VIENTIANE, 7 September 2011 (IRIN)

VIENTIANE, 7 September 2011 (IRIN) - Heavy flooding during the northern summer, affecting 10 of the country's 17 provinces, has underlined the need for stronger disaster-management efforts, say experts.

Tropical storm Haima struck central and northern Laos on 24 June, with Nock-Ten hitting central and southern areas on 30 and 31 July.

More than 300,000 people were affected and 26 died in the two storms, which resulted in more than US$100 million in damages, the government's National Disaster Management Office (NDMO) reported.

More than 37,000 hectares of rice fields were damaged at a time when farmers were planting for the new season. This will affect harvests this year, with aid workers warning of long-term food distribution needs.

"When the emergency struck, they [local communities] quickly mobilized, organized themselves and divided the roles and responsibilities to respond. However, this could have been much better had they been better prepared and planned beforehand," Ghulam Sherani, a programme specialist in disaster risk management for the UN Development Programme (UNDP), told IRIN.

Sherani believes that lives, livestock and food stocks could have been saved had an improved early warning system been in place, noting that unlike earthquakes, where and when cyclones and typhoons strike is predictable.

"If we can translate that information to an understandable language for local communities then this will make a big difference," he said.

"We must strengthen the institutions related to disaster management and make sure that early warning is a priority and reaches the communities," Thanongdeth Insisiengmay, senior project manager for the Asian Disaster Preparedness Center (ADPC), added.

Disaster management plan

Efforts to do just that are under way, with the country's first national disaster management plan for 2012-2015 being drafted by the NDMO, with financial and technical support from UNDP and the World Bank.

The NDMO was established in 1999 to work on disaster preparedness, mitigation and response. It functions as the secretariat for the National Disaster Management Committee (NDMC), an inter-ministerial body responsible for formulating policy and coordination.

"We need to build the NDMO as an institution and the new disaster plan will help to formalize disaster preparedness planning as a cross-sector approach that includes all government ministries," Vilayphong Sisomvang, NDMO's deputy director, said.
Moreover, an empowered NDMO would be able to advise and influence different sectors to be better prepared, Sherani added. "For example, they can improve their work with the Department of Meteorology and Hydrology. The department is studying the weather but is not mandated to [disseminate] that information to communities."

According to Insisiengmay, this is the gap that needs to be plugged. "If the typhoon starts in the Philippines, for example, then people need to be prepared that in three or four days it could come to Laos," he explained.

Emma Aguinot, programme director for emergencies at Save the Children, believes the government, by its own admittance, has concentrated too much on response and is now seeing the importance of disaster preparedness and risk-reduction activities. "If you do this now it will reduce your costs by 100 or 80 percent in disaster response. The investment in contingency planning and in disaster risk reduction education is crucial," she said.

Sherani believes the new plan is an important development but that long-term behaviour change is also needed, "When you say disaster preparedness you are basically working with people to change their behaviour, whether it is a policy-maker or community person, so it takes time."

The ADPC is working with the NDMO and provincial authorities to build their understanding and knowledge to improve disaster preparedness. But Insisiengmay also believes that attitudes in terms of building a culture of safety will go a long way in furthering these efforts. "Sometimes you don't need to be really hi-tech or look for help from outside. They have to see how they can help themselves."

Laos is a signatory to the Hyogo Framework for Action, a 10-year plan running from 2005 to 2015 to make the world safer from natural hazards.

The UN predicts that the intensity and frequency of natural disasters in Lao PDR are likely to increase due to climate variation and change. Laos is prone to annual flooding during the May to October rainy season but the severity of such events has increased.

