ประเพณีสารทเดือนสิบ สารทเดือนสิบ หรือที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกกันว่าประ การแปล - ประเพณีสารทเดือนสิบ สารทเดือนสิบ หรือที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกกันว่าประ ไทย วิธีการพูด

ประเพณีสารทเดือนสิบ สารทเดือนสิบ หร

ประเพณีสารทเดือนสิบ

สารทเดือนสิบ หรือที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกกันว่าประเพณีทำบุญเดือนสิบ เป็นประเพณีทำบุญกลางเดือน
สิบ เป็นประเพณีทำบุญกลางเดือนสิบเพื่อเพื่อนำเครื่องอุปโภคและเครื่องบริโภคทั้งขนมสำคัญห้าอย่างไปถวาย
พระ แล้วอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษของตน ชาวเมืองนี้ไม่ว่าจะไปอยู่ไกลเพียงใด เมื่อถึงช่วงทำบุญเดือนสิบ ก็จะกลับภูมิลำเนามาร่วมทำบุญ ด้วยความสำนึกกตัญญูที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจมาแต่เยาว์วัย

ประวัติความเป็นมา

ประเพณีสารทเดือนสิบวิวัฒนาการมาจากประเพณีเปตพลีของพราหมณ์ ซึ่งลูกหลานจัดขึ้นเพื่อทำบุญอุทิศ
ส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ต่อมาพวกพราหมณ์จำนวนมากได้หันมานับถือพระพุทธศาสนาและยังถือปฏิบัติ
ในประเพณีดังกล่าวอยู่ พระพุทธองค์เห็นว่าประเพณีนี้มีคุณค่า เป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อ
บรรพบุรุษ นำความสุขใจให้ผู้ปฏิบัติ จึงทรงอนุญาตให้อุบาสกอุบาสิกาประกอบพิธีนี้ต่อไปได้ ประเพณีสารท
เดือนสิบมีมาตั้งแต่พุทธกาล คาดว่าพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้ามาในนครศรีธรรมราช จึงรับประเพณีนี้มาด้วย

ความเชื่อ

ความเชื่อของพุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราชเชื่อว่าบรรพบุรุษอันไดแก่ ปู่ย่าตายาย และญาติพี่น้องที่
ล่วงลับไปแล้ว หากทำความดีไว้เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ จะได้ไปเกิดในสรวงสรรค์ แต่หากทำความชั่วจะตกนรก
กลายเป็นเปรต ต้องทนทุกข์ทรมานในอเวจี ต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศส่วนกุศลให้ในแต่ละปีมายังชีพ
ดังนั้นในวันแรม ๑ ค่ำเดือนสิบ คนบาปทั้งหลายที่เรียกว่าเปรตจึงถูกปล่อยตัวกลับมายังโลกมนุษย์ เพื่อมาขอ
ส่วนบุญจากลูกหลายญาติพี่น้องและจะกลับไปนรกในวันแรม ๑ ค่ำ เดืออนสิบ
โอกาสนี้เองลูกหลานและผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จึงนำอาหารไปทำบุญที่วัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไป
แล้ว เป็นการแสดงกตัญญูกตเวที

ระยะเวลา

ระยะเวลาของการประกอบพิธีประเพณีสารทเดือนสิบมีขึ้นในวันแรม ๑ ค่ำ เดือนสิบ แต่วันที่ชาวนครนิยม
ทำบุญคือวันแรม ๑๓-๑๕ ค่ำ

พิธีกรรม

การปฏิบัติพิธีกรรมการทำบุญสารทเดือนสอบมีสามขั้นตอน คือ
๑) การจัดหมฺรับและยกหมฺรับ
๒) การฉลองหมฺรับและการบังสกุล
๓) การตั้งเปรตและการชิงเปรต

