2.1 EcotourismThe world Ecotourism

2.1 Ecotourism
The world Ecotourism is a combination of ecology (the study of systems of living things) and tourism. The International Ecotourism Society defines ecotourism as "responsible travel to natural areas that conserves the environment and improves the well-being of the local people." This mean that walking through a rain forest isn’t really ecotourism unless it benefit the area, perhaps by providing job to the local resident or by conserving the wildlife. Countries are slowly recognizing their natural resources.
Costa Rica has been leading the ecotourism movement for some time and was voted the most popular ecotourism destination by TripAdvisor.com in April 2012. It developed the certification for sustainable tourism (CTS) program in 1999, which was then used by the united nation world tourism organization as the model for the rest of Latin America thanks to its conversation efforts, over 25 percent of costa Rica’s land is covered in lush national parks its tourism industry generates over a billion dollars annually and provide jobs to thousands of people
Unfortunately people in the industry sometimes exploit the ecotourism label in their drive for profit this brand of Ecotourism isn’t always conducted in the most responsible way , and may damage the very environment it seek to protect. One concern is that the overwhelming number of visitor to these natural place(especially in the high season) has a negative effect on the ecotourism. Ecotourists tend to seek out places with the rarest animals and plants even if they take care not to disturb the environment their presence could put pressure on pressuring the most frail of living things. Another problem is the interaction between animals and humans. At one national park in Costa Rica, wild monkeys now feed on garbage left by the visitor and even aggressively steal food from tourists
Controlling abuses isn’t easy. Either. In developing countries where salaries aren’t high corruption can lead officials to tolerate ecological damage. For example, a large resort facility, normally not allowed near a sanctuary, might be allowed if the company bribes (give enough money to) certain people in the government. Limited resources are another issue. Areas of forests and beaches that would require an army to protect are often watched by several employees.
While tourists can have a negative impact on ecosystems, the same areas might have been totally destroyed by industries such as farming, logging, or mining were there no ecotourism industry did not exist. Tour guides can also be educators who train people to love and care for the environment. by visiting beautiful rainforests and seeing rare animals, visitors get a sense of their value and will hopefully take these lessons back with them to their home countries.
It is easy to be critical of the ecotourism industry but it is important to be positive as well. Ecotourism can never be "pure." We can't expect zero negative effects on the ecosystem. It is also unrealistic to think that humans won't go anywhere accessible to them. If protection efforts are maintained and intensified, those remaining places of undisturbed nature may be stressed, but they won't be destroyed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.1 ท่องเที่ยวเชิงนิเวศโลกท่องเที่ยวเชิงนิเวศคือ การรวมกันของนิเวศวิทยา (การศึกษาระบบของสิ่งมีชีวิต) และการท่องเที่ยว สังคมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นานาชาติกำหนดให้ท่องเที่ยวเชิงนิเวศเป็น "รับผิดชอบในพื้นที่ธรรมชาติที่สงวนสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงให้ความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น นั้น" นี้หมายความว่าที่เดินผ่านป่าฝนไม่ได้จริง ๆ นี่ประกอบไปด้วยเว้นแต่จะได้ประโยชน์ตั้ง อาจจะ โดยให้งานอาศัยท้องถิ่น หรืออนุรักษ์สัตว์ป่า ประเทศช้าจดจำของทรัพยากรธรรมชาติคอสตาริกาได้นำขบวนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในบางเวลา และมีบริการปลายทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นิยม โดย TripAdvisor.com ในเดือน 2012 เมษายน มันพัฒนารับรองโปรแกรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (CTS) ในปี 1999 ซึ่งเป็น แล้วใช้ โดยองค์การท่องเที่ยวโลกประเทศสหรัฐเป็นแบบสำหรับส่วนเหลือของสหรัฐอเมริกาด้วยความพยายามสนทนา กว่าร้อยละ 25 ของคอสตาริกาที่ดินครอบคลุมในลัชกว่าพันล้านดอลลาร์ต่อปีสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติ และให้คนงานแต่คนในอุตสาหกรรมบางครั้งใช้ป้ายท่องเที่ยวเชิงนิเวศของไดรฟ์สำหรับกำไรแบรนด์นี้ของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไม่เสมอดำเนินในทางชอบที่สุด และอาจเกิดความเสียหายจึงพยายามปกป้องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ปัญหาหนึ่งคือ ว่า จำนวนผู้เยี่ยมชมสถานที่ตามธรรมชาติเหล่านี้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง high season) ครอบงำมีผลกระทบในการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กีฬามักจะ หาสถานสัตว์และพืชถ้าจะดูแลไม่ให้รบกวนสภาพแวดล้อม พวกสามารถดันบน pressuring frail มากที่สุดของสิ่งมีชีวิตแม้ rarest ปัญหาอื่นมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสัตว์และมนุษย์ อุทยานแห่งชาติหนึ่งในคอสตาริกา ลิงป่ากินอาหารขยะจากผู้เข้าชมขณะนี้ และอุกอาจแม้ขโมยอาหารจากนักท่องเที่ยวการควบคุมการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้นไม่ง่าย อย่างใดอย่างหนึ่ง ในประเทศกำลังพัฒนาที่เงินเดือนไม่สูงเสียหายสามารถนำเจ้าหน้าที่อดทนความเสียหายของระบบนิเวศ ตัวอย่าง เป็นรีสอร์ทแอนด์สปาสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ได้รับอนุญาตใกล้แซงชัวรี่ อาจได้รับอนุญาตถ้าบริษัทแมคอินทอช (ให้เงินพอ) บางคนในรัฐบาล มีทรัพยากรจำกัดอีกประเด็น พื้นที่ป่าและชายหาดที่จะต้องมีกองทัพปกป้องโดยทั่วไปมักจะดู โดยพนักงานหลายคน ในขณะที่นักท่องเที่ยวสามารถมีผลกระทบเชิงลบในระบบนิเวศ พื้นที่เดียวกันอาจมีถูกย่อยยับ โดยอุตสาหกรรมเช่นทำนา การบันทึก หรือการทำเหมืองแร่ได้มี อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไม่ได้มีอยู่ แนะนำการท่องเที่ยวยังสามารถเป็นนักการศึกษาที่ฝึกคนให้รัก และดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเยี่ยมชมไม่สวย และเห็นสัตว์หายาก ผู้เข้าชมทราบค่าของพวกเขา และหวังว่าจะนำบทเรียนเหล่านี้กลับไปกับพวกเขาไปประเทศของตนจึงกลายเป็นความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเป็นค่าบวกเช่น ท่องเที่ยวเชิงนิเวศไม่สามารถจะ "บริสุทธิ์" เราไม่สามารถคาดหวังระบบนิเวศผลลบเป็นศูนย์ ก็ยังไม่คิดว่า มนุษย์จะไปที่ใดก็ได้เข้าไป หากความพยายามป้องกันรักษา และ intensified อาจเน้นสถานที่เหลืออยู่ของธรรมชาติอย่างมาก แต่พวกเขาจะไม่ถูกทำลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.1
การท่องเที่ยวเชิงนิเวศโลกการท่องเที่ยวเชิงนิเวศคือการรวมกันของระบบนิเวศ(การศึกษาระบบของสิ่งมีชีวิต) และการท่องเที่ยว สมาคมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศนานาชาติการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่กำหนดว่า "การเดินทางไปยังพื้นที่ที่รับผิดชอบในธรรมชาติที่อนุรักษ์สภาพแวดล้อมและช่วยเพิ่มความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น." นี้หมายความว่าเดินผ่านป่าฝนไม่ได้จริงๆการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเว้นแต่จะได้รับประโยชน์พื้นที่อาจจะโดยการให้งานที่ต้องมีถิ่นที่อยู่ในท้องถิ่นหรือโดยการอนุรักษ์สัตว์ป่า ประเทศจะค่อยๆตระหนักถึงทรัพยากรธรรมชาติของพวกเขา.