According to government statistics, this was the first time since 1962 that the northern province of Xieng Khouang flooded. In 2008, the Mekong River overflowed, severely affecting the capital, Vientiane, and the northern and central regions. The following year Typhoon Ketsana hit southern Laos on 29 September, killing 28 and affecting close to 200,000.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เวียงจันทน์, 7 กันยายน 2011 (Irin) - น้ำท่วมหนักในช่วงฤดู​​ร้อนทางภาคเหนือส่งผลกระทบต่อ 10 ของประเทศ 17 จังหวัดมีขีดเส้นใต้ความจำเป็นในการที่แข็งแกร่งความพยายามของการจัดการภัยพิบัติที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า

พายุเขตร้อน Haima หลงกลางและภาคเหนือลาวเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนกับ Nock-สิบตีที่บริเวณตอนกลางและภาคใต้เมื่อวันที่ 30 และ 31 กรกฎาคม

กว่า 300,000 คนได้รับผลกระทบและ 26 เสียชีวิตในพายุสองซึ่งจะมีผลในกว่าเรา $ 100,000,000 ในความเสียหายที่เกิดภัยพิบัติสำนักงานของรัฐบาลแห่งชาติการจัดการ (ndmo) รายงาน

กว่า 37,000 เฮคเตอร์ของนาข้าวได้รับความเสียหายในช่วงเวลาที่ชาวนาปลูกสำหรับฤดูกาลใหม่ นี้จะมีผลต่อการเก็บเกี่ยวในปีนี้ด้วยความช่วยเหลือคนงานเตือนในระยะยาวความต้องการแจกจ่ายอาหาร

"เมื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นพวกเขา [ชุมชนท้องถิ่น] กองกำลังได้อย่างรวดเร็วจัดระเบียบตัวเองและแบ่งบทบาทและความรับผิดชอบที่จะตอบสนอง. แต่นี้จะได้รับที่ดีมากที่พวกเขาได้รับการเตรียมที่ดีและวางแผนล่วงหน้า" กูห์ sherani ผู้เชี่ยวชาญโปรแกรมใน การบริหารความเสี่ยงเกิดภัยพิบัติสำหรับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) บอก Irin

sherani เชื่อว่าชีวิต,หุ้นปศุสัตว์และอาหารจะได้รับการบันทึกไว้มีระบบเตือนภัยที่ดีขึ้นในช่วงต้นรับในสถานที่สังเกตว่าแตกต่างจากการเกิดแผ่นดินไหวที่ไ​​หนและเมื่อพายุไต้ฝุ่นและการนัดหยุดงานเป็นที่คาดการณ์ได้

"ถ้าเราสามารถแปลข้อมูลที่จะเป็นภาษาที่เข้าใจสำหรับชุมชนท้องถิ่นแล้วนี้จะสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่" เขากล่าวว่า

"เราจะต้องสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันที่เกี่ยวข้องกับการจัดการภัยพิบัติและให้แน่ใจว่าการเตือนภัยเป็นลำดับความสำคัญและถึงชุมชน" thanongdeth insisiengmay ผู้จัดการโครงการอาวุโสสำหรับการเตรียมความพร้อมภัยพิบัติแห่งเอเชียศูนย์ (adpc) เพิ่ม

แผนการจัดการภัยพิบัติ

ความพยายามที่จะทำเพียงแค่ที่อยู่ภายใต้วิธีกับครั้งแรกของประเทศแผนจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ 2012-2015 ถูกเกณฑ์ทหารโดย ndmo ด้วยการสนับสนุนทางการเงินและทางเทคนิคจาก UNDP และธนาคารโลก

ndmo ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ที่จะทำงานในการเตรียมความพร้อมภัยพิบัติการบรรเทาและการตอบสนอง มันทำหน้าที่เป็นสำนักเลขาธิการสำหรับการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของคณะกรรมการ (ndmc)ร่างกายระหว่างกระทรวงที่รับผิดชอบในการกำหนดนโยบายและการประสานงาน

