Herpes simplex virusIn the past, si

Herpes simplex virus
In the past, situations that produced cold exposure (eg, chilly wind, cold air conditioning, or driving with the car window down) were considered to be the only triggers for Bell palsy. Several authors now believe, however, that the herpes simplex virus (HSV) is a common cause of Bell palsy, though a definitive causal relationship of HSV to Bell palsy may be difficult to prove because of the ubiquitous nature of HSV.

The hypothesis that HSV is the etiologic agent in Bell palsy holds that after causing primary infection on the lips (ie, cold sores), the virus travels up the axons of the sensory nerves and resides in the geniculate ganglion. At times of stress, the virus reactivates and causes local damage to the myelin.

This hypothesis was first suggested in 1972 by McCormick.[15] Autopsy studies have since shown HSV in the geniculate ganglion of patients with Bell palsy. Murakami et al performed polymerase chain reaction (PCR) assay testing on the endoneural fluid of the facial nerve in patients who underwent surgery for Bell palsy and found HSV in 11 of 14 cases.[16]

Additional support for a viral etiology was seen when intranasal, inactivated influenza vaccine was strongly linked to the development of Bell palsy.[17, 18] With those cases, however, it is not clear whether another component of the vaccine caused the paresis, which was then accompanied by a reactivation of HSV infection.

Additional causes
Besides HSV infection, possible etiologies for Bell palsy include other infections (eg, herpes zoster, Lyme disease, syphilis, Epstein-Barr viral infection, cytomegalovirus, human immunodeficiency virus [HIV], mycoplasma); inflammation alone; and microvascular disease (diabetes mellitus and hypertension). Bell palsy has also been known to follow recent upper respiratory infection (URI).[19, 20, 21, 22, 23, 24]

Bell palsy may be secondary to viral and/or autoimmune reactions that cause the facial nerve to demyelinate, resulting in unilateral facial paralysis.

A family history of Bell palsy has been reported in approximately 4% of cases. Inheritance in such cases may be autosomal dominant with low penetration; however, which predisposing factors are inherited is unclear.[25] The family history may also be positive for other nerve, nerve root, or plexus disorders (eg, trigeminal neuralgia) in siblings.[26] In addition, there are isolated reports of familial Bell palsy with neurologic deficits, including ophthalmoplegia[27] and essential tremor.[28] A rare form of familial Bell palsy has a predilection for juvenile females.[29]

