In our daily life, everyone will su

In our daily life, everyone will surely have a simple accident such as the cut finger etc., which could cause bacteria to enter our body through a wound. And those germs could kill us. To eliminate those bacteria, we need to take antibiotics.
Antibiotics are medicines that fight and against infections caused by bacteria in our bodies. Antibiotics were first discovered by Alexander Fleming in 1982, called Penicillin. And the last new class of antibiotics discovered in the early 1980s. Currently, most people are misusing antibiotics to treat infections caused by viruses such as a cold, cough, or the flu. In addition, many people do not know that the disease is caused by bacteria or a virus. As a result of the misuse antibiotics, the bacteria become resistant to antibiotics.
Antibiotic resistance has been called one of the world's most pressing public health problems. If we get an antibiotic-resistant infection, we may have many effects. For example, we may not be able to resist the disease with our own immune system, we may have a longer-lasting illness, we may have to visit our doctor more, we may require hospitalization, and we may need more costly medicine that may cause side effects.
However, we can prevent antibiotic-resistant infections by various ways as follows. First of all, make sure that our illness is from bacterial infections. Second, do not take an antibiotic for a viral infection. Third, do not save antibiotics for the next time we get sick. Fourth, do not take antibiotics prescribed for someone else. Fifth, take our antibiotics exactly as our health care provider such as doctor or pharmacist tells us. And lastly, we need to take a whole course of antibiotics to be sure that the infection has gone away. If we do not take a whole course of antibiotics, some bacteria may survive and re-infect.
In conclusion, antibiotic resistance has become a serious health problems, which caused a lot of damage to our bodies. But we can prevent these problems by taking care of ourselves, studying the data of our own illness before buying the medicine to eat, and taking antibiotics as prescribed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในชีวิตประจำวันของเรา ทุกคนย่อมจะมีเกิดอุบัติเหตุง่ายเช่นตัดนิ้วฯลฯ ซึ่งอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล และเชื้อโรคเหล่านั้นสามารถฆ่าเรา เราต้องใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นยาปฏิชีวนะเป็นยาที่ต่อสู้ และต่อต้านการติดเชื้อเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในร่างกายของเรา ยาปฏิชีวนะถูกค้นพบครั้งแรก โดยอเล็กซานเดอร์เฟลมมิงในปี 1982 เรียกว่ายาเพนนิซิลลิน และชั้นใหม่ล่าสุดของยาปฏิชีวนะที่พบในต้นทศวรรษ 1980 ขณะนี้ คนส่วนใหญ่จะ misusing ยาปฏิชีวนะในการรักษาติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสเช่นเป็นหวัด ไอ หรือหวัด นอกจากนี้ หลายคนไม่ทราบว่า โรคที่เกิดจากแบคทีเรียหรือไวรัส เป็นผลมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะ แบคทีเรียกลายเป็นทนต่อยาปฏิชีวนะความต้านทานยาปฏิชีวนะมีการเรียกหนึ่งของปัญหาสุขภาพสาธารณะกดส่วนใหญ่ของโลก ถ้าเราได้รับการติดเชื้อที่ดื้อ- เราอาจมีผลมาก ตัวอย่างเช่น เราอาจไม่สามารถต้านทานโรคที่กับระบบภูมิคุ้มกันของเราเอง เราอาจมีการเจ็บป่วยนาน เราอาจต้องไปพบแพทย์ของเราเพิ่มเติม เราอาจต้องรักษาในโรงพยาบาล และเราอาจต้องการยามากมายที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างไรก็ตาม เราสามารถป้องกันเชื้อดื้อ โดยวิธีต่าง ๆ ดังนี้ ก่อนอื่น ให้แน่ใจว่า เป็นของเราเจ็บป่วยจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่สอง ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับการติดเชื้อไวรัส ที่สาม บันทึกยาปฏิชีวนะสำหรับครั้งต่อไปที่เราได้รับการป่วย สี่ ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะกำหนดให้ผู้อื่น ห้า ใช้ยาปฏิชีวนะของเราตรงตามที่เราให้บริการดูแลสุขภาพเช่นแพทย์ หรือเภสัชกรบอกเรา และสุดท้าย เราจำเป็นต้องใช้หลักสูตรของยาปฏิชีวนะทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจว่า การติดเชื้อหายไป ถ้าเราไม่ได้ใช้หลักสูตรทั้งหมดของยาปฏิชีวนะ แบคทีเรียบางอย่างอาจเอาตัวรอด และ re-ในบทสรุป ความต้านทานยาปฏิชีวนะได้กลายเป็น ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายของเรา แต่เราสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ โดยการดูแลตัวเอง ศึกษาข้อมูลของการเจ็บป่วยของเราเองก่อนที่จะซื้อยารับประทาน และการใช้ยาปฏิชีวนะตามที่กำหนด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนก็จะมีการเกิดอุบัติเหตุง่ายเช่น ฯลฯ ตัดนิ้วซึ่งอาจก่อให้เกิดเชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านทางบาดแผล และเชื้อโรคเหล่านั้นอาจฆ่าเรา เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้นเราจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ.
ยาปฏิชีวนะเป็นยาที่ต่อสู้และต่อต้านการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียในร่างกายของเรา ยาปฏิชีวนะที่ถูกค้นพบครั้งแรกโดย Alexander Fleming ในปี 1982 เรียกว่า Penicillin และคลาสใหม่ล่าสุดของยาปฏิชีวนะค้นพบในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะ misusing ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสเช่นเป็นหวัดไอหรือไข้หวัด นอกจากนี้หลายคนไม่ทราบว่าเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส อันเป็นผลมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะในทางที่ผิดแบคทีเรียกลายเป็นดื้อต่อยาปฏิชีวนะ.
ต้านทานยาปฏิชีวนะได้รับการเรียกว่าหนึ่งในปัญหาสุขภาพของประชาชนที่เร่งด่วนที่สุดของโลก หากเราได้รับการติดเชื้อทนต่อยาปฏิชีวนะเราอาจมีผลกระทบจำนวนมาก ตัวอย่างเช่นเราอาจจะไม่สามารถที่จะต้านทานโรคที่มีระบบภูมิคุ้มกันของเราเองเราอาจจะมีการเจ็บป่วยที่ติดทนนานเราอาจจะต้องไปพบแพทย์ของเรามากขึ้นเราอาจจำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาลและเราอาจต้องยาค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่อาจ ก่อให้เกิดผลข้างเคียง.
แต่เราสามารถป้องกันการติดเชื้อทนต่อยาปฏิชีวนะโดยวิธีการต่างๆดังต่อไปนี้ ครั้งแรกของทั้งหมดให้แน่ใจว่าการเจ็บป่วยของเราจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ประการที่สองไม่ได้ใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับการติดเชื้อไวรัส ประการที่สามไม่ได้บันทึกยาปฏิชีวนะสำหรับครั้งต่อไปที่เราจะได้รับป่วย ประการที่สี่ไม่ได้ใช้ยาปฏิชีวนะที่กำหนดไว้สำหรับคนอื่น ประการที่ห้าการใช้ยาปฏิชีวนะของเราตรงตามที่ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของเราเช่นแพทย์หรือเภสัชกรบอกเรา และสุดท้ายที่เราจำเป็นต้องใช้หลักสูตรทั้งหมดของยาปฏิชีวนะเพื่อให้แน่ใจว่าการติดเชื้อได้หายไป ถ้าเราไม่ได้ใช้หลักสูตรทั้งหมดของยาปฏิชีวนะแบคทีเรียบางคนอาจอยู่รอดและการติดเชื้ออีกครั้ง.
ในการสรุปความต้านทานยาปฏิชีวนะได้กลายเป็นปัญหาสุขภาพที่รุนแรงที่ก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมากต่อร่างกายของเรา แต่เราสามารถป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้โดยการดูแลตัวเองศึกษาข้อมูลของการเจ็บป่วยของเราเองก่อนซื้อยากินและการใช้ยาปฏิชีวนะตามที่กำหนดไว้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในชีวิตประจำวันของเราทุกคน จะต้องมีอุบัติเหตุ เช่น ตัดนิ้ว ฯลฯ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้แบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล และเชื้อโรคเหล่านั้นสามารถฆ่าเราได้ กำจัดเชื้อแบคทีเรียเหล่านั้น เราต้องกินยาปฏิชีวนะยาปฏิชีวนะเป็นยาที่ต่อสู้และต่อต้านการติดเชื้อจากแบคทีเรียในร่างกายของเรา ยาปฏิชีวนะที่ถูกค้นพบครั้งแรกโดย อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง ในปี 1982 เรียกว่าเพนนิซิลิน และสุดท้ายระดับใหม่ของยาปฏิชีวนะที่พบในต้นทศวรรษ 1980 ในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นคน misusing ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัส เช่น หวัด ไอ หรือเป็นหวัด นอกจากนี้ หลายคนไม่รู้ว่า โรคที่เกิดจากแบคทีเรียหรือไวรัส ผลของการใช้ยาปฏิชีวนะแบคทีเรียกลายเป็นทนต่อยาปฏิชีวนะต้านทานยาปฏิชีวนะที่ได้รับการเรียกหนึ่งของโลกมากที่สุดกดปัญหาสาธารณสุข . ถ้าเรารับเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ เราอาจจะ มี ผล มาก ตัวอย่างเช่น เราอาจจะไม่สามารถต้านทานโรคได้ด้วยระบบภูมิคุ้มกันของเราเอง เราอาจจะมีการเจ็บป่วยยาวนานอีกต่อไป เราอาจจะต้องไปพบแพทย์ของเรามากขึ้น เราอาจจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และเราอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ยาอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงแต่เราสามารถป้องกันเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ โดยวิธีต่าง ๆดังนี้ แรกของทั้งหมดให้แน่ใจว่าอาการของเราคือจากการติดเชื้อแบคทีเรีย สอง ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับการติดเชื้อไวรัส สาม อย่าประหยัด ยาปฏิชีวนะ สำหรับคราวหน้าเราป่วย ประการที่สี่ อย่าใช้ยาปฏิชีวนะที่กำหนดไว้สำหรับคนอื่น 5 ใช้ยาปฏิชีวนะของเราว่าเป็นผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ เช่น แพทย์ หรือ เภสัชกร บอกเรา และสุดท้าย เราต้องใช้หลักสูตรทั้งหมดของยาปฏิชีวนะเพื่อให้แน่ใจว่า การติดเชื้อได้จางหายไป ถ้าเราไม่ใช้หลักสูตรของยาปฏิชีวนะแบคทีเรียบางชนิดอาจอยู่รอดและติดเชื้อสรุป การดื้อยาปฏิชีวนะได้กลายเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อร่างกายของเรา แต่เราสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ โดยการดูแลตนเอง ศึกษาข้อมูลการเจ็บป่วยของเราเองก่อนที่จะซื้อยาให้กิน และใช้ยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่ง