๑) การจัดหมฺรับและยกหมฺรับ

การจัดเตรียมสิ่งของที่ใช้จัดหมฺรับ เริ่มขึ้นในวันแรม ๑๓ ค่ำ วันนี้เรียกกันว่า "วันจ่าย" ตลาดต่างๆ จึงคึกคักและคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนชาวบ้านจะซื้ออาหารแห้ง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน
ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และขนมที่เป็นสัญลักษณ์ของสารทเดือนสิบ จัเตรียมไว้สำหรับใส่หมฺรับ
และสำหรับนำไปมอบให้ผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ
๑.๑ การจัดหมัรบ
การหมฺรับมักจะจัดเฉพาะครอบครัวหรือจัดรวมกันในหมู่ญาติ และจัดเป็นกลุ่ม ภาชนะที่ใช้จัดหมฺรับใช้
กระบุง หรือ เข่งสานด้วยด้วยตอกไม้ไผ่ ขนาดเล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของเจ้าของหมฺรับ ปัจจุบัน
ใช้ภาชนะที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษ
การจัดหมฺรับ คือการบรรจุและประดับด้วยสิ่งของ อาหาร ขนมเดือนสิบ ฯลฯ ลงภายในภาชนะที่เตรียมไว้
สำหรับงานนี้โดยเฉพา โดยจัดเป็นชั้นๆ ดังนี้
๑) ชั้นล่างสุด จัดบรรจุสิ่งของประเภทอาหารแห้ง ลงไว้ที่ก้นภาชนะ ได้แก่ ข้าวสาร แล้วใส่พริก เกลือ หอม กระเทียม กะปิ น้ำปลา น้ำตาล มะขามเปียก รวมทั้งบรรดาปลาเค็ม เนื้อเค็ม หมูเค็ม กุ้งแห้ง เครื่องปรุง
อาหารที่จำเป็น
๒) ขั้นที่สอง จัดบรรจุอาหารประเภทพืชผักที่เก็บไว้ได้นาน ใส่ขึ้นมาจากชั้นแรก ได้แก่ มะพร้าว ขี้พร้า
หัวมันทุกชนิด กล้วยแก่ ข้าวโพด อ้อย ตะไคร้ ลูกเนียง สะตอ รวมทั้งพืชผักอื่นที่มีในเวลานั้น
๓) ขั้นที่สาม จัดบรรจุสิ่งของประเภทของใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ น้ำมันพืช น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันก๊าด ไต้ ไม้ขีดไฟ หม้อ กระทะ ถ้วยชาม เข็ม ด้าย หมาก พลู กานพลู การบูน พิมเสน สีเสียด ปูน ยาเส้น บุหรี่ ยาสามัญประจำบ้าน ธูป เทียน
๔) ขั้นบนสุด ใช้บรรจุและประดับประดาด้วยขนมอันเป็นสัญลักษณ์ของสารทเดือนสิบ เป็นสิ่งสำคัญของหมฺรับ ได้แก่ ขนมพอง ขนมลา ขนมกง (ขนมไข่ปลา) ขนมบ้า ขนมดีซำ ขนมบรรพบุรุษและ
ญาติที่ล่วงลับได้นำไปใช้ประโยชน์ เนื่องจาก

ขนมลา เปรียบเสมือนเสื้อผ้าแพรพรรณที่บรรพบุรุษจะได้ใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม
ขนมกง (หรือขนมไข่ปลา)เปรียบเสมือนเครื่องประดับให้บรรพบุรุษได้ใช้ ประดับร่างกาย
ขนมพอง เปรียบเสมือนแพอันเป็นพาหนะให้บรรพบุรุษใช้ข้ามห้วงมหรรณพ
ขนมบ้า เปรียบเสมือนเมล็ดสะบ้า สำหรับให้บรรพบุรุษไว้เล่นสะบ้าในวันตรุษสงกรานต์
ขนมดีซำ เปรียบเสมือนเงินตราเพื่อให้บรรพบุรุษได้มีไว้ใช้สอย

๑.๓) การยกหมฺรับ
วันแรม ๑๔ ค่ำ ชาวบ้านจะจำหมฺรับที่จัดเตรียมไว้ ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัด โดยเลือวัดที่อยู่ใกล้บ้านหรือวัดที่บรรพบุรุษของตนนิยม วันนี้เรียกว่า " วันยกหมฺรับ" การยกหมฺรับไปวัดเป็น
ขบวนแห่หรือไม่มีขบวนแห่ก็ได้ โดยนำหมฺรับและภัตตาหารไปถวายพระด้วย

๒) การฉลองหมฺรับและการบังสุกุล
วันแรม ๑๕ ค่ำ ซึ่งเป็นวันสารทเรียกว่า "วันหลองหมฺรับ" มีการทำบุญเลี้ยงพระและบังสกุลการทำบุญวันนี้
เป็นการส่งบรรพบุรุษและญาติพี่น้องให้กลับไปยังเมืองนรก นับเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ซึ่งเชื่อกันว่าหากไม่ได้
กระทำพิธีกรรมในวันนี้บรรพบุรุษพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วจะไม่ได้รับส่วนกุศล ทำให้เกิดทุขเวทนาด้วยความ
อดอยาก ลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะกลายเป็นคนอกตัญญูไป