"เราต้องสร้าง ndmo ฐานะที่เป็นสถาบันและมีแผนภัยพิบัติใหม่จะช่วยให้เป็นระเบียบแบบแผนในการวางแผนเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติเป็นวิธีการข้ามภาคที่มีรัฐมนตรีของรัฐบาลทั้งหมด" vilayphong sisomvang รองผู้อำนวยการ ndmo กล่าวว่า
ยิ่งไปกว่านั้นndmo ขีดความสามารถที่จะสามารถให้คำแนะนำและมีอิทธิพลต่อภาคธุรกิจต่างๆจะต้องเตรียมความพร้อมที่ดีกว่า sherani เพิ่ม "ตัวอย่างเช่นที่พวกเขาสามารถปรับปรุงการทำงานของพวกเขาด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยา. แผนกกำลังศึกษาสภาพอากาศ แต่ยังไม่ได้รับคำสั่งให้ [เผยแพร่] ว่าข้อมูลที่ให้กับชุมชน."

ตาม insisiengmay นี้เป็นช่องว่างที่ต้องเสียบปลั๊ก"ถ้าพายุไต้ฝุ่นจะเริ่มในฟิลิปปินส์เช่นนั้นคนจะต้องเตรียมว่าในสามหรือสี่วันมันอาจจะมาถึงลาว" เขาอธิบาย

emma aguinot, ผู้อำนวยการโครงการสำหรับกรณีฉุกเฉินที่บันทึกเด็กเชื่อว่ารัฐบาลโดยการรับเข้าของตัวเองมีความเข้มข้นมากเกินไปในการตอบสนองและตอนนี้เห็นความสำคัญของการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติและกิจกรรมการลดความเสี่ยง "ถ้าคุณทำเช่นนี้ตอนนี้มันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณโดย 100 หรือร้อยละ 80 ในการตอบสนองภัยพิบัติ. การลงทุนในการวางแผนฉุกเฉินและภัยพิบัติในการศึกษาการลดความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ" เธอกล่าว

sherani เชื่อว่าแผนใหม่เป็นการพัฒนาที่สำคัญ แต่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาวยังเป็นสิ่งจำเป็น "เมื่อคุณพูดว่าการเตรียมความพร้อมภัยพิบัติคุณมีพื้นการทำงานร่วมกับคนที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นนโยบายการผลิตหรือชุมชนคนจึง ต้องใช้เวลา. "

adpc จะทำงานร่วมกับ ndmo และเจ้าหน้าที่จังหวัดเพื่อสร้างความเข้าใจและความรู้ของพวกเขาในการปรับปรุงการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ แต่ insisiengmay ยังเชื่อว่าทัศนคติในแง่ของการสร้างวัฒนธรรมของความปลอดภัยจะไปทางยาวในการช่วยส่งเสริมความพยายามเหล่านี้ "บางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องเป็นจริงๆไฮเทคหรือดูเพื่อขอความช่วยเหลือจากภายนอก. พวกเขาจะต้องดูว่าพวกเขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้"

ลาวลงนามกรอบ hyogo สำหรับการดำเนินการตามแผน 10 ปีทำงาน 2005-2015 ที่จะทำให้โลกปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ.

ยกเลิกการคาดการณ์ว่าความเข้มและความถี่ของภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศลาวเป็น มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงลาวมีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วมประจำปีในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมฤดูฝน แต่ความรุนแรงของเหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น

ตามสถิติของรัฐบาลครั้งนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 1962 ที่จังหวัดทางภาคเหนือของ Xieng Khouang น้ำท่วม ในปี 2008 แม่น้ำโขงล้นอย่างรุนแรงส่งผลกระทบต่อเมืองหลวงเวียงจันทน์และภูมิภาคเหนือและภาคกลางในปีต่อไปไต้ฝุ่นเกดสะนาตีลาวใต้เมื่อ 29 กันยายนฆ่า 28 และมีผลกระทบต่อใกล้กับ 200,000

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เวียงจันทน์ 7 2554 กันยายน IRIN) - หนักน้ำท่วมในช่วงฤดูร้อนภาคเหนือ กระทบ 10 จังหวัดที่ 17 ของประเทศ ได้ขีดเส้นใต้ต้องพยายามบริหารจัดการภัยพิบัติที่แข็งแกร่ง พูดผู้เชี่ยวชาญ

