Waltz ignored human nature and focu

Waltz ignored human nature and focused on the effects of the international system. For Waltz, the international system consisted of a number of great powers, each seeking to survive. Because the system is anarchic (i.e., there is no central authority to protect states from one another), each state has to survive on its own. Waltz argued that this condition would lead weaker states to balance against, rather than bandwagon with, more powerful rivals. And contrary to Morgenthau, he claimed that bipolarity was more stable than multipolarity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วอลซ์ละเว้นบุคคลธรรมชาติ และเน้นผลกระทบของระบบสากล สำหรับวอลซ์ ระบบสากลประกอบด้วยจำนวนอำนาจมาก แต่ละหาจะอยู่รอด เนื่องจากระบบเกี่ยวกับอนาธิปไตย (เช่น ไม่มีอำนาจไม่กลางป้องกันอเมริกากัน), แต่ละรัฐได้เพื่อความอยู่รอดนั้นเอง วอลซ์โต้เถียงว่า เงื่อนไขนี้จะนำรัฐแข็งแกร่งสมดุลต่อ แทน bandwagon ได้ ด้วย คู่แข่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และขัดต่อ Morgenthau เขาอ้างว่า bipolarity มีเสถียรภาพมากขึ้นกว่า multipolarity

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Waltz ไม่สนใจธรรมชาติของมนุษย์และมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของระบบระหว่างประเทศ สำหรับ Waltz, ระบบระหว่างประเทศประกอบด้วยจำนวนของมหาอำนาจแต่ละแสวงหาเพื่อความอยู่รอด เนื่องจากระบบเป็นอนาธิปไตย (กล่าวคือไม่มีอำนาจที่จะปกป้องประเทศจากคนอื่น) แต่ละรัฐมีเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง Waltz ถกเถียงกันอยู่ว่าสภาพเช่นนี้จะนำไปสู่​​รัฐที่อ่อนแอกว่าเพื่อความสมดุลกับมากกว่า bandwagon กับคู่แข่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และตรงกันข้ามกับเก็น ธ เขาอ้างว่า bipolarity เป็นมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าพหุ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพลงละเลยธรรมชาติของมนุษย์ และเน้นผลกระทบของระบบระหว่างประเทศ สำหรับ วอลซ์ ระบบสากล ประกอบด้วยจำนวนของพลังแต่ละแสวงหาเพื่อความอยู่รอด เพราะระบบอนาธิปไตย ( เช่น ไม่มีอำนาจที่จะปกป้องอเมริกาจากส่วนกลางอีก ) แต่ละรัฐมีเพื่อความอยู่รอดของตัวเองวอลซ์ที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเงื่อนไขนี้จะทำให้รัฐอ่อนแอให้สมดุลกับมากกว่า bandwagon กับคู่แข่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และตรงข้ามกับมอร์เกนเทา เขาอ้างว่า bipolarity มีเสถียรภาพมากกว่า multipolarity .