป็น นายกรัฐมนตรีครั้งแรกของสิงคโปร์เป็นอิสระเอกราชสิงคโปร์ครั้งเดียวใน office, Lee โฮบาร์ตควนนำแผนห้าปีเรียกต่อเออร์ และก่อสร้างของการเคหะแห่งใหม่ สิทธิมากขึ้นสำหรับผู้หญิง ปฏิรูปการศึกษา และทวีความรุนแรงมากแผนเรียกว่าการควบรวมกิจการของสิงคโปร์กับมาเลเซีย และหลังจากมาลายานายกรัฐมนตรี Tunku Abdul Rahman เสนอจัดตั้งสหพันธรัฐที่จะมาลายา สิงคโปร์ ซาบาห์ และซาราวัค ลีเริ่มแคมเปญสามารถความพยายาม และจบกฎอาณานิคมอังกฤษดีแสดงว่า คนสิงคโปร์ได้ให้การสนับสนุน ลีใช้ผลลัพธ์ของการลงประชามติจัดขึ้นในเดือน 1962 กันยายน ซึ่งร้อยละ 70 ของคะแนนได้โยนสามารถข้อเสนอ ดังนั้น ใน 1963 สิงคโปร์ร่วมสร้างของสหพันธรัฐมาเลเซีย ในการเลือกตั้งจัดขึ้นในไม่ช้าหลังจาก บการเก็บรักษาการควบคุมของรัฐสภาของสิงคโปร์ และลีจับไว้ลงเป็นนายกรัฐมนตรีแยกกับมาเลเซียเพิ่มขึ้นความตึงเครียดระหว่างจีนเชื้อสายมลายูในสภาแห่ง อย่างไรก็ตาม ทำให้เกิดจลาจลในสิงคโปร์ ทำเครื่องหมาย โดยท่านนบีมุหัมมัดวันเกิดจลาจลยวด หรือ จลาจลจีน-มาเลย์ ฤดูร้อนของปี 1964 ปีต่อ กับมิดเชื้อชาติ ลีถูกบอก โดยเพื่อนร่วมงานของเขามาเลเซียสิงคโปร์ต้องปล่อยสภาแห่งลีเป็นหลงใหลเกี่ยวกับการทำงานออกการประนีประนอม แต่ความพยายามของเขาพิสูจน์ fruitless และเขาลงนามข้อตกลงการแยกบน 7 สิงหาคม 1965 ความล้มเหลวของการควบรวมกิจการมีระเบิดร้ายแรงกับ Lee ที่เชื่อว่า ความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความอยู่รอดของสิงคโปร์ ในการแถลงข่าว televised เขาถูกอารมณ์ระบายออก ตามที่เขาประกาศแยกทางและความเป็นอิสระเต็มของสิงคโปร์:"สำหรับฉัน มันเป็นช่วงเวลาของความปวดร้าว เขากล่าวว่า "ทุกชีวิต... ผมเชื่อว่าในมาเลเซียควบและเอกภาพของดินแดนสอง คุณรู้ว่า เราเป็นคนตัว เชื่อมต่อตามภูมิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ โดยความสัมพันธ์ของญาติ มันยากจนอย่างแท้จริงทุกสิ่งทุกอย่างที่เรายืนสำหรับ...ตอนนี้สิงคโปร์จะตลอดอธิปไตยประชาธิปไตย และอิสระประเทศ ก่อตั้งขึ้นตามหลักการของเสรีภาพ และความยุติธรรม และเคยแสวงหาสวัสดิการและความสุขของคนในสังคมส่วนใหญ่ และเหวี่ยง"กับสหภาพเสียมาปัญหานอกเหนือจากความเศร้าโศกส่วนตัวของลี: สิ่งที่ท้าทายความถูกของสิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติและความสามารถในการป้องกันจำกัดสิงคโปร์ต้องการเศรษฐกิจแข็งแกร่งเพื่อความอยู่รอดเป็นประเทศเป็นอิสระ และลี spearheaded โปรแกรมแปลงเป็นผู้ส่งออกที่สำคัญของสินค้าสำเร็จรูปอย่างรวดเร็ว เขายังส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ และทำการย้ายให้เพิ่มมาตรฐานการครองชีพสำหรับผู้ปฏิบัติงานเมื่อฝ่ายค้านตัดสินใจคว่ำบาตรรัฐสภาจาก 1966 เป็นต้นไป PAP ที่ชนะทุกที่นั่งในสภาในการเลือกตั้งค.ศ. 1968, 1972, 1976 และ 1980ปีและมรดกในภายหลังลีลาออกจากตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือน 1990 พฤศจิกายนแต่ยังคงเหลืออยู่ ผู้นำของ PAP 1992 หลังจาก 14 ปีเก็บ ครอบครัวของลีเอาแทนประมุขของรัฐบาลสิงคโปร์อีกครั้งในฤดูร้อนของปี 2004 เมื่อลูกชายของลีลีเซียนหลุงเอาพลังงานในช่วงต้นปี 2015, Lee ควนโฮบาร์ตได้พักกับโรค โดยช่วงต้นเดือนมีนาคม เขาถูกในการระบายอากาศ อาการสาหัส และเขาเสียชีวิตหลังจาก บน 23 มีนาคม ลีได้ทิ้งมรดก ของประเทศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ เป็นผู้นำที่นำความเจริญรุ่งเรืองได้ยินของก่อนเขาอายุงาน ค่าลักษณะ mildly ประเทศของรัฐบาล โดยไฟต์ สิงคโปร์ ภายใต้คำแนะนำของลี