the next level of color processing:

the next level of color processing:surround effects
Once you understand the nature of light,you might expect that. Understanding the perception of color would be simple,but it is not. Even isaac Newton, who made some of the most profound discoveries about the nature of light, worte,"to determind...by what modes or actions light produceth in our minds the Phantasms of colors is not so easies."
While light is a physical entity, color is a perception-a concatenation of the wavelength of light and the way our brains process information about wavelength.There are myriad schemes for categorizing colors, and in most of them some colors are considered more fundamental, or primary ,than others. In many of these schemes color is plotted in a circle. But circular schemes do not have any basis at all in the physical properties of light-instead ,they reflect the way our brains deal with color. This situation is quite different from music, for example, in while the notes that comprise harmonics, chords ,or melodies bear clear mathematical relationships to each other.
Even when we know something about the pigment in our eyes that respond to light, our perception of colors remains mysterious. Light we would call red has wavelengths substantially longer than the peak of the longest wavelength cone. What's more, there's nothing about the visible spectrum to indicate why some colors should be complementary to others, either in the artistic sense that they look nice when adjecent to each other or in the Newtonisn sens that when mixed together they make white.
The most surprising thing about our perception of color is that, as reflected by the fact it is often represented as a circle, color seems to form some kind of closed continuum perceptually, seamlessly grading from red through orange, green,and blue to purple and then smoothly back to red again, while physically there is absolutely no continuity between the longest-wavelength red light that we can see and the shortest-wavelength blue light.
Despite the continuous linear relationship between color and wavelength,for centuries people across cultures have agreed that certain colors should be considered preeminent over other:red,yellow,and blue are usually considered " primary. "(that works for pigment.When we are talking about light,red,blue,and green are primaries.)We also agree that certain pairs of pigment colors are complementary in that when mixed they give gray:red and green,yellow and purple,blue,and orange.Again there is nothing about a linear spectrum that would predict,or even support,either of these ideas.The underlying reason for both the continuity of the color experience and its internal complementarity is the same as I gave earlier for ability to see red - the fact that our visual system compares the signals from three of cones.In other words,in the color-processing stream,inputs from the different classes of cones act in opponency to each other at subsequent stages of processing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลการประมวลผล: รอบทิศทางสีระดับถัดไป เมื่อคุณเข้าใจธรรมชาติของแสง คุณอาจคาดหวังที่ เข้าใจรับรู้ของสีจะง่าย แต่ก็ไม่ แม้แต่ไอแซคนิวตัน ที่ทำการบางส่วนของการค้นพบที่ลึกซึ้งที่สุดเกี่ยวกับธรรมชาติของแสง worte "การ determind...