Because there is a strong environmental predisposition to Bell palsy, due to the common viral etiology, a positive family history may or may not indicate a true genetic etiology.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไวรัสเริมในอดีต สถานการณ์ที่ผลิตแสงเย็น (เช่น ลมหนาว อากาศเย็น หรือขับรถกับหน้าต่างรถ) ได้รับการพิจารณาที่จะทริกเกอร์เฉพาะสำหรับเบลล์พิการ ผู้เขียนหลายตอนนี้เชื่อว่า อย่างไรก็ตาม ไวรัสเริม (HSV) เป็นสาเหตุของการพิการระฆัง ว่าที่ชัดเจนความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของ HSV การพิการเบลอาจจะยากต่อการพิสูจน์ลักษณะของ HSV อยู่ทุกหนแห่งสมมติฐานที่ว่า HSV แทน etiologic ในระฆังพิการถือว่า หลังจากเกิดการติดเชื้อหลักบนริมฝีปาก (ie เริม), ไวรัสเดินทางขึ้นนก็ของเส้นประสาทรับความรู้สึก และอยู่ในปมประสาทหลัง geniculate ในช่วงเวลาของความเครียด ไวรัสทำ และทำให้ท้องถิ่นเสีย myelin การสมมติฐานนี้ถูกแนะนำครั้งแรกในปี 1972 โดยแม็ก [15] ศึกษาชันสูตรพลิกศพมีตั้งแต่ HSV แสดงในปมประสาทหลัง geniculate ของผู้ป่วยพิการระฆัง อัลมุระกะมิร้อยเอ็ดดำเนินการทดสอบปฏิกิริยาลูกโซ่ (PCR) พอลิเมอเรสที่ทดสอบในน้ำ endoneural ของเส้นประสาทใบหน้าในผู้ป่วยที่ผ่านการทำศัลยกรรมระฆังพิการ และพบ HSV ใน 11 กรณีที่ 14 [16]สนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับสาเหตุไวรัสที่เห็นเมื่อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ intranasal ยกขอลิงค์การพัฒนาระฆังพิการ [17, 18] กับกรณีนี้ อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ชัดเจนว่าส่วนประกอบอื่นของวัคซีนเกิดอัมพฤกษ์ ที่แล้วพร้อมกับการเปิดใช้งานของการติดเชื้อ HSVสาเหตุที่เพิ่มเติมนอกจากการติดเชื้อ HSV, etiologies เป็นไปได้สำหรับเบลล์พิการรวมถึงการติดเชื้ออื่น ๆ (เช่น งูสวัด โรคลามย์ ซิฟิลิส ติดเชื้อไวรัสบารร์เอ็ป cytomegalovirus มนุษย์ไวรัสเอชไอวี[เอชไอวี] mycoplasma); อักเสบอยู่คนเดียว และ microvascular โรค (เบาหวานและความดันโลหิตสูง) ระฆังพิการได้ยังรับทราบเพื่อตามล่าบนทางเดินหายใจติดเชื้อ (URI) [19, 20, 21, 22, 23, 24]ระฆังพิการอาจจะรองไปปฏิกิริยาไวรัส หรือภูมิที่ทำให้หน้าหน้า demyelinate เกิดอัมพาตใบหน้าฝ่ายมีการรายงานประวัติครอบครัวของเบลล์พิการประมาณ 4% ที่ สืบทอดในกรณีดังกล่าวอาจเป็น autosomal โดดเด่น ด้วยการเจาะเกราะต่ำ อย่างไรก็ตาม predisposing ปัจจัยที่สืบทอดมาไม่ชัดเจน [25]ประวัติครอบครัวยังอาจมีค่าบวกสำหรับเส้นประสาท เส้นประสาทราก หรืออื่น ๆ ผิดปกติช่องท้อง (เช่น ประสาท trigeminal) พี่น้อง [26] นอกจากนี้ มีรายงานแยกของครอบครัวเบลล์พิการกับขาดดุลในยุค ophthalmoplegia [27] และสั่นที่สำคัญ [28] รูปหายากของครอบครัวเบลล์พิการได้กยงสำหรับเยาวชนหญิง [29]เนื่องจากมีการจูงใจสิ่งแวดล้อมแข็งแรงการพิการระฆัง เนื่องจากสาเหตุที่ไวรัสทั่วไป ประวัติครอบครัวเป็นบวกอาจ หรือไม่อาจระบุสาเหตุทางพันธุกรรมมีจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไวรัสเริม
ในอดีตที่ผ่านมาสถานการณ์ที่ผลิตการสัมผัสเย็น (เช่นลมเย็น, เครื่องปรับอากาศเย็นหรือขับรถกับรถหน้าต่างลง) ได้รับการพิจารณาให้เป็นทริกเกอร์เพียง แต่สำหรับเบลล์อัมพาต ผู้เขียนหลายคนในขณะนี้เชื่อว่าอย่างไรที่เชื้อไวรัสเริม (HSV) เป็นสาเหตุของ Bell อัมพาตแม้ว่าความสัมพันธ์เชิงสาเหตุที่ชัดเจนของ HSV กับหอระฆังอัมพาตอาจจะยากที่จะพิสูจน์เพราะธรรมชาติที่แพร่หลายของ HSV. สมมติฐานว่า HSV เป็นตัวแทนสาเหตุระฆังอัมพาตถือได้ว่าหลังจากที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อหลักบนริมฝีปาก (เช่นแผลเย็น) ไวรัสเดินทางขึ้นซอนของเส้นประสาทประสาทสัมผัสและอาศัยอยู่ในปมประสาทเข่า ในช่วงเวลาของความเครียดกระตุ้นไวรัสและทำให้เกิดความเสียหายในท้องถิ่นเพื่อไมอีลินได้. สมมติฐานนี้ได้รับการแนะนำครั้งแรกในปี 1972 โดยแมค. [15] การศึกษาได้แสดงให้เห็นการชันสูตรศพตั้งแต่ HSV ในปมประสาทเข่าของผู้ป่วยอัมพาตเบลล์ Murakami et al, ดำเนินโพลิเมอร์ปฏิกิริยาลูกโซ่ (PCR) การทดสอบการทดสอบในของเหลว endoneural ของเส้นประสาทบนใบหน้าในผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดสำหรับเบลล์อัมพาตและพบ HSV ใน 11 จาก 14 ราย. [16] การสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับสาเหตุของไวรัสที่เห็นเมื่อ intranasal วัคซีนไข้หวัดใหญ่ใช้งานได้รับการเชื่อมโยงอย่างยิ่งต่อการพัฒนาของเบลล์อัมพาต. [17, 18] กับกรณีดังกล่าว แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าส่วนประกอบของวัคซีนอื่นที่เกิดอัมพฤกษ์ซึ่งพร้อมแล้วโดยการเปิดของการติดเชื้อ HSV สาเหตุเพิ่มเติมนอกเหนือจากการติดเชื้อ HSV, สาเหตุที่เป็นไปได้สำหรับเบลล์อัมพาตรวมถึงการติดเชื้ออื่น ๆ (เช่นโรคเริมงูสวัดโรคซิฟิลิส Epstein-Barr ติดเชื้อไวรัส cytomegalovirus, เชื้อไวรัสเอดส์ [เอชไอวี] Mycoplasma); การอักเสบคนเดียว; และโรคหลอดเลือดฝอย (โรคเบาหวานและความดันโลหิต) เบลล์อัมพาตนอกจากนี้ยังได้รับทราบเพื่อปฏิบัติตามเมื่อเร็ว ๆ นี้การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน (URI). [19, 20, 21, 22, 23, 24] เบลล์อัมพาตอาจจะรองไวรัสและ / หรือการเกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองที่ทำให้เส้นประสาทบนใบหน้าเพื่อ demyelinate ผล ในอัมพาตใบหน้าข้างเดียว. ประวัติครอบครัวของเบลล์พิการได้รับการรายงานในเวลาประมาณ 4% ของกรณี มรดกในกรณีดังกล่าวอาจจะ autosomal เด่นด้วยการเจาะต่ำ; แต่ที่ปัจจัย predisposing ได้รับมาก็ไม่มีความชัดเจน. [25] ประวัติครอบครัวนอกจากนี้ยังอาจจะเป็นในเชิงบวกสำหรับเส้นประสาทอื่น ๆ รากประสาทหรือความผิดปกติของช่องท้อง (เช่นประสาท trigeminal) ในพี่น้อง. [26] รายงานนอกจากนี้ยังมีการแยกของ ครอบครัวเบลล์อัมพาตกับการขาดดุลทางระบบประสาทรวมทั้ง ophthalmoplegia [27] และอาการสั่นที่สำคัญ. [28] แบบที่หายากของครอบครัวเบลล์พิการมีความสมัครใจสำหรับสตรีเด็กและเยาวชน. [29] เนื่องจากมีความบกพร่องด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีกับหอระฆังอัมพาตเนื่องจาก