The company was founded in 1994, sp

The company was founded in 1994, spurred by what Bezos called his "regret minimization framework", which described his efforts to fend off any regrets for not participating sooner in the Internet business boom during that time.[16] In 1994, Bezos left his employment as vice-president of D. E. Shaw & Co., a Wall Street firm, and moved to Seattle. He began to work on a business plan for what would eventually become Amazon.com.

Jeff Bezos incorporated the company as "Cadabra" on July 5, 1994[17] and the site went online as Amazon.com in 1995.[18] Bezos changed the name cadabra.com to amazon.com because it sounded too much like cadaver. Additionally, a name beginning with "A" was preferential due to the probability it would occur at the top of any list that was alphabetized.

Bezos selected the name Amazon by looking through the dictionary, and settled on "Amazon" because it was a place that was "exotic and different" just as he planned for his store to be; the Amazon river, he noted was by far the "biggest" river in the world (according to drainage, not length), and he planned to make his store the biggest in the world.[18] Bezos placed a premium on his head start in building a brand, telling a reporter, "There's nothing about our model that can't be copied over time. But you know, McDonald's got copied. And it still built a huge, multibillion-dollar company. A lot of it comes down to the brand name. Brand names are more important online than they are in the physical world."[19]

After reading a report about the future of the Internet which projected annual Web commerce growth at 2,300%, Bezos created a list of 20 products which could be marketed online. He narrowed the list to what he felt were the five most promising products which included: compact discs, computer hardware, computer software, videos, and books. Bezos finally decided that his new business would sell books online, due to the large world-wide demand for literature, the low price points for books, along with the huge number of titles available in print.[20] Amazon[21] was originally founded in Bezos' garage in Bellevue, Washington.[22]

The company began as an online bookstore, an idea spurred off with discussion with John Ingram of Ingram Book (now called Ingram Content Group), along with Keyur Patel who still holds a stake in Amazon.[23] In the first two months of business, Amazon sold to all 50 states and over 45 countries. Within two months, Amazon's sales were up to $20,000/week.[24] While the largest brick and mortar bookstores and mail order catalogs might offer 200,000 titles, an online bookstore could "carry" several times more, since they had an almost unlimited virtual (not actual) warehouse: those of the actual product makers/suppliers.

Since 2000, Amazon's logotype has featured a curved arrow leading from A to Z, representing that they carry every product from A to Z, with the arrow shaped like a smile.[25]

Amazon was incorporated in 1994, in the state of Washington. In July 1995, the company began service and sold its first book on Amazon.com: Douglas Hofstadter's Fluid Concepts and Creative Analogies: Computer Models of the Fundamental Mechanisms of Thought.[26] In October 1995, the company announced itself to the public.[27] In 1996, it was reincorporated in Delaware. Amazon issued its initial public offering of stock on May 15, 1997, trading under the NASDAQ stock exchange symbol AMZN, at a price of US$18.00 per share ($1.50 after three stock splits in the late 1990s).

Amazon's initial business plan was unusual; it did not expect to make a profit for four to five years. This "slow" growth caused stockholders to complain about the company not reaching profitability fast enough to justify investing in, or to even survive in the long-term. When the dot-com bubble burst at the start of the 21st century, destroying many e-companies in the process, Amazon survived, and grew on past the bubble burst to become a huge player in online sales. It finally turned its first profit in the fourth quarter of 2001: $5 million (i.e., 1¢ per share), on revenues of more than $1 billion. This profit margin, though extremely modest, proved to skeptics that Bezos' unconventional business model could succeed.[28] In 1999, Time magazine named Bezos the Person of the Year, recognizing the company's success in popularizing online shopping.