มีรายได้ต่อหัวที่สองเท่ากับญี่ปุ่นในเอเชียตะวันออก และประเทศกลายเป็น เป็นหัวหน้าการเงินศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปีแรกลีกวนยูเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองลีศึกษากฎหมายที่ฟิทซ์วิทยาลัยในเคมบริดจ์, สหราชอาณาจักร ในปี 1950 เขาได้เข้ารับการรักษาแถบภาษาอังกฤษ แต่แทนที่จะฝึกกฎหมายมีลีกลับไปยังประเทศสิงคโปร์จะทำเช่นนั้น. จุดเริ่มต้นทางการเมืองในขณะที่สิงคโปร์เป็นอาณานิคมของอังกฤษและถือฐานทัพเรือหลักของสหราชอาณาจักรในตะวันออกไกล ประเทศถูกปกครองโดยผู้ว่าราชการจังหวัดและสภานิติบัญญัติส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยนักธุรกิจจีนร่ำรวยที่ได้รับการแต่งตั้งมากกว่าการเลือกตั้งจากประชาชน ในช่วงต้นทศวรรษ 1950, สิงคโปร์ buzzed กับการพูดคุยของการปฏิรูปรัฐธรรมนูญและความเป็นอิสระและลีสีที่มีความคิดไม่เหมือนคนอื่นที่จะท้าทายโครงสร้างการปกครองของประเทศ เร็ว ๆ นี้ทำลายจากกลุ่มนี้และสละท่าทางที่รุนแรงมากขึ้นในปี 1954 ลีกลายเป็นเลขาธิการของพรรคของเขาเองคนของพรรคกระทำ. PAP วิวัฒนาการในปี 1955 สิงคโปร์รัฐธรรมนูญใหม่ที่ได้รับการแนะนำให้รู้จัก มันเพิ่มขึ้นจำนวนที่นั่งที่ได้รับการเลือกตั้งในสภาถึง 25 จากทั้งหมด 32 จึงช่วยให้เพียง 7 ที่นั่งจะเต็มไปด้วยการแต่งตั้ง ในการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นตามพรรคที่ก่อตั้งขึ้นโดยลีอดีตเพื่อนร่วมงานด้านหน้าแรงงานได้รับรางวัล 13 ที่นั่งในขณะที่ได้รับรางวัล PAP ลีเพียง 3. แต่พรรคของเขาเป็นตัวแทนในสภาในปี 1956 ลีมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอนเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้แทนที่กำลังมองหา ตัวเองกฎสิงคโปร์ หลังจากการเจรจาล้มเหลวสิงคโปร์ที่มีประสบการณ์ปีของความไม่สงบ แต่ในปี 1957 ลีกลับไปลอนดอนอีกครั้งในขณะที่การเจรจากลับมา. ปีหน้าลีช่วยเจรจาสิ่งที่สถานะของสิงคโปร์จะเป็นรัฐปกครองตนเองและรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ถูกสร้างขึ้น. ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่, การเลือกตั้งระดับชาติที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายนปี 1959 ลีรณรงค์ใน anticolonialist แพลตฟอร์มคอมมิวนิสต์และเรียกร้องให้กวาดปฏิรูปสังคมและสหพันธ์ที่สุดกับประเทศเพื่อนบ้าน. พรรคลีจะชนะขาดลอยการ 43 จาก 51 ที่นั่งในการชุมนุมและสิงคโปร์ได้รับสถานะปกครองตนเอง (ยกเว้นในเรื่องของการป้องกันและต่างประเทศ) ลีสาบานว่าในฐานะนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 1959 กลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ที่เป็นอิสระ. สิงคโปร์อิสรภาพเมื่ออยู่ในสำนักงานลีกวนยูแนะนำแผนห้าปีเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูเมืองและการก่อสร้างที่อยู่อาศัยของประชาชนใหม่มากขึ้น สิทธิสำหรับผู้หญิงการปฏิรูปการศึกษาและอุตสาหกรรม. แผนของเขายังเรียกร้องให้มีการควบรวมกิจการของสิงคโปร์กับมาเลเซียและหลังจากมลายูนายกรัฐมนตรี Tunku Abdul Rahman เสนอการก่อตัวของพันธมิตรที่จะรวมถึงแหลมมลายู, สิงคโปร์, รัฐซาบาห์และซาราวักลีเริ่มแคมเปญ ในความโปรดปรานของความพยายามและเพื่อยุติการปกครองอาณานิคมของอังกฤษที่ดี. เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนของสิงคโปร์กำลังสนับสนุนลีที่ใช้ผลของการลงประชามติที่จัดขึ้นในเดือนกันยายนปี 1962 ที่ร้อยละ 70 ของคะแนนถูกปลดในความโปรดปรานของข้อเสนอ . ดังนั้นในปี 1963 สิงคโปร์เข้าร่วมที่สร้างขึ้นใหม่ของสหพันธ์มาเลเซีย