Another popular theory of the histo

Another popular theory of the history of vegetable carving is that it originates in Thailand. It started during the Loi Kratong festival in the 14th century. During Loi Kratong, rafts are individually decorated using many objects, including banana leaves and flowers.

In the year 1364, one of King Phra Ruang’s servants, Nang Noppamart, had the desire to create a unique decoration for her raft. Nang carved a flower from a vegetable using a real flower as a pattern. She carved a bird as well and set it beside the flower. Using these carvings, she created a raft that stood out above the rest. King Phra Ruang was impressed by the grace and beauty of the carving and decreed that every woman should learn this new art







As the centuries passed, enthusiasm for this art waxed and waned. In 1808, King Rama II loved vegetable carving so much so that he wrote poetry about it. However, during the 1932 revolution in Thailand, appreciation for vegetable carving died down. In order to revive interest, it is taught from the age of 11 in primary schools through secondary school in Thailand. Optional courses are also offered in universities throughout Thailand.[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีนิยมอื่นประวัติศาสตร์การแกะสลักเป็นที่มีต้นกำเนิดในประเทศไทย จะเริ่มในช่วงเทศกาลลอยกระทงในศตวรรษที่ 14 ในช่วงวันลอยกระทง แพทีตกแต่งใช้วัตถุมาก ใบกล้วยและดอกไม้ในปี 8 เมษายนพ.ศ. 1907 หนึ่งของข้าราชการของกษัตริย์พระเรือง นางนพมาศ มีความปรารถนาที่จะสร้างตกแต่งสำหรับแพของเธอ นางแกะสลักดอกไม้จากผักโดยใช้ดอกไม้จริงเป็นรูปแบบ เธอแกะสลักนกเป็นอย่างดี และตั้งอยู่ดอกไม้ ใช้แกะสลักเหล่านี้ เธอสร้างแพที่ยืนเหนือเหลือออก พระคุณและความสวยงามของการแกะสลัก และ decreed ว่า ผู้หญิงทุกคนควรเรียนรู้นี้ใหม่สมเด็จพระเรืองศิลป์ขณะที่ผ่าน ความกระตือรือร้นนี้ศิลปะ waxed และ waned ใน 1808 รามรักผักแกะสลักมากที่เขาเขียนบทกวี อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการปฏิวัติปี 1932 ในประเทศไทย ขอบคุณสำหรับแกะสลักผักตายลง เพื่อฟื้นฟูดอกเบี้ย มันจะสอนจากอายุ 11 โรงเรียนประถมถึงมัธยมในประเทศไทย ยังมีเสนอหลักสูตรเพิ่มเติมในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อีกทฤษฎีที่เป็นที่นิยมของประวัติศาสตร์ของการแกะสลักผักก็คือว่ามันมีต้นกำเนิดในประเทศไทย มันเริ่มต้นในช่วงเทศกาลประเพณีลอยกระทงในศตวรรษที่ 14 ในช่วงประเพณีลอยกระทง, แพมีการตกแต่งโดยใช้วัตถุจำนวนมากรวมทั้งใบตองและดอกไม้ในปี 1364 ซึ่งเป็นหนึ่งในคนรับใช้กษัตริย์พระร่วงของนาง Noppamart มีความปรารถนาที่จะสร้างการตกแต่งไม่ซ้ำกันสำหรับแพของเธอ นางแกะสลักดอกไม้จากผักโดยใช้ดอกไม้จริงตามรูปแบบ เธอแกะสลักนกเป็นอย่างดีและตั้งอยู่ด้านข้างดอกไม้ โดยใช้แกะสลักเหล่านี้เธอสร้างแพที่ยืนออกไปเหลือ กษัตริย์พระร่วงรู้สึกประทับใจกับความสง่างามและความงามของการแกะสลักและมีคำสั่งว่าผู้หญิงทุกคนควรเรียนรู้ศิลปะใหม่นี้เป็นศตวรรษที่ผ่านความกระตือรือร้นในการศิลปะนี้ขี้ผึ้งและจางหาย ใน 1808, ครั้งที่สองรัชกาลที่รักการแกะสลักผักให้มากเพื่อที่เขาเขียนบทกวีเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามในระหว่างการปฏิวัติ 1932 ในประเทศไทยขอบคุณสำหรับการแกะสลักผักเสียชีวิตลง เพื่อที่จะฟื้นฟูความสนใจก็จะสอนตั้งแต่อายุ 11 ในโรงเรียนประถมศึกษาผ่านโรงเรียนมัธยมในประเทศไทย หลักสูตรถ้าต้องการจะนำเสนอยังอยู่ในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทย. [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อีกทฤษฎีที่เป็นที่นิยมของประวัติศาสตร์ของผักที่ เกิดขึ้นในประเทศไทย มันเริ่มตอนลอยกระทงในศตวรรษที่ 14 ลอยกระทงแพเป็นรายบุคคล , ตกแต่งด้วยวัตถุมากมาย อาทิ ใบกล้วยและดอกไม้ . . .

ในปี 1267 , หนึ่งของข้าราชการ พระร่วงกษัตริย์นาง noppamart มีความปรารถนาที่จะสร้างการตกแต่งที่ไม่ซ้ำกันสำหรับแพของเธอนางแกะสลักดอกไม้จากผักใช้ดอกไม้จริงเป็นรูปแบบ เธอสลักนกได้เป็นอย่างดี และตั้งข้างดอกไม้ ใช้แกะสลักเหล่านี้ที่เธอสร้างขึ้นแพที่โดดเด่นเหนือที่เหลือ พระร่วง ประทับใจโดยพระคุณและความงามของการแกะสลักและการกำหนดว่า ผู้หญิงทุกคนควรเรียนรู้







ศิลปะใหม่นี้เป็นศตวรรษผ่านไป ความกระตือรือร้นของศิลปะนี้และแว็กซ์ที่ .1808 ใน รัชกาลที่ 2 รักลิขิตมากจนเขาเขียนบทกวีเกี่ยวกับผัก อย่างไรก็ตาม ในช่วง พ.ศ. 2475 การปฏิวัติในประเทศไทย ชื่นชมผักตายลง เพื่อรื้อฟื้นความสนใจ มันถูกสอนจากอายุ 11 ในโรงเรียนประถมศึกษาที่ผ่านโรงเรียนมัธยมในประเทศไทย วิชาเลือกยังเสนอในมหาวิทยาลัยทั่วไทย [ 1 ]