Barnes & Noble sued Amazon on May 12, 1997, alleging that Amazon's claim to be "the world's largest bookstore" was false. Barnes and Noble asserted, "[It] isn't a bookstore at all. It's a book broker." The suit was later settled out of court, and Amazon continued to make the same claim."[29] Walmart sued Amazon on October 16, 1998, alleging that Amazon had stolen their trade secrets by hiring former Walmart executives. Although this suit was also settled out of court, it caused Amazon to implement internal restrictions and the reassignment of the former Walmart executives.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1994 กระตุ้น โดย Bezos เรียกอะไรของเขา "ริเกร็ตลดภาระกรอบ" ซึ่งอธิบายเขาพยายามปัดเป่าปิดใด ๆ regrets ไม่ร่วมเร็วในบูมธุรกิจอินเทอร์เน็ตในช่วงเวลานั้น[16] ในปี 1994, Bezos ซ้ายของเขาทำงานเป็นรองประธานของ D. E. Shaw และบริษัท บริษัทวอลล์สตรีท และย้ายไปซีแอตเทิล เขาเริ่มทำแผนธุรกิจสำหรับในที่สุดจะเป็น Amazon.comเจฟ Bezos รวมบริษัทเป็น "Cadabra" บน 5 กรกฎาคม 1994 [17] และในปี 1995 ก็ออนไลน์เป็น Amazon.com เว็บไซต์[18] Bezos เปลี่ยน cadabra.com ชื่อ amazon.com เพราะมันแต่เพียงแห่งมากเกินไปเช่น cadaver นอกจากนี้ ชื่อเริ่มต้น ด้วย "A" ถูกต้องเนื่องจากความน่าเป็นที่มันจะเกิดขึ้นที่ด้านบนของรายการใด ๆ ที่ถูก alphabetizedBezos เลือกชื่อ Amazon โดยมองผ่านพจนานุกรม และตัดสิน "อเมซอน" ก็เป็นสถานที่ "แปลกใหม่ และแตกต่าง" เพียงเขาวางแผนไว้สำหรับเก็บของเขาจะเป็น แม่น้ำอเมซอน เขากล่าวคือโดยไกลแม่น้ำ "ที่ใหญ่ที่สุด" ในโลก (ตามการระบายน้ำ ไม่ยาว), และเขาวางแผนจะทำให้เขาเก็บใหญ่ที่สุดในโลก[18] Bezos ไว้พรีเมี่ยมเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ หัวเขาบอกผู้สื่อข่าว "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับรุ่นของเราที่ไม่สามารถคัดลอกช่วงเวลา แต่คุณทราบ แมคโดนัลด์ก็คัดลอก และยังสร้างบริษัทใหญ่ multibillion ดอลลาร์ ของมาลงชื่อแบรนด์ ชื่อแบรนด์ที่มีความสำคัญกว่าอยู่ในโลกออนไลน์"[19]หลังจากอ่านรายงานเกี่ยวกับอนาคตของอินเทอร์เน็ตซึ่งคาดการณ์การเติบโตของพาณิชย์เว็บปี 2300%, Bezos สร้างรายการผลิตภัณฑ์ 20 ซึ่งสามารถทำตลาดออนไลน์ เขาจำกัดรายการเพื่อสิ่งที่เขารู้สึกว่า ได้ว่าผลิตภัณฑ์ห้าซึ่งรวม: แผ่น คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ วิดีโอ และหนังสือ Bezos และสุดท้ายตัดสินใจว่า ธุรกิจใหม่ของเขาจะขายหนังสือออนไลน์ เนื่องจากความต้องการทั่วโลกขนาดใหญ่สำหรับวรรณกรรม ระดับราคาต่ำสุดสำหรับหนังสือ พร้อมกับจำนวนตำแหน่งว่างในพิมพ์ใหญ่[20] เดิมก่อ [21] Amazon ในโรงรถของ Bezos ในเบลวิลล์ วอชิงตัน[22]บริษัทเริ่มเป็นร้านหนังสือออนไลน์ ความคิดกระตุ้นออก ด้วยการสนทนากับจอห์นอิงแกรมอิงแกรมหนังสือ (ตอนนี้เรียกว่า กลุ่มเนื้อหาอิงแกรม), พร้อมกับ Keyur Patel ยัง ถือเงินเดิมพันในอเมซอน[23] ในสองเดือนแรกของธุรกิจ Amazon ขายทั้งหมด 50 รัฐ และ กว่า 45 ประเทศ ภายใน 2 เดือน ขายของ Amazon ได้ถึง $ 20000/สัปดาห์[24] ในขณะที่อิฐที่ใหญ่ที่สุด และยัง และแค็ตตาล็อกจดหมายสั่งอาจเสนอชื่อ 200000 ร้านหนังสือออนไลน์สามารถ "ดำเนินการ" หลายครั้งมาก เนื่องจากมีคลังสินค้า (ไม่จริง) เสมือนที่ไม่: ผู้ผลิต/ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์จริงได้ตั้งแต่ 2000 โลโก้ของ Amazon มีห้องเป็นลูกศรโค้งที่นำจาก A ถึง Z แทนที่จะดำเนินการทุกผลิตภัณฑ์จาก A ถึง Z กับลูกศรรูปร่างคล้ายรอยยิ้ม[25]อเมซอนถูกรวมอยู่ในปี 1994 ในรัฐวอชิงตัน ในเดือน 1995 กรกฎาคม บริษัทเริ่มบริการ และขายหนังสือของแรกใน Amazon.com: ดักลาส Hofstadter น้ำมันแนวคิดและสร้างสรรค์ Analogies: คอมพิวเตอร์รุ่นพื้นฐานกลไกของความคิด[26] ในเดือน 1995 ตุลาคม บริษัทประกาศตัวเองต่อสาธารณชน[27] ในปี 1996 มันถูก reincorporated ในรัฐเดลาแวร์ อเมซอนออกการเสนอขายหลักทรัพย์บน 15 พฤษภาคม 1997 ซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ AMZN ที่สหรัฐอเมริกา $18.00 ต่อหุ้น (1.50 $ หลังจากสามแยกหุ้นในปลายทศวรรษที่ 1990)แผนเริ่มต้นธุรกิจของ Amazon ไม่ผิดปกติ มันไม่ได้คาดหวังว่าจะทำกำไร 4-5 ปี เจริญเติบโตของ "ช้า" นี้เกิด stockholders บ่นเกี่ยวกับบริษัทไม่ถึงผลกำไรอย่างรวดเร็วเพียงพอในการลงทุนใน หรือเพื่อจะอยู่รอดในแบบระยะยาว เมื่อฟองสบู่ดอตคอมระเบิดที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 21 ทำลายอีบริษัทจำนวนมากในกระบวนการ Amazon รอดชีวิต และเติบโตในอดีตออกมาจะกลายเป็น เครื่องเล่นขนาดใหญ่ในการขายออนไลน์ฟอง สุดท้ายเปิดเป็นกำไรครั้งแรกในไตรมาสสี่ของปี 2001:$5 ล้าน (เช่น 1 บัญชี ต่อหุ้น), ในรายได้ของมากกว่า $1 พันล้าน นี้กำไร แต่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว พิสูจน์ให้สงสัยว่า โมเดลธุรกิจกระเป๋าของ Bezos ได้สำเร็จ[28] ในปี 1999 เวลานิตยสารชื่อว่า Bezos บุคคลปี รับรองความสำเร็จของบริษัทในการช็อปปิ้งออนไลน์ popularizingBarnes & Noble sued Amazon บน 12 พฤษภาคม ปี 1997, alleging ร้องของ Amazon ที่มี "ในโลกร้านหนังสือการใหญ่คอนโซล" มีค่าเป็นเท็จ Barnes และตระกูลคน "[] ไม่มอร์ที่ เป็นนายหน้าซื้อขายหนังสือ" ชุดถูกตัดสินในภายหลังตำรวจ และ Amazon ยังคงให้สิทธิ์เดียวกัน"[29] วอล-มาร์ต sued Amazon บน 16 ตุลาคม 1998, alleging ว่า Amazon มีขโมยความลับทางการค้าของพวกเขา โดยการจ้างผู้บริหารเดิมวอล-มาร์ต ถึงแม้ว่าชุดนี้ถูกตัดสินจากศาล เกิด Amazon จะใช้ข้อจำกัดภายในและศัลยกรรมแปลงของผู้บริหารของวอล-มาร์ตอดีต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริษัท ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 , การกระตุ้นโดยสิ่งที่เรียกว่า " เสียใจน้อยที่สุด Bezos กรอบ " ซึ่งอธิบายถึงความพยายามของเขาที่จะปัดเป่าปิดเสียใจที่ไม่ได้เข้าร่วมเร็วในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบูมในช่วงเวลานั้น . [ 16 ] ในปี 1994 Bezos ออกจากการจ้างงานของเขาในฐานะรองประธานดี. อี. ชอว์ & Co . , บริษัท วอลล์สตรีท และย้ายไปซีแอตเทิลเขาเริ่มทำงานในธุรกิจการวางแผนสำหรับสิ่งที่จะกลายเป็น Amazon . com .

