We hypothesized that exposure to th

We hypothesized that exposure to the PAH, derived from local emissions from diesel and non-diesel motor vehicles, as well as residential heating, power generation, tobacco smoking, and other combustion sources, is associated with adverse respiratory outcomes such as asthma symptoms in young children. We chose to focus on prenatal exposure to PAH because growing evidence suggests that the prenatal period may represent a window when the impact of inhaled environmental agents on respiratory outcomes is heightened. For example, the offspring of mice exposed either to allergens or residual oil fly ash (consisting of heavy metals, PAH) during pregnancy have been found to develop airway hyperreactivity and increased airway eosinophilia.11–12 In light of studies13–15 demonstrating that environmental tobacco smoke (ETS) exposure is associated with abnormal lung function in infancy that persists through adolescence, we also hypothesized that additional exposure to ETS may worsen respiratory outcomes beyond that observed following PAH alone. To test our hypotheses, we recruited a cohort of pregnant women from northern Manhattan, collected 48-h personal PAH exposure measurements in the third trimester of pregnancy, and monitored their children prospectively for the onset of respiratory symptoms. Our results suggest that the interaction of prenatal exposure to PAH and postnatal exposure to ETS leads to increased respiratory symptoms and probable diagnosis of asthma by age 12 to 24 months.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราตั้งสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบระบบทางเดินหายใจเช่นอาการหอบหืดในเด็กสัมผัสกับผา มาจากท้องถิ่นปล่อยจากดีเซล และดีเซลไม่ใช่ยาน พาหนะ เป็นเครื่องทำความร้อนที่อยู่อาศัย ผลิตไฟฟ้า สูบบุหรี่ และ แหล่งอื่น ๆ ไหม้ เราเลือกที่จะเน้นแสงผาก่อนคลอดเนื่องจากเติบโตหลักฐานแสดงให้เห็นว่า ระยะเวลาคลอดอาจแสดงหน้าต่างเมื่อผลกระทบของตัวแทนสิ่งแวดล้อมดมบนผลหายใจเป็นทำ สำหรับตัวอย่าง ลูกหลานของหนูที่สัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือเถ้าน้ำมันส่วนที่เหลือ (ซึ่งประกอบด้วยโลหะหนัก ผา) ในระหว่างตั้งครรภ์ ได้พัฒนาทางเดินหายใจอาจพบ และเพิ่ม eosinophilia.11–12 ทางเดินหายใจในแง่ studies13 – 15 แสดงให้เห็นว่า แสงแวดล้อมสูบบุหรี่ (ETS) เกี่ยวข้องกับการทำงานของปอดผิดปกติในวัยเด็กที่ยังคงอยู่ผ่านวัย เรายังตั้งสมมติฐาน ว่า ETS ได้รับเพิ่มเติมอาจเลวลงหายใจผลนอกเหนือจากที่สังเกตต่อไปนี้ผาเพียงอย่างเดียว การทดสอบสมมติฐานของเรา เราคัดเลือก cohort ของหญิงตั้งครรภ์จากแมนฮัตตันเหนือ วัดแสงผาส่วนตัว 48 ชม.