พายุ Haima หลงลาวภาคกลาง และภาคเหนือที่ 24 มิถุนายน กับหมุนนกเตนตีภาคกลาง และภาคใต้พื้นที่บน 30 และ 31 กรกฎาคม

กว่า 300000 คนได้รับผลกระทบ และ 26 ที่เสียชีวิตในพายุ 2 ซึ่งมีผลในกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐในความเสียหาย โรงจัดการของรัฐบาลแห่งชาติภัย Office (NDMO) รายงาน

กว่า 37,000 เฮคเตอร์ของข้าวเสียหายทีเมื่อเกษตรกรได้ปลูกสำหรับฤดูกาลใหม่ นี้จะกระทบ harvests ปีนี้ ด้วยความช่วยเหลือแรงงานคำเตือนต้องแจกจ่ายอาหารระยะยาว

"เมื่อฉุกเฉินที่หลง พวกเขา [ชุมชน] อย่างรวดเร็วปฏิบัติ จัดเอง และแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบตอบสนอง อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ได้ดีจะรับดีเตรียม และวางแผนล่วงหน้า กูห์ Sherani หลักสูตรผู้เชี่ยวชาญในการจัดการความเสี่ยงภัยสำหรับ UN พัฒนาโครงการ (UNDP), IRIN บอกได้

Sherani เชื่อที่อยู่ หุ้นปศุสัตว์และอาหารสามารถถูกบันทึกระบบเตือนภัยล่วงหน้าการปรับปรุงได้ในสถานที่ สังเกตที่แตกต่างจากแผ่นดินไหว เมื่อไซโคลนและไต้ฝุ่นตีจะสามารถทายได้

"หาก เราสามารถแปลข้อมูลภาษาความเข้าใจในชุมชน แล้วจะทำให้ใหญ่ เขากล่าวว่า

"เราต้องการเสริมสร้างสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการจัดการภัยพิบัติ และให้แน่ ใจว่า คำเตือนก่อนเป็นสำคัญถึงชุมชน Thanongdeth Insisiengmay ผู้จัดการโครงการอาวุโสสำหรับในเอเชียภัยเตรียมความพร้อมศูนย์ (ADPC), เพิ่ม

แผนจัดการภัยพิบัติ

เพียงที่จะเดินทาง กับประเทศแรกภัยพิบัติแห่งชาติจัดการวางแผนสำหรับ 2012-2015 ที่ร่าง โดย NDMO ด้วยการสนับสนุนทางการเงิน และทางเทคนิคจากธนาคารโลกและ UNDP

NDMO ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ทำภัยพิบัติ บรรเทาสาธารณภัย และตอบสนอง ฟังก์ชันเป็นเลขานุการที่สำหรับชาติภัยจัดการกรรมการ (NDMC), มีรัฐมนตรีต่างประเทศระหว่างตัวรับผิดชอบสำหรับ formulating นโยบายและประสานงาน

"เราจำเป็นต้องสร้าง NDMO เป็นถาวรวัตถุและแผนภัยพิบัติใหม่จะช่วยให้ formalize ภัยพิบัติเป็นวิธีข้ามภาคที่ทบวงกรมของรัฐบาลทั้งหมดรวมถึงการวางแผน Vilayphong Sisomvang, NDMO เป็นรองผู้กำกับ กล่าว
นอกจากนี้ NDMO การ empowered จะสามารถให้คำแนะนำ และมีอิทธิพลต่อภาคต่าง ๆ จะจัดเตรียมดี Sherani เพิ่ม "ตัวอย่าง พวกเขาสามารถปรับปรุงงานของกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยา แผนกการศึกษาสภาพอากาศ แต่ไม่ต้องบังคับฟุ้ง [] ที่ให้ชุมชน "

ตาม Insisiengmay นี้เป็นช่องว่างที่ต้องต่อกัน "ถ้าลมเริ่มต้นในประเทศฟิลิปปินส์ ตัวอย่าง แล้วคนต้องเตรียมที่สาม หรือสี่วันอาจมาลาว เขาอธิบาย