สาเหตุจากเชื้อไวรัสที่พบบ่อยมีประวัติครอบครัวเป็นบวกอาจหรือไม่อาจบ่งชี้ถึงสาเหตุทางพันธุกรรมที่แท้จริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เริมไวรัสในอดีต สถานการณ์ที่ผลิตแสงเย็น ( เช่น หนาวเย็น ลม อากาศ หนาว หรือ ขับรถกับหน้าต่างรถลง ) เป็นทริกเกอร์สำหรับระฆังอัมพาต . ผู้เขียนเชื่อว่าหลาย , อย่างไรก็ตาม , ที่ไวรัสเริม ( HSV ) เป็นสาเหตุของอัมพาตเบลล์ แม้ว่าขาดตัวโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของการติดเชื้อให้เบลล์อัมพาตอาจจะยากที่จะพิสูจน์ เพราะธรรมชาติที่แพร่หลายของ HSV .สมมติฐานที่ HSV เป็นเจ้าหน้าที่ etiologic ระฆังอัมพาตถือว่าหลังจากที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อปฐมภูมิบนริมฝีปาก ( IE , เย็น sores ) , ไวรัสเดินทางขึ้นฉีดของเส้นประสาทรับความรู้สึกและอยู่ในปมประสาทเจนิคิวเลต . ในช่วงเวลาของความเครียด , ไวรัส reactivates และสาเหตุความเสียหายในประเทศไม .สมมติฐานนี้ถูกแนะนำในปี 1972 โดย McCormick . [ 15 ] การศึกษาการชันสูตรศพได้ตั้งแต่แสดง HSV ในปมประสาทเจนิคิวเลตของผู้ป่วยอัมพาตเบลล์ . มุราคามิ et al ) ปฏิกิริยาลูกโซ่ ( PCR ) โดยทดสอบบน endoneural ของเหลวของเส้นประสาทใบหน้าในผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดสำหรับระฆังอัมพาต และพบการติดเชื้อใน 11 14 ราย . [ 16 ]การสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับสาเหตุจากไวรัสเมื่อพบเห็น ซึ่งใช้วัคซีนไข้หวัดใหญ่คือ ขอเชื่อมโยงกับการพัฒนาของระฆังอัมพาต [ 17 , 18 ] คดีเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า ส่วนประกอบอื่นของวัคซีนทำให้เกิดภาวะเหน็บชาเฉพาะส่วนซึ่งก็พร้อม โดยสถานะของการติดเชื้อ HSV .สาเหตุเพิ่มเติมนอกจากการติดเชื้อ HSV , etiologies เป็นไปได้สำหรับระฆังอัมพาต รวมถึงเชื้ออื่นๆ ( เช่น งูสวัด โรค Lyme , ซิฟิลิส , Epstein Barr ไวรัสการติดเชื้อ cytomegalovirus , ไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์เอชไอวี [ ] , Mycoplasma ) ; การอักเสบคนเดียว และเกิดโรค ( โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ) อัมพาตเบลล์ยังได้รับทราบเพื่อติดตามการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนล่าสุด ( URI ) [ 19 , 20 , 21 , 22 , 23 , 24 ]อัมพาตเบลล์อาจจะรองไวรัสและ / หรือ autoimmune ปฏิกิริยาที่ทำให้เส้นประสาทใบหน้า demyelinate ที่เกิดในอัมพาตใบหน้าข้างเดียว .ประวัติครอบครัวของเบลล์พัลซี ได้รับรายงานว่า ในเวลาประมาณ 4 ล้านราย มรดกในบางกรณีอาจเป็นยีนเด่นด้วยการเจาะต่ำ อย่างไรก็ตาม ซึ่งปัจจัยที่จะสืบทอดไม่ชัดเจน [ 25 ] ประวัติครอบครัวอาจเป็นบวกสำหรับเส้นประสาท รากประสาท หรือ อื่น ๆ , โรค ( เช่นร่างแหประสาทไทรเจมินัล ) พี่น้อง [ 26 ] นอกจากนี้ยังมีการแยกรายงานของอัมพาตเบลล์ ครอบครัวกับทางประสาทขาดดุล รวมทั้ง ophthalmoplegia [ 27 ] และที่สำคัญสั่น [ 28 ] ฟอร์มที่หายากของครอบครัวอัมพาตเบลล์มีการชื่นชอบสำหรับผู้หญิงเด็กและเยาวชน [ 29 ]เนื่องจากมีแรงจูงใจในสิ่งแวดล้อมระฆังอัมพาตเนื่องจากสาเหตุไวรัสทั่วไป , ประวัติครอบครัวในเชิงบวกอาจจะหรืออาจจะไม่พบความจริงทางพันธุกรรมสาเหตุ