Marron grow to be the largest and a

Marron grow to be the largest and attracted considerable interest in the U.S. during the 1980s. Research with marron has not been encouraging, however. Research has shown that this species grows relatively slowly (1 to 2 ounces per year even though they may obtain a size of several pounds) and tolerates a very narrow range of environmental con
ditions. It survives water temperatures between 55 and 85oF but appears to grow best between 70 and 75oF. In its natural habitat, marron live in cool streams and rivers of southwest Australia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Marron กลายเป็นที่ใหญ่ที่สุดและดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมากในสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1980 การวิจัยกับเกาลัดยังไม่ได้รับการส่งเสริมให้ แต่ มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าสายพันธุ์นี้เติบโตค่อนข้างช้า (1-2 ออนซ์ต่อปีถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะได้รับขนาดของหลายปอนด์)
และทนช่วงแคบมากของนักโทษสิ่งแวดล้อมสภาวะแวดล้อม มันมีชีวิตรอดอุณหภูมิน้ำระหว่าง 55 และ 85oF แต่ดูเหมือนจะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดระหว่าง 70 75oF ในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของมันเกาลัดอาศัยอยู่ในลำธารเย็นและแม่น้ำทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มาร เติบโตเป็นที่ใหญ่ที่สุดและดึงดูดความสนใจมากในสหรัฐฯ ในช่วงปี 1980 . การวิจัยกับมาร ไม่ได้สนับสนุน แต่อย่างไรก็ตาม การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าพืชชนิดนี้เติบโตค่อนข้างช้า ( 1 ถึง 2 ออนซ์ต่อปี ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะได้รับขนาดหลายปอนด์ ) และยอมรับช่วงแคบมาก ditions con
สิ่งแวดล้อมมันรอดจากน้ำอุณหภูมิระหว่าง 55 และ 85of แต่ปรากฏว่าเติบโตที่ดีที่สุดระหว่าง 70 และ 75of . ในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของมาร อาศัยอยู่ในลำธารที่เย็นและแม่น้ำของออสเตรเลียตะวันตกเฉียงใต้