Teaching ListeningListening is the

Teaching Listening

Listening is the language modality that is used most frequently. It has been estimated that adults spend almost half their communication time listening, and students may receive as much as 90% of their in-school information through listening to instructors and to one another. Often, however, language learners do not recognize the level of effort that goes into developing listening ability.

Far from passively receiving and recording aural input, listeners actively involve themselves in the interpretation of what they hear, bringing their own background knowledge and linguistic knowledge to bear on the information contained in the aural text. Not all listening is the same; casual greetings, for example, require a different sort of listening capability than do academic lectures. Language learning requires intentional listening that employs strategies for identifying sounds and making meaning from them.

Listening involves a sender (a person, radio, television), a message, and a receiver (the listener). Listeners often must process messages as they come, even if they are still processing what they have just heard, without backtracking or looking ahead. In addition, listeners must cope with the sender's choice of vocabulary, structure, and rate of delivery. The complexity of the listening process is magnified in second language contexts, where the receiver also has incomplete control of the language.

Given the importance of listening in language learning and teaching, it is essential for language teachers to help their students become effective listeners. In the communicative approach to language teaching, this means modeling listening strategies and providing listening practice in authentic situations: those that learners are likely to encounter when they use the language outside the classroom.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสอนฟังฟังเป็น modality ของภาษาที่ใช้บ่อยที่สุด มีการประมาณว่า ผู้ใหญ่ใช้เวลาเกือบครึ่งของพวกเขาสื่อสารฟัง และนักเรียนอาจได้รับมากถึง 90% ของข้อมูลในโรงเรียนผ่านการฟังอาจารย์ และอื่น มักจะ อย่างไรก็ตาม เรียนภาษารู้จักระดับของความพยายามที่จะเข้าสู่การพัฒนาความสามารถในการฟังเรื่องการรับ และบันทึกเข้าฟัง ผู้ฟังกำลังเกี่ยวข้องกับตัวเองในการตีความสิ่งที่ได้ยิน นำตนเองพื้นหลังความรู้และความรู้ทางภาษาในข้อมูลที่อยู่ในข้อความที่ฟัง ฟังไม่เป็นเหมือนกัน ทักทายสบาย ๆ เช่น ต้องการเรียงลำดับที่แตกต่างของความสามารถในการฟังมากกว่าการบรรยายทางวิชาการ เรียนภาษาต้องตั้งใจฟังที่ใช้กลยุทธ์สำหรับการกำหนดเสียง และความหมายจากการทำฟังเกี่ยวข้องกับผู้ส่ง (เป็นบุคคล วิทยุ โทรทัศน์), ข้อความ และตัวรับ (ฟัง) ผู้ฟังมักจะต้องประมวลผลข้อความเป็นมา แม้ว่าพวกเขาจะยังคงกำลังประมวลผลสิ่งที่ได้เพียงยิน โดย backtracking หรือมองไปข้างหน้า นอกจากนี้ ผู้ฟังต้องรับมือกับผู้เลือกคำศัพท์ โครงสร้าง และอัตราการจัดส่ง ความซับซ้อนของกระบวนการรับฟังจะขยายในบริบทภาษาสอง ซึ่งยังได้ควบคุมที่สมบูรณ์ของภาษาให้ความสำคัญการฟังภาษาเรียน รู้ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครูสอนภาษาให้คนฟังมีประสิทธิภาพของนักเรียนเป็นการ วิธีการสื่อสารเพื่อการสอนภาษา ซึ่งหมายความว่า แบบจำลองกลยุทธ์การรับฟังและให้ฟังฝึกในสถานการณ์จริง: ผู้ที่เรียนมักจะพบเมื่อใช้ภาษานอกห้องเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเรียนการสอนการฟังการฟังเป็นกิริยาภาษาที่ใช้บ่อยที่สุด