showing that 12% of the patients fa

showing that 12% of the patients favored the package currently
available in supermarkets. This result might be explained by the
different designs and contents of the two packages, which are also
important aspects in rating packaging (Duizer et al., 2009).
Guidelines for packaging manufacturers recommend that 95% of
the healthy consumer population should be able to handle the
products effectively, and 80% of patients with hand disorders
should be able to open the containers (Berns, 1981; Marks et al.,
2012; Schreib and Liebmann, 2011; Yoxall et al., 2006). In the present
study, more than 95% of the patients were able to open the
technically modified Type B packages, which is considerably higher

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แสดงว่า 12% ของผู้ป่วยชื่นชอบแพคเกจอยู่พร้อมใช้งานในซูเปอร์มาร์เก็ต ผลนี้อาจจะอธิบายโดยการออกแบบและเนื้อหาของสองแพคเกจ นี้แง่มุมที่สำคัญในการจัดอันดับการบรรจุภัณฑ์ (Duizer et al., 2009)แนวทางสำหรับการแนะนำของผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ 95%ประชากรผู้บริโภคมีสุขภาพดีควรจะสามารถจัดการกับการผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 80% ของผู้ป่วยด้วยโรคมือต้องการเปิดภาชนะบรรจุ (เบิร์นส์ 1981 เครื่อง et al.,2012 Schreib และ Liebmann, 2011 Yoxall และ al., 2006) ในปัจจุบันศึกษา มากกว่า 95% ของผู้ป่วยต้องการเทคนิคการปรับเปลี่ยนแพคเกจชนิด B ซึ่งจะสูงมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แสดงให้เห็นว่า 12%
ของผู้ป่วยที่ได้รับการสนับสนุนแพคเกจในขณะนี้ที่มีอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต ผลที่ได้นี้อาจจะอธิบายได้ด้วยการออกแบบที่แตกต่างกันและเนื้อหาของสองแพคเกจที่ยังมีแง่มุมที่สำคัญในการบรรจุภัณฑ์คะแนน(Duizer et al., 2009). แนวทางในการผลิตบรรจุภัณฑ์ขอแนะนำว่า 95% ของประชากรผู้บริโภคมีสุขภาพดีควรจะสามารถจัดการกับผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและ 80% ของผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของมือควรจะสามารถเปิดภาชนะบรรจุ(Berns 1981; Marks, et al. 2012; Schreib และ Liebmann 2011. Yoxall et al, 2006) ในปัจจุบันการศึกษามากกว่า 95% ของผู้ป่วยก็สามารถที่จะเปิดการปรับเปลี่ยนทางเทคนิคประเภทแพคเกจ B ซึ่งเป็นที่สูงขึ้นมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แสดงให้เห็นว่าร้อยละ 12 ของผู้ป่วยที่ชื่นชอบแพคเกจขณะนี้
ที่มีอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต ผลที่ได้นี้อาจอธิบายโดย
การออกแบบที่แตกต่างและเนื้อหาของทั้งสองชุด ซึ่งเป็นลักษณะที่สำคัญในบรรจุภัณฑ์รวม (
duizer et al . , 2009 ) .
แนวทางสำหรับผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แนะนำว่า 95% ของ
ประชากรสุขภาพของผู้บริโภคควรจะสามารถที่จะจัดการกับ
ผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ 80% ของผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของมือ
น่าจะเปิดภาชนะบรรจุ ( เบิร์นส์ , 1981 ; เครื่องหมาย et al . ,
2012 ; และ schreib ลิบเมิ่น , 2011 ; yoxall et al . , 2006 ) ในการศึกษา
มากกว่า 95% ของผู้ป่วยสามารถเปิด
เทคนิคแก้ไขประเภท B แพคเกจซึ่งเป็นระดับสูง