สถานที่ท่องเที่ยว
1. อุทยานแห่งชาติกูนุงมูลู (Gunung Mulu National Park)
คงไม่เกินจริงเลยสักนิด หากจะบอกว่าอุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู รัฐซาราวัก คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่งดงามที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยหินปูนที่เรียงรายเป็นรูปแปลกตาสวยงามราวกับงานศิลปะ ทว่าเกิดขึ้นมาจากฝีมือของธรรมชาติล้วน ๆ รวมทั้งถ้ำซาราวัก ถ้ำใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใหญ่พอจะสามารถใช้จุเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 40 ลำได้สบาย ๆ
2. ลังกาวี (Langkawi)
ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมาเลเซีย บริเวณทะเลอันดามัน คือ ที่ตั้งของหมู่เกาะลังกาวี ที่ประกอบไปด้วยเกาะมากถึง 99 เกาะ ซึ่งอวดโฉมความงดงามตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นชายหาด ป่าฝน ป่าชายเลน และภูเขา โดยปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น โรงแรมและร้านอาหารไปเปิดมากขึ้นแล้ว ช่วยให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวครบวงโคจรเลยทีเดียว
หมู่เกาะกว่าร้อยเกาะอันเป็นที่เลื่องลือด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ มากกว่าไปกว่านั้นลังกาวียังมีหมู่เกาะลักษณะพิเศษที่เป็นหินอ่อนทั้งเกาะอยู่ถึง 36 เกาะ ลังกาวีถือเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมทั้งของชาวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้แก่ จัตุรัสนกอินทรีย์ อุทยานดอกไม้ตามันลาเจนด้า (Taman lagenda) ซึ่งนอกจากจะเป็นที่รวบรวมพันธุ์ไม้นานาชนิด มีอุโมงค์ต้นไม้ยาว 15 เมตรอันสวยงามแล้ว สวนแห่งนี้ยังมีส่วนที่จัดเป็นสวนใต้น้ำ จัดแสดงปลาและพืชใต้น้ำในเขตของลังกาวีอีกด้วย หากยังตื่นตาตื่นใจไม่พอ ลังกาวีก็มีพิพิธภัณฑ์ทางน้ำ-อะควาเรียม-โลกใต้น้ำ (Langawi Under Water World) อุทยานสวนนกกลางแจ้ง (Langawi Bird Paradise) หรือจะไปชมพิพิธภัณฑ์ข้าวและนาข้าวที่ลามันปาดีลังกาวี (Laman Padi Langawi) เยี่ยมชมพระราชวังพักร้อนลังกาวี (Summer Palace) ไปช้อปปิ้งและดูการแสดงพื้นบ้านพร้อมชิมอาหารชาวเกาะกันที่หมู่บ้านโอเรียลเต็ล (Langawi Oriental Village) นั่งเคบิ้ลคาร์ชมวิวจากมุมสูง ไปชมความงามของน้ำตกเจ็ดบ่อ (Seven Falls) และน้ำตกทุเรียน (Durian Perangin Waterfall) ไปผจญภัยล่องเรือสำรวจถ้ำกันที่อุทยานสุไหงคีลิม (Sungai Kilim) ชมพิพิธภัณฑ์ของที่ระลึกและบรรณาการจากผู้นำทั่วโลกกันที่ แกลเลอเรียเปอร์ดานา (Galeria Perdana) และพักผ่อนรับลมทะเลกันที่ชายหาดแหลมตันหยงรู (Tanjung Rhu)
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ฤดูท่องเที่ยวของลังกาวีจะเริ่มต้นที่เดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน เพราะเป็นช่วงที่ทะเลสงบไม่มีคลื่นลมและอากาศเย็นสบาย
3. ทามาน เนการา (Taman Negara)
ที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นป่าฝนเขตร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ดังนั้น เรื่องความอุดมสมบูรณ์ที่ได้รับการดูแลมาเป็นเวลาช้านานคงเชื่อถือได้แน่ ๆ ทำให้ที่นี่ เต็มไปด้วยพืชหายากนานาพันธุ์ และสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด รวมไปถึงเสือมาลายัน ช้างเอเชีย และกระซู่ ทำให้ ทามาน เนการา เป็นสถานที่โปรดของคนรักการผจญภัยใกล้ชิดกับสัตว์ป่า
4. กัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur)