มีการประเมินว่าผู้ใหญ่ใช้เวลาเกือบครึ่งเวลาฟังสื่อสารของพวกเขาและนักเรียนอาจได้รับมากที่สุดเท่าที่ 90% ของข้อมูลในโรงเรียนของพวกเขาผ่านการฟังอาจารย์และกับอีกคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามบ่อยครั้งที่ผู้เรียนภาษาไม่รู้จักระดับของความพยายามที่จะเข้าสู่การพัฒนาความสามารถในการฟัง. ห่างไกลจากอดทนรับและบันทึกการป้อนข้อมูลเกี่ยวกับหูฟังอย่างแข็งขันเกี่ยวข้องกับตัวเองในการตีความของสิ่งที่พวกเขาได้ยินเสียงที่นำความรู้พื้นฐานของตัวเองและความรู้ทางภาษาเพื่อ ทนอยู่กับข้อมูลที่มีอยู่ในข้อความเกี่ยวกับหู ไม่ได้ฟังทั้งหมดเดียวกัน; ทักทายสบาย ๆ ตัวอย่างเช่นต้องมีการจัดเรียงที่แตกต่างกันของความสามารถในการฟังกว่าการบรรยายทางวิชาการ การเรียนรู้ภาษาต้องฟังความตั้งใจที่มีพนักงานกลยุทธ์สำหรับการระบุเสียงและทำให้ความหมายจากพวกเขา. ฟังเกี่ยวข้องกับผู้ส่ง (บุคคลวิทยุโทรทัศน์), ข้อความและตัวรับสัญญาณ (ฟัง) ผู้ฟังมักจะต้องประมวลผลข้อความที่พวกเขามาถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังคงการประมวลผลสิ่งที่พวกเขาเคยได้ยินเพียงโดยไม่ต้องย้อนรอยหรือมองไปข้างหน้า นอกจากนี้ผู้ฟังจะต้องรับมือกับทางเลือกของผู้ส่งของคำศัพท์โครงสร้างและอัตราของการส่งมอบ ความซับซ้อนของกระบวนการการฟังเป็นภาพขยายในบริบทภาษาที่สองที่รับนอกจากนี้ยังมีการควบคุมที่ไม่สมบูรณ์ของภาษา. ให้ความสำคัญของการฟังในการเรียนรู้ภาษาและการเรียนการสอนก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับครูผู้สอนภาษาเพื่อช่วยให้นักเรียนของพวกเขากลายเป็นผู้ฟังที่มีประสิทธิภาพ ในวิธีการสื่อสารเพื่อการเรียนการสอนภาษาที่นี้หมายถึงกลยุทธ์การสร้างแบบจำลองการฟังและการให้การฝึกการฟังในสถานการณ์ที่แท้จริง: ผู้ที่ผู้เรียนมักจะพบเมื่อพวกเขาใช้ภาษานอกห้องเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสอนฟังฟังเป็นภาษา กิริยา ที่ใช้บ่อยที่สุด มีการประเมินว่าผู้ใหญ่ใช้เวลาเกือบครึ่งของการสื่อสาร การฟัง นักเรียนอาจได้รับมากที่สุดเท่าที่ร้อยละ 90 ของพวกเขาในข้อมูลสถานศึกษาผ่านฟังอาจารย์ และอีกคนหนึ่ง บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม การเรียนภาษาไม่ได้ตระหนักถึงระดับของความพยายามที่จะเข้าสู่การพัฒนาความสามารถในการฟัง .ไกลจากอดทนรับและบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับหูผู้ฟังมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการตีความสิ่งที่พวกเขาได้ยิน นำความรู้ และความรู้ทางภาษาศาสตร์มาไว้ในข้อมูลที่มีอยู่ในข้อความเกี่ยวกับหู . ไม่ได้ฟังเหมือนกัน สวัสดี สบาย ๆ ตัวอย่างเช่น ต้องการที่แตกต่างกันประเภทของความสามารถในการฟังมากกว่าการบรรยายทางวิชาการ การเรียนภาษาต้องตั้งใจฟังที่ใช้กลยุทธ์หาเสียงและสร้างความหมายจากพวกเขาฟังเพลงเกี่ยวข้องกับผู้ส่ง ( บุคคล , วิทยุ , โทรทัศน์ ) , ข้อความ , และรับ ( ฟัง ) ผู้ฟังมักจะต้องประมวลผลข้อความที่พวกเขามา แม้ว่าพวกเขาจะยังคงประมวลผลสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินโดยไม่ต้องย้อนรอย หรือ มองไปข้างหน้า นอกจากนี้ ผู้ฟังจะต้องรับมือกับการเป็นผู้ส่งทางเลือกของคำศัพท์ โครงสร้าง และอัตราของการส่ง ความซับซ้อนของกระบวนการจะชัดเจนในบริบททางภาษา การฟัง ที่สอง ที่ รับ ยัง มีการควบคุมที่สมบูรณ์ของภาษาให้ความสำคัญของการฟังในการเรียนรู้ภาษาและการเรียนการสอนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับครูภาษาเพื่อช่วยให้นักเรียนเป็นผู้ฟังที่มีประสิทธิภาพ ในแนวทางการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร หมายถึง กลวิธีในการฟังและการให้การฝึกทักษะการฟังในสถานการณ์จริง : ที่ผู้เรียนมักพบเมื่อพวกเขาใช้ภาษานอกห้องเรียน