๓) การตั้งเปรตและการชิงเปรต
เสร็จจากการฉลองหมฺรับและถวายภัตตาหารแล้วก็นิยมนำขนมอีกส่วนหนึ่งไปวางไว้ตามบริเวณวัด โคนไม้ใหญ่ หรือกำแพงวัด เรียกว่า " ตั้งเปรต" เป็นการแผ่ส่วนกุศลให้เป็นสาธารณะทานแก่ผู้ล่วงลับที่ไม่มี
ญาติหรือญาติได้มาร่วมทำบุญได้
บางวัดนิยมสร้างร้านขึ้นเพื่อสะดวกแก่ตั้งเปรต เรียกว่า " หลาเปรต" (ศาลาเปรต) เมื่องตั้งขนม ผลไม้ และ
และเงินทำบุญเสร็จแล้วก็จะนำสายสิญจน์ที่ได้บังสุกุลแล้วมาผูกเพื่อแผ่ส่วนกุศลด้วย เมื่อเสร็จพิธีสงฆ์ก็จะเก็บ
สายสิญจน์
วัดบางแห่งสร้างหลาเปรตไว้สูง โดยมีเสาเพียงเสาเดียว เสานี้เกลาจนลื่นและชะโลมด้วยน้ำมัน เมื่อถึง
เวลาชิงเปรต เด็กๆ แย่งกันปีนขึ้นไป หลายคนตกลงมาเพราะเสาลื่น และอาจถูกคนอื่นดึงขาพลัดตกลงมา
กว่าจะมีผู้ชนะการปีนไปถึงหลาเปรต ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จึงมีทั้งความสน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีสารทเดือนสิบ สารทเดือนสิบหรือที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกกันว่าประเพณีทำบุญเดือนสิบเป็นประเพณีทำบุญกลางเดือนสิบเป็นประเพณีทำบุญกลางเดือนสิบเพื่อเพื่อนำเครื่องอุปโภคและเครื่องบริโภคทั้งขนมสำคัญห้าอย่างไปถวายพระแล้วอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษของตนชาวเมืองนี้ไม่ว่าจะไปอยู่ไกลเพียงใดเมื่อถึงช่วงทำบุญเดือนสิบก็จะกลับภูมิลำเนามาร่วมทำบุญด้วยความสำนึกกตัญญูที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจมาแต่เยาว์วัยประวัติความเป็นมา ประเพณีสารทเดือนสิบวิวัฒนาการมาจากประเพณีเปตพลีของพราหมณ์ซึ่งลูกหลานจัดขึ้นเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วต่อมาพวกพราหมณ์จำนวนมากได้หันมานับถือพระพุทธศาสนาและยังถือปฏิบัติในประเพณีดังกล่าวอยู่พระพุทธองค์เห็นว่าประเพณีนี้มีคุณค่าเป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษนำความสุขใจให้ผู้ปฏิบัติจึงทรงอนุญาตให้อุบาสกอุบาสิกาประกอบพิธีนี้ต่อไปได้ประเพณีสารทเดือนสิบมีมาตั้งแต่พุทธกาลคาดว่าพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้ามาในนครศรีธรรมราชจึงรับประเพณีนี้มาด้วยความเชื่อ ความเชื่อของพุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราชเชื่อว่าบรรพบุรุษอันไดแก่ปู่ย่าตายายและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วหากทำความดีไว้เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่จะได้ไปเกิดในสรวงสรรค์แต่หากทำความชั่วจะตกนรกกลายเป็นเปรตต้องทนทุกข์ทรมานในอเวจีต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศส่วนกุศลให้ในแต่ละปีมายังชีพ ดังนั้นในวันแรม ๑ ค่ำเดือนสิบคนบาปทั้งหลายที่เรียกว่าเปรตจึงถูกปล่อยตัวกลับมายังโลกมนุษย์เพื่อมาขอส่วนบุญจากลูกหลายญาติพี่น้องและจะกลับไปนรกในวันแรม ๑ ค่ำเดืออนสิบ โอกาสนี้เองลูกหลานและผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จึงนำอาหารไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้วเป็นการแสดงกตัญญูกตเวทีระยะเวลา ระยะเวลาของการประกอบพิธีประเพณีสารทเดือนสิบมีขึ้นในวันแรม ๑ ค่ำเดือนสิบแต่วันที่ชาวนครนิยมทำบุญคือวันแรม ๑๓ - ๑๕ ค่ำพิธีกรรม การปฏิบัติพิธีกรรมการทำบุญสารทเดือนสอบมีสามขั้นตอนคือ ๑) การจัดหมฺรับและยกหมฺรับ ๒) การฉลองหมฺรับและการบังสกุล๓) การตั้งเปรตและการชิงเปรต๑) การจัดหมฺรับและยกหมฺรับ การจัดเตรียมสิ่งของที่ใช้จัดหมฺรับเริ่มขึ้นในวันแรม ๑๓ ค่ำวันนี้เรียกกันว่า "วันจ่าย" ตลาดต่าง ๆ จึงคึกคักและคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนชาวบ้านจะซื้ออาหารแห้งพืชผักที่เก็บไว้ได้นาน ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและขนมที่เป็นสัญลักษณ์ของสารทเดือนสิบจัเตรียมไว้สำหรับใส่หมฺรับ และสำหรับนำไปมอบให้ผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ ๑.๑การจัดหมัรบ การหมฺรับมักจะจัดเฉพาะครอบครัวหรือจัดรวมกันในหมู่ญาติและจัดเป็นกลุ่มภาชนะที่ใช้จัดหมฺรับใช้กระบุงหรือเข่งสานด้วยด้วยตอกไม้ไผ่ขนาดเล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของเจ้าของหมฺรับปัจจุบันใช้ภาชนะที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษ การจัดหมฺรับคือการบรรจุและประดับด้วยสิ่งของอาหารขนมเดือนสิบฯลฯ ลงภายในภาชนะที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาโดยจัดเป็นชั้น ๆ ดังนี้ ๑) ชั้นล่างสุดจัดบรรจุสิ่งของประเภทอาหารแห้งลงไว้ที่ก้นภาชนะได้แก่ข้าวสารแล้วใส่พริกเกลือหอมกระเทียมกะปิน้ำปลาน้ำตาลมะขามเปียกรวมทั้งบรรดาปลาเค็มเนื้อเค็มหมูเค็มกุ้งแห้งเครื่องปรุงอาหารที่จำเป็น ๒) ขั้นที่สองจัดบรรจุอาหารประเภทพืชผักที่เก็บไว้ได้นานใส่ขึ้นมาจากชั้นแรกได้แก่มะพร้าวขี้พร้าหัวมันทุกชนิดกล้วยแก่ข้าวโพดอ้อยตะไคร้ลูกเนียงสะตอรวมทั้งพืชผักอื่นที่มีในเวลานั้น ๓) ขั้นที่สามจัดบรรจุสิ่งของประเภทของใช้ในชีวิตประจำวันได้แก่น้ำมันพืชน้ำมันมะพร้าว น้ำมันก๊าด ไต้ ไม้ขีดไฟ หม้อ กระทะ ถ้วยชาม เข็ม ด้าย หมาก พลู กานพลู การบูน พิมเสน สีเสียด ปูน ยาเส้น บุหรี่ ยาสามัญประจำบ้าน ธูป เทียน ๔) ขั้นบนสุด ใช้บรรจุและประดับประดาด้วยขนมอันเป็นสัญลักษณ์ของสารทเดือนสิบ เป็นสิ่งสำคัญของหมฺรับ ได้แก่ ขนมพอง ขนมลา ขนมกง (ขนมไข่ปลา) ขนมบ้า ขนมดีซำ ขนมบรรพบุรุษและญาติที่ล่วงลับได้นำไปใช้ประโยชน์ เนื่องจากขนมลา เปรียบเสมือนเสื้อผ้าแพรพรรณที่บรรพบุรุษจะได้ใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม ขนมกง (หรือขนมไข่ปลา)เปรียบเสมือนเครื่องประดับให้บรรพบุรุษได้ใช้ ประดับร่างกาย ขนมพองเปรียบเสมือนแพอันเป็นพาหนะให้บรรพบุรุษใช้ข้ามห้วงมหรรณพ ขนมบ้าเปรียบเสมือนเมล็ดสะบ้าสำหรับให้บรรพบุรุษไว้เล่นสะบ้าในวันตรุษสงกรานต์ ขนมดีซำเปรียบเสมือนเงินตราเพื่อให้บรรพบุรุษได้มีไว้ใช้สอย๑.๓) การยกหมฺรับ วันแรม ๑๔ ค่ำชาวบ้านจะจำหมฺรับที่จัดเตรียมไว้ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัดโดยเลือวัดที่อยู่ใกล้บ้านหรือวัดที่บรรพบุรุษของตนนิยมวันนี้เรียกว่า "วันยกหมฺรับ" การยกหมฺรับไปวัดเป็นขบวนแห่หรือไม่มีขบวนแห่ก็ได้โดยนำหมฺรับและภัตตาหารไปถวายพระด้วย๒) การฉลองหมฺรับและการบังสุกุล วันแรม ๑๕ ค่ำซึ่งเป็นวันสารทเรียกว่า "วันหลองหมฺรับ" มีการทำบุญเลี้ยงพระและบังสกุลการทำบุญวันนี้เป็นการส่งบรรพบุรุษและญาติพี่น้องให้กลับไปยังเมืองนรกนับเป็นวันสำคัญวันหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่าหากไม่ได้กระทำพิธีกรรมในวันนี้บรรพบุรุษพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วจะไม่ได้รับส่วนกุศลทำให้เกิดทุขเวทนาด้วยความอดอยากลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะกลายเป็นคนอกตัญญูไป๓) การตั้งเปรตและการชิงเปรต