คอสตาริกาได้นำการเคลื่อนไหวการท่องเที่ยวเชิงนิเวศบางครั้งและได้รับการโหวตเป็นปลายทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เป็นที่นิยมมากที่สุดโดย TripAdvisor.com ในเดือนเมษายน 2012 มันพัฒนาได้รับการรับรองสำหรับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (CTS) โปรแกรมในปี 1999 ซึ่ง ถูกนำมาใช้แล้วโดยประเทศสหรัฐองค์การการท่องเที่ยวโลกเป็นแบบจำลองสำหรับส่วนที่เหลือของขอบคุณละตินอเมริกากับความพยายามการสนทนาของตนมากกว่าร้อยละ 25 ของที่ดินที่คอสตาริก้าจะครอบคลุมในสวนสาธารณะแห่งชาติที่เขียวชอุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สร้างกว่าพันล้านดอลลาร์ต่อปีและให้งาน หลายพันคน
แต่น่าเสียดายที่คนในอุตสาหกรรมบางครั้งใช้ประโยชน์จากฉลากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในไดรฟ์ของพวกเขาเพื่อผลกำไรของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแบรนด์นี้ไม่ได้ดำเนินการเสมอในทางที่รับผิดชอบมากที่สุดและอาจเกิดความเสียหายสภาพแวดล้อมมากมันพยายามที่จะปกป้อง หนึ่งในความกังวลก็คือว่าจำนวนมากของผู้เข้าชมสถานที่เหล่านี้ธรรมชาติ (โดยเฉพาะในช่วง high season) มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ecotourists มีแนวโน้มที่จะหาสถานที่ที่มีสัตว์ที่หายากและพืชแม้ว่าพวกเขาจะดูแลไม่ให้รบกวนสภาพแวดล้อมการปรากฏตัวของพวกเขาอาจสร้างแรงกดดันต่อกดดันอ่อนแอที่สุดของสิ่งมีชีวิตที่ ปัญหาก็คือการทำงานร่วมกันระหว่างสัตว์และมนุษย์
มีอยู่ช่วงหนึ่งอุทยานแห่งชาติในคอสตาริกาลิงป่าตอนนี้กินขยะที่เหลือจากผู้เข้าชมและแม้กระทั่งอุกอาจขโมยอาหารจากนักท่องเที่ยวควบคุมละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างใดอย่างหนึ่ง ในประเทศกำลังพัฒนาที่เงินเดือนไม่ได้ทุจริตสูงสามารถนำเจ้าหน้าที่ที่จะทนต่อความเสียหายของระบบนิเวศ ตัวอย่างเช่นสิ่งอำนวยความสะดวกรีสอร์ทขนาดใหญ่ตามปกติไม่ได้รับอนุญาตที่อยู่ใกล้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อาจจะได้รับอนุญาตถ้าสินบน บริษัท (ให้เงินมากพอที่จะ) คนบางคนในรัฐบาล ทรัพยากรที่มี จำกัด เป็นปัญหาอื่น พื้นที่ของป่าไม้และชายหาดที่จะต้องมีกองทัพที่จะปกป้องจะดูบ่อย ๆ โดยพนักงานหลายคน.
ในขณะที่นักท่องเที่ยวสามารถมีผลกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่เดียวกันอาจจะมีการถูกทำลายโดยสิ้นเชิงอุตสาหกรรมเช่นการเกษตรการเข้าสู่ระบบหรือการทำเหมืองแร่อยู่ที่นั่นไม่มี อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศไม่ได้อยู่ ไกด์ทัวร์ยังสามารถเป็นนักการศึกษาที่ฝึกอบรมคนที่จะรักและดูแลสภาพแวดล้อม โดยการเยี่ยมชมป่าฝนที่สวยงามและเห็นสัตว์หายากที่ผู้เข้าชมจะได้รับความรู้สึกของค่าของพวกเขาและหวังว่าจะใช้บทเรียนเหล่านี้กลับมาพร้อมกับพวกเขาไปยังประเทศบ้านของพวกเขา.
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะมีความสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นบวกเช่นกัน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศไม่สามารถ "บริสุทธิ์." เราไม่สามารถคาดหวังว่าศูนย์ผลกระทบต่อระบบนิเวศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ไม่สมจริงที่จะคิดว่ามนุษย์จะไม่ไปไหนที่สามารถเข้าถึงได้ให้กับพวกเขา หากความพยายามในการป้องกันมีการบำรุงรักษาและทวีความรุนแรงมากบรรดาสถานที่ที่ยังเหลืออยู่ของธรรมชาติที่ไม่ถูกรบกวนอาจจะเน้น แต่พวกเขาจะไม่ถูกทำลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.1 การท่องเที่ยว
โลกการท่องเที่ยวคือการรวมกันของนิเวศวิทยา ( ศึกษาระบบของสิ่งมีชีวิต ) และการท่องเที่ยว สมาคมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศนานาชาติกำหนดเป็น " การท่องเที่ยวที่รับผิดชอบในพื้นที่ที่อนุรักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนท้องถิ่น " หมายความว่า เดินผ่านป่าฝนที่ไม่ใช่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ นอกจากประโยชน์ต่อพื้นที่อาจจะโดยการให้งานในถิ่นที่อยู่ในท้องถิ่นหรืออนุรักษ์สัตว์ป่า ประเทศจะค่อยๆตระหนักถึงทรัพยากรทางธรรมชาติของพวกเขา .