การเก็บรวบรวมในไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ และตรวจสอบเด็กของพวกเขาสำหรับการโจมตีของอาการทางเดินหายใจทันที ผลของเราแนะนำว่า การโต้ตอบของผาแสงก่อนคลอดและหลังคลอดสัมผัสกับ ETS นำไปสู่การวินิจฉัยน่าเป็นโรคหอบหืดและอาการหายใจที่เพิ่มขึ้นตามอายุ 12 ถึง 24 เดือน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราตั้งสมมติฐานว่าการสัมผัสกับ PAH ที่ได้มาจากการปล่อยมลพิษในท้องถิ่นจากดีเซลและมอเตอร์ไม่ใช่ดีเซลยานพาหนะตลอดจนร้อนที่อยู่อาศัย, การผลิตไฟฟ้า, การสูบบุหรี่ยาสูบและแหล่งที่มาของการเผาไหม้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลทางเดินหายใจที่ไม่พึงประสงค์เช่นอาการของโรคหอบหืดในวัยหนุ่มสาว เด็ก ๆ เราเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่การเปิดรับก่อนคลอดเพื่อ PAH เพราะหลักฐานการเจริญเติบโตให้เห็นว่าช่วงเวลาก่อนคลอดอาจเป็นตัวแทนของหน้าต่างเมื่อผลกระทบของสิ่งแวดล้อมตัวแทนสูดดมต่อผลลัพธ์ทางเดินหายใจเป็นทำเป็น ยกตัวอย่างเช่นลูกหลานของหนูสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่งต่อสารก่อภูมิแพ้หรือเถ้าลอยน้ำมันที่เหลือ (ประกอบด้วยโลหะหนัก PAH) ในระหว่างตั้งครรภ์ได้รับพบว่าการพัฒนา hyperreactivity ทางเดินหายใจและทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น eosinophilia.11-12 ในแง่ของ studies13-15 แสดงให้เห็นว่าสิ่งแวดล้อม ควันบุหรี่ (ETS) การสัมผัสมีความเกี่ยวข้องกับการทำงานของปอดผิดปกติในวัยเด็กที่ยังคงอยู่วัยรุ่นผ่านเรายังตั้งสมมติฐานว่าการเปิดรับเพิ่มเติมเพื่อ ETS อาจเลวลงผลทางเดินหายใจเกินกว่าที่ตั้งข้อสังเกตดังต่อไปนี้ PAH เพียงอย่างเดียว เพื่อทดสอบสมมติฐานของเราเราได้รับคัดเลือกหมู่ของหญิงตั้งครรภ์จากทางตอนเหนือของแมนฮัตตันที่เก็บรวบรวม 48 ชั่วโมงวัดได้รับสาร PAH ส่วนบุคคลในไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์และการตรวจสอบเด็กของพวกเขาทันทีสำหรับอาการระบบทางเดินหายใจ ผลของเราแสดงให้เห็นว่าการทำงานร่วมกันของการสัมผัสก่อนคลอดเพื่อ PAH หลังคลอดและการสัมผัสเพื่อ ETS นำไปสู่​​การเพิ่มขึ้นอาการระบบทางเดินหายใจและการวินิจฉัยของโรคหอบหืดน่าจะอายุ 12 ถึง 24 เดือน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราตั้งสมมุติฐานว่า การสัมผัสกับป่าที่ได้มาจากท้องถิ่น และไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากดีเซล ดีเซล เครื่องยนต์ เช่นเดียวกับที่อยู่อาศัยความร้อนไฟฟ้า การสูบบุหรี่ยาสูบ และแหล่งเชื้อเพลิงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ระบบทางเดินหายใจ อาการหอบหืดในเด็กเล็ก เราเลือกที่จะเน้นการเติบโตแบบ ป่า เพราะมีหลักฐานว่าทารกในครรภ์จะแสดงหน้าต่างเมื่อผลกระทบของสิ่งแวดล้อมต่อผลลัพธ์คือตัวแทนสูดดมหายใจมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกของหนูสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่ง allergens หรือน้ำมันเหลือเถ้าลอย ( ประกอบด้วยโลหะหนัก , พ่าห์ ) ในระหว่างตั้งครรภ์ได้รับการพบเพื่อพัฒนา hyperreactivity เพียร์การบินและการบินเพิ่มขึ้น 11 – 12 ในแสงของ studies13 – 15 แสดงให้เห็นว่าสิ่งแวดล้อมควันบุหรี่ ( ETS ) เปิดรับมีความสัมพันธ์กับการเสื่อมสมรรถภาพปอดในทารก ที่ยังคงอยู่ถึงวัยรุ่น เรายังตั้งสมมติฐานว่า การเปิดรับเพิ่มเติม ETS อาจเสื่อมโทรมผลการหายใจเกินกว่าที่สังเกตต่อไปนี้ป้าคนเดียว เพื่อทดสอบสมมติฐานของเราที่เราได้รับคัดเลือกเป็นเพื่อนร่วมงานของหญิงตั้งครรภ์จากตอนเหนือของแมนฮัตตัน เก็บวัดแสง 30 PAH ส่วนบุคคลในไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ และการตรวจสอบเด็กของพวกเขาสำหรับการโจมตีของระบบทางเดินหายใจ จากผลการศึกษาว่า การเปิดรับและการ PAH ก่อนคลอดหลังคลอด ETS นำไปสู่เพิ่มขึ้นอาการทางเดินหายใจและน่าจะเป็นการหืด โดยอายุ 12 ถึง 24 เดือน