Emma Aguinot กรรมการโครงการสำหรับกรณีฉุกเฉินที่บันทึกเด็กเดอะ เชื่อรัฐบาล โดย admittance ของตัวเอง ได้เข้มข้นมากเกินไปในการตอบสนอง และตอนนี้จะเห็นความสำคัญของกิจกรรมเตรียมความพร้อมและลดความเสี่ยงภัย "ถ้าคุณทำ ตอนนี้จะลดต้นทุน โดย 100 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ตอบสนองต่อภัยพิบัติ การลงทุน ในการวางแผนฉุกเฉิน และ ในการศึกษาการลดความเสี่ยงภัยเป็นสำคัญ เธอกล่าว

Sherani เชื่อแผนใหม่เป็นการพัฒนาที่สำคัญแต่ว่าเปลี่ยนพฤติกรรมระยะยาวยังจำ "เมื่อคุณพูดคุณพื้นกำลังคนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น policy-maker หรือชุมชนคน ดังนั้นใช้เวลาเตรียมความพร้อมภัยพิบัติ"

ADPC จะทำงานกับ NDMO และหน่วยงานจังหวัดเพื่อสร้างความเข้าใจและความรู้เพื่อปรับปรุงการเตรียมความพร้อมภัยพิบัติ แต่ Insisiengmay ยังเชื่อว่า ทัศนคติในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยจะไปแบบใน furthering ความพยายามเหล่านี้ "บางครั้งคุณไม่จำเป็นจริง ๆ hi-tech หรือค้นหาความช่วยเหลือจากภายนอก พวกเขาจะต้องดูว่าพวกเขาสามารถช่วยตัวเอง"

ลาวเป็นผู้ลงนามถึงเฮียวโกกรอบงานสำหรับการดำเนินการ แผน 10 ปีทำตั้งแต่ปี 2548 ถึงปีพ.ศ. 2558 จะทำให้โลกปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ

สหประชาชาติทำนายว่า ความเข้มและความถี่ของภัยพิบัติทางธรรมชาติในลาวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลง ลาวมีแนวโน้มที่จะน้ำท่วมประจำปีระหว่างพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมฤดูฝน แต่ความรุนแรงของเหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น

ตามสถิติของรัฐบาล นี้เป็นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 2505 ที่จังหวัดภาคเหนือของเชียงขวางน้ำท่วม ใน 2008 โขง overflowed อย่างรุนแรงส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง เวียงจันทน์ และภาคเหนือ และ ภาคกลาง ปีต่อ Ketsana ลมตีลาวใต้บน 29 กันยายน ฆ่า 28 และมีผลต่อใกล้ 200000

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

7 กันยายน 2011 ประชาชนลาวเวียงจันทน์( irin ) - น้ำท่วมหนักในระหว่างช่วงฤดูร้อนทางตอนเหนือที่มีผลกระทบต่อ 10 ของประเทศที่ 17 จังหวัดยังเน้นถึงความจำเป็นสำหรับความพยายามความเสียหาย - การจัดการมากว่าผู้เชี่ยวชาญ haima

พายุโซนร้อนตีประเทศลาวตอนกลางและตอนเหนือเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนนี้พร้อมด้วย nock-ten ตีพื้นที่ ภาค กลางและ ภาค ใต้ในวันที่ 30 และวันที่ 31 กรกฎาคม

มากกว่า 300000 คนได้รับผลกระทบและ 26 เสียชีวิตในสองเกิดพายุฝนฟ้าคะนองส่งผลให้ในมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในความเสียหายจาก ภัยพิบัติ แห่งชาติสำนักงานบริหารของรัฐบาล( ndmo )รายงาน