คอสตาริกาได้นำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเคลื่อนไหวสำหรับเวลาและคะแนนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดย tripadvisor.com ปลายทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเมษายน 2012 มันได้รับการรับรองเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ( CTS ) โปรแกรมในปี 1999ซึ่งถูกใช้โดยสหประชาชาติองค์การการท่องเที่ยวโลกเป็นโมเดลสำหรับส่วนที่เหลือของละตินอเมริกาขอบคุณความพยายาม การสนทนาของ กว่าร้อยละ 25 ของคอสตาริกาที่ดินคลุมเขียวชอุ่มอุทยานแห่งชาติอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของมันสร้างกว่าพันล้านดอลลาร์ต่อปี และมีงานหลายพันคน
แต่น่าเสียดายที่ผู้คนในอุตสาหกรรม บางครั้งใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศฉลากในไดรฟ์ของพวกเขา สำหรับกำไร แบรนด์นี้ไม่ใช่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศไม่เสมอดำเนินการในทางที่รับผิดชอบมาก และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมมาก มันอยากจะปกป้อง หนึ่งกังวลคือจำนวนท่วมท้นของผู้เข้าชมเหล่านี้ธรรมชาติสถานที่ ( โดยเฉพาะในฤดูสูง ) จะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศecotourists มีแนวโน้มที่จะหาสถานที่ที่มีสัตว์และพืชหายาก แม้ว่าจะดูแลไม่ให้มารบกวนบรรยากาศการแสดงตนของพวกเขาจะกดดันกดดันที่บอบบางที่สุดของสิ่งมีชีวิต อีกปัญหาหนึ่งคือ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างสัตว์และมนุษย์ หนึ่งในอุทยานแห่งชาติคอสตาริกาป่าลิงตอนนี้อาหารขยะทิ้ง โดยผู้เข้าชม และแม้แต่อุกอาจขโมยอาหารจากนักท่องเที่ยว
การควบคุมการละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่ใช่เรื่องง่าย เหมือนกัน ในการพัฒนาประเทศที่เงินเดือนไม่คอร์รัปชั่นสูงสามารถนำเจ้าหน้าที่ทนต่อความเสียหายในระบบนิเวศ ตัวอย่างเช่น โรงงาน รีสอร์ท ขนาดใหญ่ ที่ปกติไม่อนุญาตใกล้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อาจได้รับอนุญาตถ้ารับสินบนบริษัท ( ให้เงินเพียงพอที่จะ ) บางคนในรัฐบาล ทรัพยากรที่ จำกัด มีปัญหาอีก พื้นที่ของป่าไม้และหาดทรายที่ต้องใช้กองทัพเพื่อปกป้องมักจะเห็นพนักงานหลาย
ในขณะที่นักท่องเที่ยวสามารถมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ และพื้นที่เดียวกันอาจถูกทำลายโดยอุตสาหกรรมเช่นการเกษตร , การบันทึกหรือเหมืองไม่มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่ได้อยู่ ไกด์ทัวร์ยังสามารถเป็นอาจารย์ที่ฝึกให้คน รัก และดูแลสิ่งแวดล้อม โดยการเยี่ยมชมป่าฝนที่สวยงามและเห็นสัตว์หายาก , ผู้เข้าชมได้รับความรู้สึกของมูลค่าของพวกเขาและหวังว่าจะใช้บทเรียนเหล่านี้กลับไปกับพวกเขาไปยังประเทศของตน .
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเป็นวิกฤตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นบวกเช่นกัน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ไม่สามารถจะ " บริสุทธิ์ " เราไม่สามารถคาดหวังว่าศูนย์ผลกระทบเชิงลบต่อระบบนิเวศ มันไม่สมจริงที่จะคิดว่ามนุษย์จะไม่ไปที่ใดก็ได้ที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้ . ถ้าความพยายามปกป้องรักษา และรุนแรง พวกที่เหลือที่คงสภาพธรรมชาติอาจจะเครียดแต่พวกเขาจะไม่ทำลาย