ในการเลือกตั้งที่จัดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน PAP คงควบคุมของรัฐสภาของสิงคโปร์และลีจัดขึ้นบนหลังของเขาเป็นนายกรัฐมนตรี. แยกกับมาเลเซียเติบโตความตึงเครียดระหว่างจีนและมาเลเซียในสภา แต่มีผลในการจราจลในสิงคโปร์ทำเครื่องหมายสะดุดตาด้วย ศาสดามูฮัมหมัดวันเกิดจลาจลหรือการจลาจลจีนมาเลย์ของฤดูร้อนของปี 1964 ปีต่อมามีการปะทะกันทางเชื้อชาติอย่างต่อเนื่องลีบอกเพื่อนร่วมงานของเขาที่มาเลเซียสิงคโปร์ต้องออกจากสหพันธ์. ลีเป็นหลงใหลเกี่ยวกับการทำงานออกประนีประนอม แต่ ความพยายามของเขาพิสูจน์แล้วว่าไร้ผลและเขาลงนามข้อตกลงการแยกที่ 7 สิงหาคม 1965 ความล้มเหลวของการควบรวมกิจการเป็นระเบิดร้ายแรงต่อลีซึ่งเชื่อว่าความสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการอยู่รอดของสิงคโปร์ ในงานแถลงข่าวการถ่ายทอดสดเขาได้ระบายอารมณ์ในขณะที่เขาประกาศแยกอย่างเป็นทางการและเป็นอิสระเต็มที่ของสิงคโปร์: "สำหรับผมมันเป็นช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวด" เขากล่าว "ชีวิตของฉันทั้งหมด ... ผมเชื่อว่าการควบรวมกิจการในมาเลเซียและความสามัคคีของทั้งสองดินแดน. คุณรู้ว่าเราเป็นคนที่มีการเชื่อมต่อโดยภูมิศาสตร์เศรษฐศาสตร์โดยความสัมพันธ์ทางเครือญาติ ... แท้จริงมันยากจนทุกอย่างที่เรายืนอยู่ ... ตอนนี้สิงคโปร์จะเป็นตลอดไปประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นอิสระอธิปไตยก่อตั้งขึ้นบนหลักการของเสรีภาพและความยุติธรรมและไม่เคยมองหาสวัสดิการและความสุขของผู้คนในสังคมมากที่สุดและเท่าเทียมกันเพียงแค่. " กับสหภาพเสียปัญหามาเกินลี ความเศร้าโศกส่วนบุคคล: ขาดของสิงคโปร์ทรัพยากรธรรมชาติและความสามารถในการป้องกัน จำกัด เป็นความท้าทายที่สำคัญ. สิงคโปร์จำเป็นต้องมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเพื่อความอยู่รอดเป็นประเทศอิสระและลีได้อย่างรวดเร็วทันสมัยโปรแกรมที่จะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของสินค้าสำเร็จรูป นอกจากนี้เขายังได้รับการสนับสนุนการลงทุนต่างประเทศและทำให้การเคลื่อนไหวเพื่อให้แน่ใจว่ามาตรฐานที่เพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัยสำหรับคนงาน. เมื่อพรรคฝ่ายค้านตัดสินใจที่จะคว่ำบาตรรัฐสภาจาก 1966 เป็นต้นไป PAP ได้รับรางวัลทุกที่นั่งในรัฐสภาในการเลือกตั้งของปี 1968 ปี 1972 ปี 1976 และ 1980. ต่อมา ปีที่ผ่านมาและมรดกลีลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในพฤศจิกายน 1990 แต่ยังคงเป็นผู้นำของ PAP จนถึงปี 1992 หลังจาก 14 ปีออกไปครอบครัวของลีเกิดขึ้นที่หัวของรัฐบาลสิงคโปร์อีกครั้งในช่วงฤดูร้อนของปี 2004 เมื่อลูกชายของลีลี เซียนลุงเข้ามากุมอำนาจ. ในช่วงต้นปี 2015 ลีกวนยูได้รับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคปอดบวม โดยช่วงต้นเดือนมีนาคมที่เขาอยู่บนเครื่องช่วยหายใจในสภาพที่สำคัญและเขาเสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม. ลีได้ทิ้งมรดกของประเทศทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นผู้นำที่นำความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนที่เขาดำรงตำแหน่งที่ ค่าใช้จ่ายในรูปแบบเผด็จการของรัฐบาลอย่างอ่อนโยน โดยปี 1980 สิงคโปร์ภายใต้การแนะนำของลีผู้มีรายได้ต่อหัวของประชากรเพียงสองของญี่ปุ่นในเอเชียตะวันออกและประเทศได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเงินหัวหน้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ช่วงปีแรก