ไม่ต่ำกว่า 200 ปีก่อน กัวลาลัมเปอร์เคยเป็นแค่เมืองขุดเหมืองของมาเลเซียเท่านั้น มันเป็นเมืองที่เงียบเหงา ผิดกับปัจจุบันที่มีผู้คนพลุกพล่านเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทันสมัย ที่คนรักการสังสรรค์ต้องมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการช้อป ทานของอร่อย หรือชมวิวสูงบนตึกระฟ้า เชื่อเถอะว่าที่นี่ตอบโจทย์ของคุณได้หมดแน่นอน
5. ปีนัง (Penang)
เกาะปีนังบริเวณช่องแคบมะละกา ทางตอนใต้ของชายฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือประเทศมาเลเซีย คือ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเมืองจอร์จทาวน์บนเกาะแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่างหนึ่งก็ว่าได้ แถมจากการที่มันเป็นแหล่งขนส่งติดต่อกับชาวต่างชาติ ยังทำให้ปีนังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายอีกต่างหาก
เมืองสุดทันสมัยแห่งหนึ่งของมาเลเซีย แหล่งช้อปปิ้งในดวงใจของใครหลายคน อีกทั้งยังเป็นไชน่าทาวน์ขนาดย่อมๆ ปีนังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาช้านานไม่ต่างจากมะละกา ในทุกปีราวเดือนพฤษภาคม จะมีเทศกาลการแข่งขันเรือมังกรนานาชาติที่ถือว่าเป็นเทศกาลสำคัญและมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามายังปีนังเพื่อเข้าร่วมเทศกาลเป็นจำนวนมาก ในปัจจุบันเป็นเมืองชายทะเลและเมืองตากอากาศขึ้นชื่อ
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้แก่ ถนนย่านเมืองเก่าจอร์จทาวน์ (Street of George Town) ที่มีสถาปัตยกรรมอาคารยุโรปโบราณอันสวยงามและยังเป็นเขตเมืองเขตแรกของปีนังอีกด้วย เยือนป้อมฟอร์ตคอร์นวอลลิส (Port Cornwallis) ป้อมปราการด่านแรกของปีนังในอดีต ชมการจัดแสดงวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวปีนังกันที่พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ปีนัง (Penang Museum and Art Gallery) ขึ้นเขาชมวิวที่ปีนัง ฮิลล์ (Penang Hill) ชมสถาปัตยกรรมจีนโบราณและสักการะเทพที่ศาลจีนเก่าแก่ คูกงสี (Khoo Kongsi) ไหว้พระรับพรที่วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ที่มีสถาปัตยกรรมจีนผสมพม่าและไทย วัดเขาเต่าหรือเค็ก ลก ซี (Kek Lok Si-Turtle Temple) เยี่ยมชมคฤหาสน์อายุกว่าร้อยปีของคหบดีผู้มั่งคั่งในอดีต คฤหาสน์เฉิงฟัตเต๋อ (Cheong Fatt Tze Mansion) ชมความงามของมัสยิดอันโดดเด่นของเกะปีนัง มัสยิดกัปปิตันเคอลิง (Kapitan Kelling Mosque) และแน่นอนว่ามาปีนังทั้งทีต้องไปเยือนหาดชื่อดัง บาตู เฟอร์ริงงี (Batu Ferringhi) และหาดเตลุก บาฮัง (Teluk Bahang) ไม่ไกลจากหาดตาลุก บาฮังก็เป็นที่ตั้งของฟาร์มผีเสื้อ (Butterfly Farm) ของเกาะอีกด้วย
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ปีนังสามารถเที่ยวได้เกือบทั้งปี ยกเว้นในช่วงฤดูมรสุมที่มีฝนตกชุกและเป็นช่วงเกิดไฟป่าในราวเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน
6. กูชิง (Kuching)
เมืองที่ใหญ่ที่สุดในเกาะบอร์เนียว เป็นที่พักที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจจะอยู่ระยะยาว และเที่ยวชมมาเลเซียให้ทั่วสักหน่อย คุณสามารถแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ เช่น วัดโทวเปกกง วัดจีนที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่ที่สุด หรือ เดวาน อันดันกัน เนเกรี อาคารราชการที่มีรูปทรงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
7. โคตา คินาบาลู (Kota Kinabalu)
บริเวณเมืองหลวงของรัฐซาบาห์นี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมาย โดยเฉพาะอุทยานสัตว์ป่า ลอค คาวี และอุทยานแห่งชาติคินาบาลู ซึ่งมีสัตว์ป่าอย่างลิงจมูกยาว, ลิงอุรังอุตัง, เสือ และช้าง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสไตล์เอาท์ดอร์ให้ทำมากมาย อาทิ การตั้งแคมป์, เดินป่า, ปีนเขา หรือล่องเรือก็มีครบหมด
8. คาเมรอน ไฮแลน