มากกว่า 37,000 เฮกเตอร์ของนาข้าวได้รับความเสียหายในช่วงเวลาหนึ่งเมื่อเกษตรกรได้ปลูกในฤดูกาลใหม่ โรงแรมแห่งนี้จะมีผลกระทบต่อผลผลิตในปีนี้พร้อมด้วยคนงานความช่วยเหลือคำเตือนของความต้องการการกระจายอาหารระยะยาว

"เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นที่ชุมชนในท้องถิ่น[]ได้อย่างรวดเร็วเคลื่อนที่ได้จัดกันเองและแบ่งออกเป็นบทบาทและความรับผิดชอบที่จะต้องตอบ แต่ถึงอย่างไรก็ตามโรงแรมแห่งนี้สามารถได้รับการดีขึ้นมากเขาก็รับได้ดียิ่งขึ้นและได้เตรียมการวางแผนล่วงหน้า" ghulam sherani ผู้เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมที่อยู่ในโปรแกรมการจัดการความเสี่ยงต่อความเสียหายของสหประชาชาติการพัฒนา( UNDP )บอก irin

sherani เชื่อว่าชีวิตความเป็นอยู่สต็อกสินค้าอาหารปศุสัตว์และไม่ได้รับการบันทึกไว้ได้ระบบการแจ้งเตือนช่วงต้นที่ได้รับการจดจำในสถานที่ที่ไม่เหมือนกับแผ่นดินไหวที่และเมื่อเกิดเข้าใจและเกิดพายุหมุนไซโคลนจะสามารถคาดการณ์ได้

"ถ้าหากเราสามารถแปลข้อมูลที่เป็น ภาษา ที่เข้าใจได้สำหรับชุมชนในท้องถิ่นจากนั้นนี้จะทำให้เกิดความแตกต่างขนาดใหญ่ที่"เขากล่าว

"เราจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ ภัยพิบัติ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเตือน ภัย ที่มีลำดับความสำคัญและมาถึงชุมชนที่" thanongdeth insisiengmay อาวุโสผู้จัดการโครงการสำหรับการเตรียมความพร้อมศูนย์ ภัยพิบัติ แห่งเอเชีย( adpc )ที่เพิ่ม การจัดการ ภัยพิบัติ

แผน

ความพยายามที่จะทำให้เป็นไปตามทางพร้อมด้วยการวางแผนการจัดการ ภัยพิบัติ แห่งชาติเป็นครั้งแรกของประเทศใน 2012-2015 การร่างโดย ndmo ที่พร้อมด้วยการสนับสนุนทางการเงินและบริการด้านเทคนิคจาก UNDP และโลกธนาคารได้

ndmo ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1999 เพื่อการทำงานในการตอบสนองและการลดระดับความรุนแรงการเตรียมความพร้อมรับมือ ภัยพิบัติ มันทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการที่เกิด ภัยพิบัติ แห่งชาติคณะกรรมการบริหาร( ndmc )ศพระหว่างกฎกระทรวงที่รับผิดชอบในกลยุทธ์นโยบายและทำงานประสานกัน

"เราต้องการที่จะสร้าง ndmo ที่เป็นสถาบันที่เกิด ภัยพิบัติ และแผนใหม่จะช่วยให้การวางแผนการเตรียมความพร้อมในการให้ความเสียหายเป็นวิธีการแบบ ภาค เอกชนที่ประกอบด้วยกระทรวงต่างๆของรัฐบาลทั้งหมด" vilayphong sisomvang รองผู้อำนวยการของ ndmo กล่าว
ยิ่งไปกว่านั้นndmo อำนาจที่จะสามารถขอแนะนำให้และมีอิทธิพลต่อทุก ภาค ส่วนจะได้ดีขึ้นเตรียม sherani เพิ่ม "ยกตัวอย่างเช่นพวกเขาจะสามารถปรับปรุงการทำงานของตนกับกรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์ ที่ได้รับการศึกษา สภาพ อากาศแต่ไม่ได้อยู่ในอาณัติไปที่[]ที่เผยแพร่ข้อมูลให้กับชุมชน"

ตาม insisiengmay นี้คือช่องว่างที่ต้องได้รับการเสียบเชื่อมต่อ"หากเกิดพายุไต้ฝุ่นจะเริ่มในประเทศฟิลิปปินส์ได้ตัวอย่างเช่นนั้นประชาชนจะต้องมีการเตรียมตัวที่สามหรือสี่วันนี้ไม่สามารถเข้ามาในประเทศลาวเขาอธิบาย aguinot

Emma และ White ผู้อำนวยการโครงการสำหรับ ภาวะ ฉุกเฉินในการบันทึกคนที่เชื่อว่ารัฐบาลโดยสถานแรกรับของตัวเองมีกระจุกตัวมากเกินไปในการตอบสนองและกำลังจะได้เห็นความสำคัญของกิจกรรมความเสี่ยง - ลดการเกิด ภัยพิบัติ และการเตรียมความพร้อมในขณะนี้ "หากคุณดำเนินการนี้ตอนนี้มันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณโดยร้อยละ 80 หรือ 100 ในการแก้ไขปัญหา ภัยพิบัติ การลงทุนในการวางแผนฉุกเฉินและในการศึกษาการลดความเสี่ยงความเสียหายเป็นเรื่องสำคัญ"เธอกล่าวว่า"

sherani เชื่อว่าแผนการใหม่ที่เป็นการพัฒนาที่สำคัญแต่ที่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการระยะยาวมีความจำเป็นนอกจากนั้นยัง"เมื่อคุณบอกว่าการเตรียมความพร้อมรับมือ ภัยพิบัติ คุณมีการทำงานร่วมกับคนในการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนไม่ว่าจะเป็นผู้กำหนดนโยบาย - เครื่องชงหรือชุมชนที่โดยพื้นฐานแล้วดังนั้นจึงต้องใช้เวลา"

adpc ที่มีการทำงานร่วมกับ ndmo และเจ้าหน้าที่ของจังหวัดเพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจของพวกเขาในการปรับปรุงการเตรียมความพร้อมรับมือ ภัยพิบัติ แต่ insisiengmay ยังเชื่อว่าทัศนคติในด้านของอาคารทางวัฒนธรรมของความ ปลอดภัย จะได้เดินทางไปตามทางยาวในสานความพยายามเหล่านี้ "บางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องได้รับอย่างแท้จริง Hi - tech หรือดูเพื่อขอความช่วยเหลือจากทางด้านนอก พวกเขาต้องดูว่าพวกเขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้"

ลาวเป็นผู้ลงนามในการ hyogo กรอบสำหรับการดำเนินการแผน 10 ปีที่ใช้จาก 2005 ถึง 2015 เพื่อทำให้โลกของเรามีความ ปลอดภัย มากขึ้นจากอุปสรรคทางธรรมชาติ

ของสหประชาชาติที่คาดว่าความถี่และความเข้มของแสงที่เกิด ภัยพิบัติ ทางธรรมชาติในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง สภาพ ภูมิอากาศ และการเปลี่ยนลาวจะมีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วมประจำปีในช่วงเดือน พฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคมที่ฤดูฝนแต่ระดับความรุนแรงของเหตุการณ์ดังกล่าวมีเพิ่มขึ้น

จากสถิติของรัฐบาลนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1962 ที่จังหวัดทางตอนเหนือของ xieng khouang น้ำท่วม ในปี 2008 กลุ่มอนุ ภูมิภาค ลุ่มแม่น้ำโขงแม่น้ำที่ไหลล้นอย่างรุนแรงส่งผลกระทบต่อเงินทุนที่กรุงเวียงจันทน์และเขตพื้นที่ทางด้านทิศเหนือและส่วนกลางปีต่อไปนี้:พายุไต้ฝุ่น ketsana ส่งผลกระทบต่อประเทศลาวตอนใต้ในวันที่ 29 กันยายนฆ่า 28 และส่งผลกระทบต่ออยู่ใกล้กับ 200 , 000