ลีกวนยูเกิดในครอบครัวร่ำรวย จีนที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองลีเรียนกฎหมายที่วิทยาลัยฟิทซ์ ในเคมบริดจ์ , สหราชอาณาจักร ในปี 1950 เขาก็เข้าบาร์ภาษาอังกฤษ แต่แทนที่จะฝึกกฎหมายมี ลี กลับมาสิงคโปร์แล้ว .



การเมืองเริ่มต้นในเวลาสิงคโปร์เป็นอาณานิคมของอังกฤษและสหราชอาณาจักรเป็นหลักซึ่งฐานทัพเรือในตะวันออกไกล ประเทศที่ถูกปกครองโดยเจ้าเมืองและสภานิติบัญญัติ ส่วนใหญ่ประกอบด้วย เสี่ยนักธุรกิจที่ได้รับการแต่งตั้งมากกว่าการเลือกตั้งโดยประชาชน ในช่วงต้นทศวรรษ 1950 , สิงคโปร์พึมพำกับเรื่องของการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ และความเป็นอิสระและ ลี สีมีอื่น ๆเช่นจิตใจท้าทายโครงสร้างการปกครองของประเทศ แล้วแบ่งจากกลุ่มนี้และการใช้ท่าทางที่รุนแรงมากขึ้นในปี 1954 ลี เป็นเลขาธิการพรรคของเขาเอง พรรคกิจประชาชน .



เรื่องวิวัฒนาการในปี 1955 รัฐธรรมนูญสิงคโปร์ใหม่แนะนำ มันเพิ่มจำนวนที่นั่งในการเลือกตั้งสภา 25 จำนวน 32 ,เพื่ออนุญาตให้เพียง 7 ที่นั่งจะเต็มไปโดยการนัดหมาย ในการเลือกตั้งที่ตามมา พรรคที่ก่อตั้งโดย ลี อดีตเพื่อนร่วมงาน งานหน้า จะ 13 ที่นั่ง ขณะที่ ลี ป้าป ชนะเพียงแค่ 3

แต่กับพรรคของเขาเป็นตัวแทนในสภา ใน 1956 ลีมุ่งหน้าไปลอนดอนเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้แทนการแสวงหาตนเอง กฎสำหรับสิงคโปร์ หลังการเจรจาล้มเหลวสิงคโปร์มีประสบการณ์ปีของสถานการณ์ความไม่สงบ แต่ในปี 1957 , ลีกลับไปลอนดอนอีกครั้งพูดคุยต่อ

ปีหน้า ลีช่วยเจรจาเรื่องสถานภาพของสิงคโปร์จะเป็นรัฐปกครองตนเอง และรัฐธรรมนูญใหม่เกิดขึ้น

ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ การเลือกตั้งแห่งชาติจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนปี รณรงค์หาเสียงใน anticolonialist ลี ,แพลตฟอร์ม anticommunist และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสังคมกวาดและสหพันธ์ในที่สุดกับประเทศเพื่อนบ้าน

ลีของพรรคจะชี้ขาดชัยชนะการ 43 จาก 51 ที่นั่งในสภานิติบัญญัติ และสิงคโปร์ได้รับสถานะปกครองตนเอง ( ยกเว้นในเรื่องของการป้องกันและการต่างประเทศ ) ลี ได้ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 1959 ,กลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ สิงคโปร์ อิสระ อิสระ .



เมื่อในสำนักงาน , Lee Kuan Yew าห้าปีแผนเรียกร้องให้ต่ออายุเมืองและการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ของประชาชน สิทธิมากขึ้นสำหรับผู้หญิง การปฏิรูปการศึกษาและอุตสาหกรรม .

แผนของเขาเรียกว่าการควบรวมของสิงคโปร์กับมาเลเซียและหลังจากภาษามลายูนายกรัฐมนตรี ตนกู อับดุล ราห์มาน เสนอจัดตั้งเป็นสหพันธ์ที่จะรวมถึงแหลมมลายู สิงคโปร์ ซาบาห์และซาราวัก ลี เริ่มแคมเปญในความโปรดปรานของความพยายามเพื่อยุติการปกครองอาณานิคมของอังกฤษดี

เพื่อแสดงให้เห็นว่าประชาชนสิงคโปร์สนับสนุน ลี ใช้ผลของการลงประชามติที่จัดขึ้นใน กันยายน ปี 1962ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนเสียงถูกโยนในความโปรดปรานของข้อเสนอ ดังนั้น ในปี 1963 , สิงคโปร์ ร่วมสร้างใหม่สหพันธ์ของมาเลเซีย ในการเลือกตั้งที่จัดขึ้นหลังจากการตรวจรักษา , การควบคุมของรัฐสภาของสิงคโปร์ และ ลี รั้งตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี

แยกกับมาเลเซีย

เพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและมาเลย์ในสหพันธ์ฯ อย่างไรก็ตามส่งผลให้เกิดการจลาจลในสิงคโปร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำเครื่องหมายโดยศาสดามูฮัมหมัดเกิดจลาจลหรือชิโนมาเลย์ การจลาจล ของฤดูร้อน 1964 . ปีต่อมากับเชื้อชาติปะทะกันต่อเนื่อง ลีได้บอกเพื่อนร่วมงานของเขาที่มาเลเซียสิงคโปร์ต้องออกจากสหพันธ์

