I. INTRODUCTIONNTENSIVE fish farmin

I. INTRODUCTION
NTENSIVE fish farming by its nature grows many fish in a
confined area which produces considerable amounts of
nutrient waste in dissolved form – i.e. ammonia and urea –
and in particulate form – i.e. uneaten food and faces [1]. These
wastes are usually discharged to the surrounding environment
which acts as an effective agent of dilution and dispersion.
However, each form of waste can have an impact on the
environment, in the form of nutrient enrichment effects or
direct and indirect toxicity effects at a lethal and sublethal
level, which may alter the nature or ecology of the local
system [2]. The reared fish also has demand for the oxygen
and can lead to low oxygen content in the rearing location [3].
In good water conditions, high content of nutrients, especially
phosphorus and nitrogen compounds, will stimulate primary
production and can lead to phytoplankton blooming especially
during the summer, when the temperature rises [4]. The
degradation of excessive phytoplankton biomass can lead to
further oxygen content reduction and nutrients content
increase in water. These environmental impacts must be
maintained at a minimum and within acceptable limits. The
basics tool is data generation process from which decisions on
the environmental management may be reached, i.e.
monitoring. Monitoring may look at many topics and levels
including the scale of impacts, general ecological change, and

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

I. บทนำ
NTENSIVE
การเลี้ยงปลาโดยธรรมชาติของมันเติบโตปลาจำนวนมากในพื้นที่ที่ถูกคุมขังซึ่งเป็นผู้ผลิตจำนวนมากของเสียสารอาหารในรูปแบบที่ละลาย
- คือแอมโมเนียและยูเรีย -
และในรูปแบบอนุภาค - อาหารเช่นกะหรี่และใบหน้า [1] เหล่านี้เสียจะถูกปล่อยออกมักจะเป็นสภาพแวดล้อมที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนที่มีประสิทธิภาพของการลดสัดส่วนและการกระจาย. อย่างไรก็ตามรูปแบบของขยะแต่ละคนสามารถมีผลกระทบต่อการที่สภาพแวดล้อมในรูปแบบของผลกระทบการเพิ่มคุณค่าสารอาหารหรือโดยตรงและผลกระทบที่เป็นพิษทางอ้อมที่ตายและ sublethal ระดับซึ่งอาจปรับเปลี่ยนธรรมชาติหรือระบบนิเวศของท้องถิ่นระบบ [2] ปลาที่เลี้ยงนอกจากนี้ยังมีความต้องการใช้ออกซิเจนและสามารถนำไปสู่ปริมาณออกซิเจนต่ำในสถานที่เลี้ยง [3]. ในสภาพน้ำที่ดีเนื้อหาที่สูงของสารอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอสฟอรัสและสารประกอบไนโตรเจนจะช่วยกระตุ้นหลักในการผลิตและสามารถนำไปสู่บานแพลงก์ตอนพืชโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อนเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น [4] การย่อยสลายของแพลงก์ตอนพืชชีวมวลที่มากเกินไปจะนำไปสู่การลดลงของปริมาณออกซิเจนและสารอาหารเพิ่มเติมเนื้อหาเพิ่มขึ้นในน้ำ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะต้องได้รับการเก็บรักษาไว้ที่ต่ำสุดและอยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ เครื่องมือพื้นฐานเป็นกระบวนการสร้างข้อมูลจากการตัดสินใจในการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจจะถึงคือการตรวจสอบ การตรวจสอบอาจจะดูที่หัวข้อต่างๆและระดับรวมถึงระดับของผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศทั่วไปและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผมแนะนำ
ntensive การเลี้ยงปลาโดยธรรมชาติของมันเติบโตปลาจำนวนมากในพื้นที่ที่ผลิตจํานวนมากคับ

ละลายธาตุอาหารในรูปของของเสีย ( เช่นแอมโมเนียและยูเรีย ) และรูปแบบการดำเนินการในอนุภาค
ของกินเหลือสักนิดและใบหน้า [ 1 ] ของเสียเหล่านี้มักจะถูกส่งไป

ซึ่งสภาพแวดล้อมโดยรอบทำหน้าที่เป็นตัวแทนที่มีประสิทธิภาพและการกระจาย .
อย่างไรก็ตามแต่ละรูปแบบของของเสียที่สามารถมีผลกระทบต่อ
สภาพแวดล้อมในรูปแบบของการเสริมสารอาหารหรือ
ผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม พิษที่ร้ายแรงและระดับการ
ซึ่งอาจดัดแปลงธรรมชาติหรือระบบนิเวศท้องถิ่น
ระบบ [ 2 ] ที่เลี้ยงปลามีความต้องการออกซิเจน
และสามารถนำไปสู่ปริมาณออกซิเจนต่ำในการเลี้ยงดูตำแหน่ง [ 3 ] .
ในสภาพน้ำที่ดีเนื้อหาสูงของสารอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ฟอสฟอรัสและไนโตรเจน จะกระตุ้นการผลิตหลักและสามารถนําบาน

ตอนโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น [ 4 ]
การสลายตัวของแพลงก์ตอนพืชชีวมวลมากเกินไปสามารถนำไปสู่การเพิ่มปริมาณออกซิเจนและรัง

เพิ่มปริมาณน้ำ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ต้อง
การรักษาที่น้อยที่สุด และในระดับที่ยอมรับได้หรือไม่
เป็นเครื่องมือสร้างข้อมูลพื้นฐานกระบวนการ ซึ่งการตัดสินใจในการจัดการสิ่งแวดล้อมอาจจะถึง

) ติดตามผลการตรวจสอบ การตรวจสอบอาจจะมองหลายหัวข้อและระดับ
รวมทั้งขนาดของผลกระทบ การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศทั่วไป และ