โดย produceth แสงโหมดหรือการกระทำใดในจิตใจเรา Phantasms สีได้ easies ดังนั้น" ในขณะที่แสงเป็นเอนทิตีมีอยู่จริง สีคือ รับรู้ที่เรียงต่อกันของความยาวคลื่นของแสงและวิธีสมองของเราประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับความยาวคลื่นมีแผนงานหลักสำหรับการจัดประเภทสี และในที่สุดพวกเขา บางสีถือเป็นพื้นฐานมาก หรือ หลัก อื่น ๆ ในโครงร่างเหล่านี้ สีจะลงจุดในวงกลม แต่รูปแบบวงกลมไม่มีพื้นฐานใด ๆ เลยในคุณสมบัติทางกายภาพของแสงแทน พวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงวิธีสมองของเราจัดการกับสี สถานการณ์นี้จะค่อนข้างแตกต่างจากเพลง เช่น ในขณะบันทึกไปนิคส์ chords หรือทำนองหมีชัดเจนทางคณิตศาสตร์ความสัมพันธ์กัน แม้ว่าเรารู้เรื่องเม็ดสีในดวงตาของเราที่ตอบสนองต่อแสง เรารู้สียังคงลึกลับ แสงที่เราจะเรียกสีแดงมีความยาวคลื่นที่ยาวมากเกินจุดสูงสุดของกรวยความยาวคลื่นที่ยาวที่สุด แก่ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับสเปกตรัมที่มองเห็นเพื่อบ่งชี้ทำไมสีบางอย่างควรจะเสริมให้ผู้อื่น ทั้งในแง่ศิลปะที่พวกเขาดูดีเมื่อ adjecent กัน หรือเซ้นส์ Newtonisn ว่า เมื่อผสมกัน จะทำให้ขาว สิ่งน่าประหลาดใจเกี่ยวกับการรับรู้ของเราสีจะว่า สะท้อนความจริงที่มันมักจะแสดงเป็นวงกลม สีเหมือน แบบฟอร์มบางชนิดปิดสมิติ perceptually อย่างราบรื่นที่จัดเกรดจากสีแดงโดยสีส้ม สีเขียว และสีฟ้าสีม่วง และราบรื่นกลับมาแดงอีก ในขณะที่ร่างกายมีจริง ๆ ไม่มีความต่อเนื่องระหว่างแสงสีแดงความยาวคลื่นที่ยาวที่สุดที่เราสามารถมองเห็นและแสงสีน้ำเงินความยาวคลื่นสั้นที่สุด แม้ มีความสัมพันธ์เชิงเส้นอย่างต่อเนื่องระหว่างสีและความยาวคลื่น ศตวรรษ คนข้ามวัฒนธรรมได้ตกลงว่า บางสีควรเป็นช่วงอื่น ๆ: สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงินมักจะถือเป็น "หลัก"(ที่ใช้เม็ดสีเมื่อเราพูดถึงแสง สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียวคือ primaries)เรายังยอมรับว่า บางคู่ของสีย้อมจะเสริมที่ผสมให้สีเทา: สีแดง และสีเขียว เหลือง และสีม่วง สีน้ำเงิน และสีส้มอีก ไม่มีอะไรเกี่ยวกับสเปกตรัมเส้นที่จะทำนาย หรือแม้แต่ สนับสนุน ความคิดเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งเหตุผลพื้นฐานสำหรับทั้งความต่อเนื่องของประสบการณ์สีและของ complementarity ภายในจะเหมือนกัน ตามที่ผมให้ก่อนหน้านี้สำหรับการมองเห็นสีแดง - ความจริงที่ว่า ระบบของเราภาพเปรียบเทียบสัญญาณที่ 3 ของกรวยในคำอื่น ๆ ในกระแสข้อมูลประมวลผลสี อินพุตจากประเภทต่าง ๆ ของกรวยทำใน opponency กันในขั้นตอนต่อไปของการประมวลผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระดับถัดไปของการประมวลผลสี: ผลกระทบรอบทิศทาง
เมื่อคุณเข้าใจธรรมชาติของแสงที่คุณอาจคาดหวังว่า ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับรู้ของสีจะง่าย แต่ก็ไม่ได้เป็น แม้ Isaac Newton ซึ่งทำให้บางส่วนของการค้นพบที่ลึกซึ้งมากที่สุดเกี่ยวกับธรรมชาติของแสง Worte, "เพื่องบดุล ... โดยสิ่งที่โหมดหรือการกระทำแสง produceth ในจิตใจของเราแฟนทาสม์ของสีที่ไม่เป็นเช่นนั้น easies."
ในขณะที่แสง นิติบุคคลทางกายภาพสีรับรู้กำหนดการความยาวคลื่นของแสงและวิธีการประมวลผลข้อมูลสมองของเราเกี่ยวกับ wavelength.There มีแผนการมากมายสำหรับการจัดหมวดหมู่สีและในส่วนของพวกเขาบางสีจะมีการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานมากขึ้นหรือหลักกว่าคนอื่น ๆ . ในหลายเหล่านี้สีรูปแบบการพล็อตในวงกลม แต่รูปแบบวงกลมไม่ได้มีพื้นฐานใด ๆ เลยในคุณสมบัติทางกายภาพของแสงแทนพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการที่สมองของเราจัดการกับสี สถานการณ์นี้จะค่อนข้างแตกต่างจากเพลงตัวอย่างเช่นในขณะที่บันทึกที่ประกอบด้วยดนตรี, คอร์ดหรือท่วงทำนองแบกความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ที่ชัดเจนให้กับแต่ละอื่น ๆ .