ลีเป็นหลงใหลเกี่ยวกับการทำงานออก การประนีประนอม แต่ความพยายามของเขาพิสูจน์แล้วว่าไร้ผล และเขาได้ลงนามในข้อตกลงการแยก ในวันที่ 7 ส.ค.1965 ความล้มเหลวของการควบรวมกิจการเป็นระเบิดร้ายแรง ลี ที่เชื่อว่า ความสามัคคีเป็นสำคัญสำหรับการอยู่รอดของสิงคโปร์ ในการถ่ายทอดสดการแถลงข่าว เขาล้าตามที่เขาประกาศแยกอย่างเป็นทางการ และเต็มไปด้วยความเป็นอิสระของสิงคโปร์ :

" สำหรับผม มันคือช่วงเวลาของความเจ็บปวด , " เขากล่าว . " ทั้งหมดชีวิตของฉัน . . . . . . . ฉันเชื่อในการควบรวมกิจการของมาเลเซียและเอกภาพของทั้งสองดินแดนคุณก็รู้ว่าเราเป็นคน เชื่อมต่อด้วย ภูมิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ โดยความสัมพันธ์ของเครือญาติ . . . . . . . ที่จริงมันทำลายทุกอย่างที่เรายืนอยู่ . . . . . . . ตอนนี้สิงคโปร์จะเป็นประเทศอธิปไตยตลอดประชาธิปไตยและอิสระ ก่อตั้งขึ้นบนหลักการของเสรีภาพและความยุติธรรม และเคยหาสวัสดิภาพและความสุขของประชาชนในสังคมส่วนใหญ่ก็เท่ากับ "

กับสหภาพแตกมาปัญหานอกเหนือจากความเศร้าโศกส่วนตัวของลี : สิงคโปร์ไม่มีทรัพยากรและความสามารถ จำกัด การป้องกันคือความท้าทายหลัก

สิงคโปร์เป็นเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะอยู่รอดเป็นอิสระ ประเทศ และ ลี ได้อย่างรวดเร็ว ทันสมัย โปรแกรมจะแปลงเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของสินค้าสําเร็จรูปนอกจากนี้เขายังสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศ และทำให้การย้ายเพื่อให้แน่ใจว่าการเพิ่มขึ้นมาตรฐานการครองชีพของแรงงาน

เมื่อพรรคฝ่ายค้านตัดสินใจที่จะคว่ำบาตรรัฐสภาในปี 1966 เป็นต้นไป อาหารเหลวจะทุกที่นั่งในรัฐสภาในการเลือกตั้งค.ศ. 1972 , 1976 และ 1980

ปีต่อมาและมรดก

ลี ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ในเดือนพฤศจิกายนปี 1990 แต่ยังคงเป็นผู้นำของ PAP จนกระทั่ง 1992หลังจาก 14 ปี ครอบครัวของลีเอาสถานที่ที่หัวของรัฐบาลสิงคโปร์อีกครั้งในช่วงฤดูร้อนของปี 2004 เมื่อ ลี ลูกชายของ ลี เซียน ลุง เอาพลัง

ในปี 2015 , Lee Kuan Yew เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการปอดบวม . โดยช่วงต้นเดือนมีนาคม เขาใช้เครื่องช่วยหายใจ ในภาวะวิกฤต และเขาก็เสียชีวิต หลังจากนั้นไม่นาน ในวันที่ 23 มีนาคม

ลีได้ทิ้งไว้เป็นมรดกของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้เป็นผู้ที่นำความเจริญ ไม่เคยได้ยินมาก่อนการครอบครองของเขาที่ค่าใช้จ่ายของแบบละเมียดละไม เผด็จการของรัฐบาล โดยปี 1980 , สิงคโปร์ , ภายใต้คำแนะนำของลี มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวเพียงรองของญี่ปุ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศได้กลายเป็นศูนย์กลางการเงินหัวหน้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้