เสร็จจากการฉลองหมฺรับและถวายภัตตาหารแล้วก็นิยมนำขนมอีกส่วนหนึ่งไปวางไว้ตามบริเวณวัดโคนไม้ใหญ่หรือกำแพงวัดเรียกว่าเป็นการแผ่ส่วนกุศลให้เป็นสาธารณะทานแก่ผู้ล่วงลับที่ไม่มี "ตั้งเปรต"ญาติหรือญาติได้มาร่วมทำบุญได้ บางวัดนิยมสร้างร้านขึ้นเพื่อสะดวกแก่ตั้งเปรตเรียกว่า "หลาเปรต" (ศาลาเปรต) เมื่องตั้งขนมผลไม้และและเงินทำบุญเสร็จแล้วก็จะนำสายสิญจน์ที่ได้บังสุกุลแล้วมาผูกเพื่อแผ่ส่วนกุศลด้วยเมื่อเสร็จพิธีสงฆ์ก็จะเก็บสายสิญจน์ วัดบางแห่งสร้างหลาเปรตไว้สูงโดยมีเสาเพียงเสาเดียวเสานี้เกลาจนลื่นและชะโลมด้วยน้ำมันเมื่อถึงเวลาชิงเปรต เด็กๆ แย่งกันปีนขึ้นไป หลายคนตกลงมาเพราะเสาลื่น และอาจถูกคนอื่นดึงขาพลัดตกลงมา กว่าจะมีผู้ชนะการปีนไปถึงหลาเปรต ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จึงมีทั้งความสน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
สารทประเพณีเดือนสิบสารทเดือนสิบ ประเพณีทำบุญเป็นกลางเดือนสิบ เมื่อถึงช่วงทำบุญเดือนสิบก็จะกลับภูมิลำเนามาร่วมทำบุญ นำความสุขใจให้ผู้ปฏิบัติ ตายายปู่ย่าและญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว จะได้ไปเกิดในสรวงสรรค์ ต้องทนทุกข์ทรมานในอเวจี 1 ค่ำเดือนสิบ 1 ค่ำ 1 เดือนสิบค่ำ แต่การธนาคารวันที่ชาวนครนิยมทำบุญคือการธนาคารวันแรม13-15 คือ1) การจัดหมฺรับและยกหมฺรับ2) การฉลองหมฺรับและการบังสกุล3) การตั้งเปรตและการชิงเปรต1) เริ่มขึ้นในวันแรม 13 ค่ำวันนี้เรียกกันว่า "วันจ่าย" ตลาดต่างๆ จัดเป็นและกลุ่มภาชนะที่ใช้จัดหมฺรับใช้กระบุงหรือเข่งสานด้วยตอกไม้ไผ่ด้วย คือการบรรจุและประดับด้วยสิ่งของอาหารขนมเดือนสิบ ฯลฯ โดยจัดเป็นชั้น ๆ ดังนี้1) ชั้นล่างสุดจัดบรรจุสิ่งของประเภทอาหารแห้งลงไว้ที่ก้นภาชนะ ได้แก่ ข้าวสารแล้วใส่พริกเกลือหอมกระเทียมกะปิน้ำปลาน้ำตาลมะขามเปียกรวมทั้งบรรดาปลาเค็มเนื้อเค็มหมูเค็มกุ้งแห้งเครื่องปรุงอาหารที่จำเป็น2) ขั้นที่ สอง ขึ้นมาใส่จากเนชั่ชั้นแรก ได้แก่ มะพร้าวขี้พร้าหัวมันทุกชนิดกล้วยแก่ข้าวโพดอ้อยตะไคร้ที่คุณลูกเนียงสะตอรวมทั้งพืชผักอื่นที่มีในเวลานั้น3) ขั้นที่สาม น้ำมันพืช ได้แก่ น้ำมันมะพร้าวน้ำมันก๊าดไต้ไม้ขีดไฟหม้อกระทะถ้วยชามเข็มด้ายหมากพลูกานพลูหัวเรื่อง: การบูนพิมเสนสีเสียดปูนยาเส้นบุหรี่ยาสามัญประจำบ้านธูปเทียน4) ขั้นบนสุด เป็นสิ่งสำคัญของหมฺรับ ได้แก่ ขนมพองขนมลาขนมกง (ขนมไข่ปลา) ขนมบ้าขนมดีซำ เนื่องจากขนมลา ร่างกายประดับขนมพอง เปรียบเสมือนเมล็ดสะบ้า ยกหหัวเรื่อง: การมฺรับการธนาคารวันแรม14 ค่ำชาวบ้านจะจำหมฺรับที่จัดเตรียมไว้ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลที่วัด วันนี้เรียกว่า "วันยกหมฺรับ" ฉลองหหัวเรื่อง: การมฺรับและหัวเรื่อง: การบังสุกุลการธนาคารวันแรม15 ค่ำซึ่งเป็นวันสารทเรียกว่า "วันหลองหมฺรับ" นับเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เกิดทุทำให้ขเวทนาด้วยความอดอยาก โคนไม้ใหญ่หรือกำแพงวัดเรียกว่า "ตั้งเปรต" เรียกว่า "หลาเปรต" (ศาลาเปรต) เมื่องตั้งขนมผลไม้ โดยมีเสาเพียงเสาเดียว ถึงเมื่อเวลาชิงเปรตที่คุณเด็ก ๆ แย่งกันปีนขึ้นไปหลายคนตกลงมาเพราะเสาลื่น ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากจึงมีทั้งความสน















































