แม้เมื่อเรารู้ว่าบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับเม็ดสีในสายตาของเราที่ตอบสนองต่อแสง, การรับรู้ของเรา สียังคงลึกลับ แสงที่เราจะเรียกสีแดงมีความยาวคลื่นอย่างมากนานกว่าจุดสูงสุดของกรวยความยาวคลื่นที่ยาวที่สุด มีอะไรเพิ่มเติมไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับสเปกตรัมที่มองเห็นเพื่อแสดงให้เห็นว่าทำไมบางสีควรจะเสริมให้กับคนอื่น ๆ ทั้งในแง่ศิลปะที่พวกเขาดูดีเมื่อ adjecent กับแต่ละอื่น ๆ หรือใน Newtonisn sens ว่าเมื่อผสมเข้าด้วยกันพวกเขาให้ผิวขาว.
ที่น่าแปลกใจมากที่สุด สิ่งที่เกี่ยวกับการรับรู้ของเราเป็นสีที่เป็นผลสะท้อนจากความเป็นจริงมันมักจะแสดงเป็นวงกลมสีดูเหมือนว่าจะในรูปแบบชนิดของความต่อเนื่องปิดบาง perceptually ต่อเนื่องการจัดลำดับจากสีแดงผ่านส้ม, สีเขียวและสีฟ้าเป็นสีม่วงแล้วกลับได้อย่างราบรื่น เป็นสีแดงอีกครั้งในขณะที่ร่างกายมีอย่างต่อเนื่องระหว่างที่ยาวที่สุดความยาวคลื่นแสงสีแดงที่เราสามารถมองเห็นและสั้นที่สุดความยาวคลื่นแสงสีฟ้า.
แม้จะมีความสัมพันธ์เชิงเส้นอย่างต่อเนื่องระหว่างสีและความยาวคลื่นมานานหลายศตวรรษคนข้ามวัฒนธรรมมีความเห็นว่าสีบาง ควรพิจารณาที่โดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ : สีแดงสีเหลืองและสีฟ้ามักจะได้รับการพิจารณา "หลัก." (ที่ทำงานสำหรับ pigment.When เรากำลังพูดถึงแสง, สีแดง, สีฟ้าและสีเขียวพรรค.) นอกจากนี้เรายังยอมรับว่าคู่หนึ่งของ สีเม็ดสีที่จะประกอบในการที่เมื่อผสมพวกเขาให้สีเทาสีแดงและสีเขียว, สีเหลืองและสีม่วง, สีฟ้าและ orange.Again มีอะไรที่เกี่ยวกับคลื่นความถี่เชิงเส้นที่จะคาดการณ์หรือการสนับสนุนแม้ทั้งสองนี้ ideas.The เหตุผลพื้นฐานสำหรับ ทั้งความต่อเนื่องของประสบการณ์ที่มีสีสันและ complementarity ภายในเป็นเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ผมให้ความสามารถในการมองเห็นสีแดง - ความจริงที่ว่าระบบการมองเห็นของเราเปรียบเทียบสัญญาณจากสามคำอื่น ๆ cones.In ในกระแสการประมวลผลสี, ปัจจัยการผลิต จากการเรียนที่แตกต่างกันของกรวยทำหน้าที่ในการ opponency กับแต่ละอื่น ๆ ในขั้นตอนต่อมาของการประมวลผล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อีกระดับของการประมวลผลสีล้อมรอบผล
เมื่อคุณเข้าใจธรรมชาติของแสง , คุณอาจจะคาดหวังว่า ความเข้าใจการรับรู้สี จะง่าย แต่ก็ไม่ได้ แม้ ไอแซก นิวตัน ที่ทำให้การค้นพบบางอย่างที่ลึกซึ้งที่สุดเกี่ยวกับธรรมชาติของแสง , คําว่า " determind . . ด้วยโหมดอะไรหรือการกระทำแสง produceth ในจิตใจของเรา phantasms สีไม่ easies "
ในขณะที่แสงที่เป็นองค์กรทางกายภาพ เป็นสีที่เรียงต่อกัน perception-a ของความยาวคลื่นของแสงและวิธีสมองของเรากระบวนการข้อมูลเกี่ยวกับความยาวคลื่น มีรูปแบบมากมายสำหรับการแยกแยะสี และส่วนใหญ่ของพวกเขาบางสีถือว่าเป็นพื้นฐาน เพิ่มเติม หรือ หลัก กว่าคนอื่น ๆ หลายเหล่านี้รูปแบบสีเป็นจุดเป็นวงกลมแต่แบบกลมไม่มีพื้นฐานใด ๆที่ทั้งหมดในคุณสมบัติทางกายภาพของแสงแทน พวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงวิธีจัดการสมองของเราด้วยสี สถานการณ์นี้จะค่อนข้างแตกต่างจากเพลง , ตัวอย่างเช่นในขณะบันทึกที่ประกอบด้วยฮาร์มอนิ , คอร์ด , ความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรือดี้หมีชัดเจนกับแต่ละอื่น ๆ .
แม้เมื่อเรารู้บางอย่างเกี่ยวกับสีในดวงตาของเราที่ตอบสนองต่อแสง , การรับรู้ของเราสียังคงลึกลับ แสงเราก็เรียกสีแดงมีความยาวคลื่นมากเกินจุดสูงสุดของกรวยที่ความยาวคลื่นที่ยาวที่สุด เกิดอะไรขึ้น ไม่มีอะไรเกี่ยวกับสเปกตรัมที่มองเห็นว่าทำไมสีบางควรเสริมจากคนอื่นทั้งในแง่ของศิลปะที่พวกเขาดูดีเมื่อ adjecent กับแต่ละอื่น ๆหรือใน newtonisn ซองส์ เมื่อผสมเข้าด้วยกันจะทำให้ขาว
สิ่งที่น่าแปลกใจมากที่สุดเกี่ยวกับการรับรู้ของเราของสีว่า สะท้อนให้เห็นโดยความเป็นจริงมันมักจะแสดงเป็นวงกลม สีเหมือนรูปบางชนิดต่อเนื่องรับรูด , ต่อเนื่องจากผ่านเกรดสีแดง สีส้ม สีเขียวและสีฟ้ากับม่วงแล้วราบรื่นกลับมาแดงอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายไม่มีความต่อเนื่องระหว่างที่ความยาวคลื่นแสงแดงที่เราสามารถมองเห็นและที่ความยาวคลื่นแสงสีฟ้า .
แม้จะต่อเนื่องความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างสีและความยาวคลื่น สำหรับศตวรรษที่ผู้คนข้ามวัฒนธรรมได้เห็นด้วยว่าสีบางควรพิจารณาโดดเด่นกว่าอื่น ๆ : สีแดงสีเหลืองและสีฟ้ามักจะถือว่า " หลัก " ( เหมาะสำหรับเม็ดสี เมื่อเรากำลังพูดถึงแสง สีแดง สีน้ำเงิน และสีเขียวเป็นสีหลัก ) นอกจากนี้เรายังยอมรับว่า บางคู่สีรงควัตถุจะประกอบในที่เมื่อผสมพวกเขาให้สีเทาสีแดงและสีเขียว สีเหลือง สีม่วง สีฟ้า และสีส้ม อีกมีอะไรเกี่ยวกับเส้น สเปกตรัมที่ จะคาดการณ์ หรือแม้แต่สนับสนุนให้ความคิดเหล่านี้เหตุผลสำหรับความต่อเนื่องของสีที่ประสบการณ์และข้อมูลภายในของตนเป็นเหมือนผมให้เร็วกว่านี้ สำหรับความสามารถในการดูแดง - ความจริงที่ว่าระบบการมองเห็นของเราเปรียบเทียบสัญญาณจากสามของกรวย ในคำอื่น ๆในการประมวลผลสีสายน้ำ กระผมจากชั้นเรียนที่แตกต่างกันของกรวยแสดงการขัดขวางแต่ละ อื่น ๆที่ตามมาขั้นตอนของการประมวลผล .