Jeff Bezos Incorporated บริษัทที่เป็น " cadabra " ในวันที่ 5 กรกฎาคม ปี 1994 [ 17 ] และเว็บไซต์ไปออนไลน์เช่น Amazon.com ใน 1995 . [ 18 ] Bezos Amazon.com ได้เปลี่ยนชื่อ cadabra.com ไปเพราะมันฟังดูเหมือนเป็นซากศพ นอกจากนี้ชื่อขึ้นต้นด้วย " " เป็นพิเศษ เนื่องจากความเป็นไปได้ที่มันจะเกิดขึ้นที่ด้านบนของรายการใด ๆที่เป็นอักษร

Bezos เลือกชื่อ Amazon โดยดูจากพจนานุกรม และตัดสินใน " Amazon " เพราะมันเป็นสถานที่ที่เป็น " ที่แปลกใหม่ และแตกต่าง " อย่างที่เขาวางแผนไว้สำหรับร้านของเขา มี อเมซอนแม่น้ำเขาสังเกตเห็นคือไกลโดย " แม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ( จากการระบายน้ำ ไม่ยาว ) , และเขาวางแผนที่จะทำให้ร้านของเขา ที่ ใหญ่ ที่สุด ใน โลก . [ 18 ] เบซวางพรีเมี่ยมเริ่มหัวของเขาในการสร้างตราสินค้า , บอกนักข่าว , " ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับตัวของเราที่สามารถ ไม่ลอกตลอดเวลา แต่คุณก็รู้ แมคโดนัลด์ได้คัดลอก และมันยังสร้างขนาดใหญ่ บริษัท ทรัพย์สินหลายล้านดอลลาร์ .มากมันลงมาเพื่อ ชื่อแบรนด์ ชื่อแบรนด์ออนไลน์ที่สำคัญกว่าพวกเขาอยู่ในโลกทางกายภาพ . " [ 19 ]

หลังจากที่ได้อ่านรายงานเกี่ยวกับอนาคตของอินเทอร์เน็ต ซึ่งคาดว่าปีเว็บพาณิชย์การเจริญเติบโตที่ 2300 บาท เบซสร้างรายชื่อ 20 ผลิตภัณฑ์ซึ่งอาจเป็นตลาดออนไลน์ เขาลดลงรายการสิ่งที่เขารู้สึกคือห้าแนวโน้มมากที่สุดผลิตภัณฑ์ซึ่งรวมถึง :แผ่นดิสก์คอมพิวเตอร์ , คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ , ซอฟต์แวร์ , วิดีโอ , และหนังสือ เบซ ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าธุรกิจใหม่ของเขาจะขายหนังสือออนไลน์ , เนื่องจากการขนาดใหญ่ทั่วโลกความต้องการวรรณกรรม ที่มีจุดราคาหนังสือ พร้อมหมายเลขของชื่อใหญ่ที่มีอยู่ในสิ่งพิมพ์ [ 20 ] Amazon [ 21 ] ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในโรงรถของ Bezos ใน Bellevue , Washington . [ 22 ]

บริษัท เริ่มเป็นร้านหนังสือออนไลน์ , ความคิดที่กระตุ้นด้วยการสนทนา กับ จอห์น อินแกรมของจองอินแกรม ( เรียกว่าตอนนี้อินแกรมเนื้อหากลุ่ม ) พร้อมกับเคเยอร์ พาเทล ที่ยังคงถือหุ้นใน Amazon [ 23 ] ในช่วงสองเดือนแรกของธุรกิจ , Amazon ขายทั้งหมด 50 รัฐและกว่า 45 ประเทศ ภายในสองเดือน ขาย Amazon ได้ถึง 20 , 000 $ / สัปดาห์[ 24 ] ในขณะที่อิฐและปูนและจดหมายแคตตาล็อกร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดเพื่อจะให้ 200000 ชื่อร้านหนังสือออนไลน์ " อุ้ม " หลายครั้งมากขึ้นเนื่องจากพวกเขามีเกือบจะไม่ จำกัด เสมือน ( จริง ) คลังสินค้า : บรรดาผู้ผลิต / ซัพพลายเออร์สินค้าจริง