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประเพณีสารทเดือนสิบ

สารทเดือนสิบหรือที่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกกันว่าประเพณีทำบุญเดือนสิบเป็นประเพณีทำบุญกลางเดือน
สิบเป็นประเพณีทำบุญกลางเดือนสิบเพื่อเพื่อนำเครื่องอุปโภคและเครื่องบริโภคทั้งขนมสำคัญห้าอย่างไปถวาย
พระแล้วอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษของตนชาวเมืองนี้ไม่ว่าจะไปอยู่ไกลเพียงใดเมื่อถึงช่วงทำบุญเดือนสิบก็จะกลับภูมิลำเนามาร่วมทำบุญด้วยความสำนึกกตัญญูที่ฝังแน่นอยู่ในจิตใจมาแต่เยาว์วัย



ประวัติความเป็นมาประเพณีสารทเดือนสิบวิวัฒนาการมาจากประเพณีเปตพลีของพราหมณ์ซึ่งลูกหลานจัดขึ้นเพื่อทำบุญอุทิศต่อมาพวกพราหมณ์จำนวนมากได้หันมานับถือพระพุทธศาสนาและยังถือปฏิบัติ

ส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วในประเพณีดังกล่าวอยู่พระพุทธองค์เห็นว่าประเพณีนี้มีคุณค่าเป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อนำความสุขใจให้ผู้ปฏิบัติจึงทรงอนุญาตให้อุบาสกอุบาสิกาประกอบพิธีนี้ต่อไปได้ประเพณีสารท

บรรพบุรุษเดือนสิบมีมาตั้งแต่พุทธกาลคาดว่าพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้ามาในนครศรีธรรมราชจึงรับประเพณีนี้มาด้วย



