โครงงานเรื่อง การแต่งกายผิดระเบียบข

โครงงานเรื่อง การแต่งกายผิดระเบียบของนักเรียน Nawaminthrachinuthit suankularbwittayalai pathumthaniจัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ทราบทัศนคติ เกี่ยวกับการแต่งกายของนักเรียนโNawaminthrachinuthit suankularbwittayalai pathumthani และให้นักเรียนที่แต่งกายไม่ถูกระเบียบได้ปรับปรุง ตลอดจนนำข้อมูลมาปรับใช้เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ทีดีให้แก่โรงเรียนส่วนใหญ่
จากการสำรวจพบว่านักเรียนจำนวน 100 คน คิดเป็นร้อยละ 50 มองว่านักเรียนในโรงเรียนส่วนใหญ่แต่งกายถูกระเบียบ และอีกร้อยละ 50 มองว่านักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนแต่งกายผิดระเบียบ
ในส่วนของนักเรียนชายที่แต่งกายผิดระเบียบนักเรียนจำนวน 122 คน คิดเป็นร้อยละ 61 มองว่า นักเรียนชายผิดระเบียบในส่วนถุงเท้าสั้น รองลงมาคือจำนวน 92 คน คิดเป็นร้อยละ 46 มองว่า ผิดระเบียบในส่วนกางเกงสั้น ส่วนของนักเรียนหญิงที่แต่งกายผิดระเบียบ นักเรียนจำนวน 100 คน คิดเป็นร้อยละ 50 มองว่า นักเรียนหญิงผิดระเบียบในส่วนกระโปรงสั้นเกินไป รองลงมาคือจำนวน 81คน คิดเป็นร้อยละ 40.5 มองว่าผิดระเบียบส่วนถุงเท้าสั้น
ในส่วนสาเหตุของการแต่งกายผิดระเบียบนั้น นักเรียนจำนวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 25.5 มองว่า เพราะเป็นเรื่องเสรีภาพอย่างหนึ่ง และรองลงมาจำนวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 23 มองว่า เพราะนักเรียนกลุ่มดังกล่าวต้องการให้ผู้อื่นสนใจ
ส่วนแนวทางการแก้ไขนั้น นักเรียนจำนวน 77 คน คิดเป็นร้อยละ 38.5% มองว่า ควรมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นกว่านี้ รองลงมาจำนวน 65 คน คิดเป็นร้อยละ 32.5% มองว่าให้รีบและให้แก้ไขทันทีอย่างเคร่งครัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โครงงานเรื่องการแต่งกายผิดระเบียบของนักเรียนนวมิ suankularbwittayalai pathumthaniจัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ทราบทัศนคติ เกี่ยวกับการแต่งกายของนักเรียนโNawaminthrachinuthit suankularbwittayalai ปทุมธานีและให้นักเรียนที่แต่งกายไม่ถูกระเบียบได้ปรับปรุงตลอดจนนำข้อมูลมาปรับใช้เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ทีดีให้แก่โรงเรียนส่วนใหญ่ จากการสำรวจพบว่านักเรียนจำนวน 100 คนคิดเป็นร้อยละ 50 มองว่านักเรียนในโรงเรียนส่วนใหญ่แต่งกายถูกระเบียบและอีกร้อยละ 50 มองว่านักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนแต่งกายผิดระเบียบในส่วนของนักเรียนชายที่แต่งกายผิดระเบียบนักเรียนจำนวน 122 คนคิดเป็นร้อยละ 61 มองว่านักเรียนชายผิดระเบียบในส่วนถุงเท้าสั้นรองลงมาคือจำนวน 92 คนคิดเป็นร้อยละ 46 มองว่าผิดระเบียบในส่วนกางเกงสั้นส่วนของนักเรียนหญิงที่แต่งกายผิดระเบียบนักเรียนจำนวน 100 คนคิดเป็นร้อยละ 50 มองว่านักเรียนหญิงผิดระเบียบในส่วนกระโปรงสั้นเกินไปรองลงมาคือจำนวน 81คน คิดเป็นร้อยละ 40.5 มองว่าผิดระเบียบส่วนถุงเท้าสั้น ในส่วนสาเหตุของการแต่งกายผิดระเบียบนั้นนักเรียนจำนวน 51 คนคิดเป็นร้อยละ 25.5 มองว่าเพราะเป็นเรื่องเสรีภาพอย่างหนึ่งและรองลงมาจำนวน 46 คนคิดเป็นร้อยละ 23 มองว่าเพราะนักเรียนกลุ่มดังกล่าวต้องการให้ผู้อื่นสนใจ ส่วนแนวทางการแก้ไขนั้นนักเรียนจำนวน 77 คนคิดเป็นร้อยละ 38.5% มองว่าควรมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นกว่านี้รองลงมาจำนวน 65 คนคิดเป็นร้อยละ 32.5% มองว่าให้รีบและให้แก้ไขทันทีอย่างเคร่งครัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โครงงานเรื่องการแต่งกายผิดระเบียบของนักเรียนนวมินท suankularbwittayalai ทราบทัศนคติ suankularbwittayalai ปทุมธานี
100 คนคิดเป็นร้อยละ 50 และอีกร้อยละ 50
122 คนคิดเป็นร้อยละ 61 มองว่า รองลงมาคือจำนวน 92 คนคิดเป็นร้อยละ 46 มองว่าผิดระเบียบในส่วนกางเกงสั้น นักเรียนจำนวน 100 คนคิดเป็นร้อยละ 50 มองว่า รองลงมาคือจำนวน 81 คนคิดเป็นร้อยละ 40.5
นักเรียนจำนวน 51 คนคิดเป็นร้อยละ 25.5 มองว่าเพราะเป็นเรื่องเสรีภาพอย่างหนึ่งและรองลงมาจำนวน 46 คนคิดเป็นร้อยละ 23 มองว่า
นักเรียนจำนวน 77 คนคิดเป็นร้อยละ 38.5% มองว่า รองลงมาจำนวน 65 คนคิดเป็นร้อยละ 32.5%

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ โครงงานเรื่องการแต่งกายผิดระเบียบของนักเรียน suankularbwittayalai จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทราบทัศนคติเกี่ยวกับการแต่งกายของนักเรียนโโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ suankularbwittayalai ปทุมธานีปทุมธานีตลอดจนนำข้อมูลมาปรับใช้เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ทีดีให้แก่โรงเรียนส่วนใหญ่
จากการสำรวจพบว่านักเรียนจำนวน 100 คนคิดเป็นร้อยละ 50 มองว่านักเรียนในโรงเรียนส่วนใหญ่แต่งกายถูกระเบียบและอีกร้อยละ 50 มองว่านักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนแต่งกายผิดระเบียบ
ในส่วนของนักเรียนชายที่แต่งกายผิดระเบียบนักเรียนจำนวน 122 คนคิดเป็นร้อยละ 61 มองว่านักเรียนชายผิดระเบียบในส่วนถุงเท้าสั้นรองลงมาคือจำนวน 92 คนคิดเป็นร้อยละ 46 มองว่าผิดระเบียบในส่วนกางเกงสั้นนักเรียนจำนวน 100 คนคิดเป็นร้อยละ 50 มองว่านักเรียนหญิงผิดระเบียบในส่วนกระโปรงสั้นเกินไปรองลงมาคือจำนวน 81 คนคิดเป็นร้อยละ 405 มองว่าผิดระเบียบส่วนถุงเท้าสั้น
ในส่วนสาเหตุของการแต่งกายผิดระเบียบนั้นนักเรียนจำนวน 51 คนคิดเป็นร้อยละ 255 มองว่าเพราะเป็นเรื่องเสรีภาพอย่างหนึ่งและรองลงมาจำนวน 46 คนคิดเป็นร้อยละ 23 มองว่าเพราะนักเรียนกลุ่มดังกล่าวต้องการให้ผู้อื่นสนใจ
ส่วนแนวทางการแก้ไขนั้นนักเรียนจำนวน 77 คนคิดเป็นร้อยละ 385 % มองว่าควรมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นกว่านี้รองลงมาจำนวน 65 คนคิดเป็นร้อยละ 32.5 % มองว่าให้รีบและให้แก้ไขทันทีอย่างเคร่งครัด