ตั้งแต่ 2000 , Amazon มีจุดเด่นโลโก้โค้ง ลูกศรชั้นนําจากซีตัวแทนที่พวกเขาพกสินค้าทุกจาก A ถึง Z กับลูกศรรูปร่างเหมือนยิ้ม [ 25 ]

Amazon จัดตั้งขึ้นในปี 1994 ในรัฐวอชิงตัน ในเดือนกรกฎาคมปี 1995 บริษัท เริ่มให้บริการและขายหนังสือเล่มแรกของ Amazon.com : ดักลาส ฮอฟสเต็ดเตอร์ของไหลแนวคิดและสร้างสรรค์การใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ของกลไกพื้นฐานของความคิด . [ 26 ] ในเดือนตุลาคมปี 1995บริษัท ประกาศเองต่อสาธารณชน [ 27 ] ในปี 1996 มัน reincorporated ในเดลาแวร์ ของ Amazon ที่ออกเสนอขายประชาชนครั้งแรกของหุ้นเมื่อ 15 พฤษภาคม 1997 การซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ Nasdaq Stock Exchange AMZN ในราคา US $ 18.00 บาท ( $ 1.50 หลังจากที่สามการแตกหุ้นในปลายปี 1990 ) .

Amazon เริ่มต้นแผน ธุรกิจ เป็น ปกติมันไม่ได้คาดหวังที่จะทำกำไรสำหรับสี่ถึงห้าปี " ช้า " การทำให้ผู้ถือหุ้นที่จะบ่นเกี่ยวกับบริษัทเข้าถึงกำไรอย่างรวดเร็วเพียงพอที่จะปรับการลงทุนใน หรือแม้แต่เอาตัวรอดในระยะยาว เมื่อดอทคอมฟองระเบิดที่เริ่มต้นของศตวรรษที่ 21 ที่ทำลายหลาย e-companies ในกระบวนการ , Amazon รอดมาได้และเติบโตในช่วงระเบิดฟองที่จะกลายเป็นผู้เล่นขนาดใหญ่ในการขายออนไลน์ ในที่สุดมันก็หันกำไรครั้งแรกในไตรมาสที่สี่ของปี 2544 : 5 ล้านเหรียญ ( เช่น 1 ¢บาทต่อหุ้น ) ด้วยรายได้กว่า $ 1 พันล้าน นี้กำไร แม้ว่าเจียมเนื้อเจียมตัวมากพิสูจน์ Skeptics ที่รูปแบบธุรกิจแหกคอก Bezos ' ได้สำเร็จ [ 28 ] ในปี 1999 นิตยสารไทม์ชื่อ เบซ บุคคลแห่งปีตระหนักถึงความสำเร็จของ บริษัท ที่นิยมช้อปปิ้งออนไลน์

&โนเบิลบาร์นส์ฟ้อง Amazon เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 , กล่าวหาว่า Amazon อ้างว่า เป็น " ร้านหนังสือ " ใหญ่ที่สุดของโลกที่เป็นเท็จ Barnes และโนเบิล กล่าวหา " [ มัน ] ไม่ใช่ร้านหนังสือเลย มันเป็นนายหน้าจอง " ชุดต่อมาตั้งถิ่นฐานออกจากศาล และ Amazon อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เรียกร้องเดียวกัน . " [ 29 ] Walmart ฟ้อง Amazon เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม1998 , กล่าวหาว่า Amazon ได้ขโมยความลับทางการค้าของตนโดยการจ้างผู้บริหาร Walmart ก่อน แต่ชุดนี้ ก็ตัดสินจากศาล ทำให้ Amazon ที่จะใช้ข้อ จำกัด ภายในและแปลงของผู้บริหาร Walmart ก่อน