ความเชื่อความเชื่อของพุทธศาสนิกชนชาวนครศรีธรรมราชเชื่อว่าบรรพบุรุษอันไดแก่ปู่ย่าตายายและญาติพี่น้องที่หากทำความดีไว้เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่จะได้ไปเกิดในสรวงสรรค์แต่หากทำความชั่วจะตกนรก

ล่วงลับไปแล้วกลายเป็นเปรตต้องทนทุกข์ทรมานในอเวจีต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศส่วนกุศลให้ในแต่ละปีมายังชีพดังนั้นในวันแรม๑ค่ำเดือนสิบคนบาปทั้งหลายที่เรียกว่าเปรตจึงถูกปล่อยตัวกลับมายังโลกมนุษย์เพื่อมาขอ

ส่วนบุญจากลูกหลายญาติพี่น้องและจะกลับไปนรกในวันแรม๑ค่ำเดืออนสิบ



โอกาสนี้เองลูกหลานและผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่จึงนำอาหารไปทำบุญที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้วเป็นการแสดงกตัญญูกตเวทีระยะเวลา

ระยะเวลาของการประกอบพิธีประเพณีสารทเดือนสิบมีขึ้นในวันแรม๑ค่ำเดือนสิบแต่วันที่ชาวนครนิยม
ทำบุญคือวันแรม๑๓ - ๑๕ค่ำ




การปฏิบัติพิธีกรรมการทำบุญสารทเดือนสอบมีสามขั้นตอนความพิธีกรรม๑ ) การจัดหมฺรับและยกหมฺรับ

๒ ) การฉลองหมฺรับและการบังสกุลล่ะ ) การตั้งเปรตและการชิงเปรต

๑ ) การจัดหมฺรับและยกหมฺรับ

การจัดเตรียมสิ่งของที่ใช้จัดหมฺรับเริ่มขึ้นในวันแรม๑๓ค่ำวันนี้เรียกกันว่า " วันจ่าย " ตลาดต่างๆจึงคึกคักและคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนชาวบ้านจะซื้ออาหารแห้งพืชผักที่เก็บไว้ได้นาน
ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและขนมที่เป็นสัญลักษณ์ของสารทเดือนสิบจัเตรียมไว้สำหรับใส่หมฺรับ
และสำหรับนำไปมอบให้ผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ
๑ . ๑การจัดหมัรบ
การหมฺรับมักจะจัดเฉพาะครอบครัวหรือจัดรวมกันในหมู่ญาติและจัดเป็นกลุ่มภาชนะที่ใช้จัดหมฺรับใช้กระบุงค็อคเข่งสานด้วยด้วยตอกไม้ไผ่ขนาดเล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของเจ้าของหมฺรับปัจจุบัน

ใช้ภาชนะที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษ
การจัดหมฺรับคือการบรรจุและประดับด้วยสิ่งของอาหารขนมเดือนสิบฯลฯลงภายในภาชนะที่เตรียมไว้โดยจัดเป็นชั้นๆดังนี้

สำหรับงานนี้โดยเฉพา๑ ) ชั้นล่างสุดจัดบรรจุสิ่งของประเภทอาหารแห้งลงไว้ที่ก้นภาชนะได้แก่ข้าวสารแล้วใส่พริกเกลือหอม eggplant กะปิน้ำปลาน้ำตาลมะขามเปียกรวมทั้งบรรดาปลาเค็มเนื้อเค็มหมูเค็มกุ้งแห้งเครื่องปรุง
อาหารที่จำเป็น
๒ ) ขั้นที่สองจัดบรรจุอาหารประเภทพืชผักที่เก็บไว้ได้นานใส่ขึ้นมาจากชั้นแรกได้แก่มะพร้าวขี้พร้า
หัวมันทุกชนิดกล้วยแก่ cauliflower อ้อยตะไคร้ลูกเนียงสะตอรวมทั้งพืชผักอื่นที่มีในเวลานั้น
กัน ) ขั้นที่สามจัดบรรจุสิ่งของประเภทของใช้ในชีวิตประจำวันได้แก่น้ำมันพืชน้ำมันมะพร้าว
น้ำมันก๊าดไต้ไม้ขีดไฟหม้อกระทะถ้วยชามเข็มด้ายหมากพลูกานพลูการบูนพิมเสนสีเสียดปูนยาเส้นบุหรี่ยาสามัญประจำบ้านธูปเทียน
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: