Up to here, cognitive and motivatio

Up to here, cognitive and motivational aspects of CCA and its relation with CL were
made explicit. It is crucial, furthermore, to discuss how motivational constructs are shaped
by CL settings as they are mediators of learning process having potential to be developed
by means of contextual factors (Pintrich et al., 1993). Being at the center of cooperative
efforts, positive interdependence is the key component to be established since it creates an
affiliation that joint efforts are extrinsically or intrinsically valuable to attain group’s goal.
Slavin (1996) stated that rewarding groups based on the individual learning of every group
members motivates students to represent peer norms fostering academic achievement, to
help each other learn the material, and to supply reinforcements for encouraging efforts to
accomplish group’s goal. Since STAD method attributes achievement outcomes to group
goals or group rewards based on individual learning of every group members, it can be
readily applied to increase student motivation to learn. In contrast to Slavin (1996),
Johnson & Johnson (1999,p. 188) assumed that it is not rewards but “working together
and joint aspirations to achieve a significant goal,”, that motivates students to help each
other’s mastering the task and praise joint efforts. According to Dörnyei (1997), likewise,
positive interdependence and the small group style promote emergence of group cohesiveness,
which is a powerful mediator of student motivation to learn. To sum up, every
small-group practice may not end with better student outcomes than individual efforts, as
claimed by Johnson & Johnson (1999). Correspondingly, it is significant to investigate the
conditions under what CL has positive effects on diverse student outcomes, as the related
literature points out (Slavin, 1996). To inspect necessary conditions, it is important to
differentiate cooperative learning group from other types of learning groups through
putting basic elements of CL into practice since performance of learning groups depends
on the way how cooperation is structured (Johnson & Johnson, 1999). Based on the given
theoretical perspective, the present study mainly aims to investigate the effect of structuring
cooperative learning based on conceptual change approach on grade 9 students’
understanding of the concepts of mixtures and their motivation. Analyzing grade 9
students’ conceptions about the concepts of mixtures is also within the scope of the
current study. Corresponding research questions (RQ) are as follows:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ด้านองค์ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจของมะเร็งท่อน้ำดีและมีความสัมพันธ์กับ CL มาถึงที่นี่ทำชัดเจน มันเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ เพื่อหารือโครงสร้างวิธีสร้างแรงบันดาลใจมีรูปร่างโดยตั้งค่า CL นั้น ผู้ไกล่เกลี่ยของกระบวนการเรียนรู้มีศักยภาพในการพัฒนาโดยปัจจัยบริบท (Pintrich et al. 1993) เป็นศูนย์กลางของสหกรณ์ความพยายาม บวกอิสระเสรีเป็นส่วนประกอบสำคัญการจัดตั้งเนื่องจากเป็นสร้างความสังกัดที่ร่วมความพยายามจะ extrinsically หรือความมีคุณค่าในการบรรลุเป้าหมายของกลุ่มSlavin (1996) ระบุว่า รางวัลกลุ่มอิงการเรียนรู้ของทุกกลุ่มสมาชิกนักเรียนถึงบรรทัดฐานเพียร์ทำนุบำรุงความสำเร็จทางวิชาการ การจูงช่วยกันเรียนวัสดุ และ การจัดหากำลังเสริมสำหรับความพยายามที่จะส่งเสริมให้บรรลุเป้าหมายของกลุ่ม ตั้งแต่สแตดแอตทริบิวต์วิธีสำเร็จผลการจัดกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มตามเรียนรู้ของสมาชิกกลุ่มทุกรางวัล สามารถพร้อมกับเพิ่มแรงจูงใจของนักเรียนในการเรียนรู้ ตรงกันข้ามกับ Slavin (1996),จอห์นสัน & จอห์นสัน (1999, p. 188) สันนิษฐานว่า มันไม่ใช่รางวัล แต่ "ทำงานร่วมกันและแรงบันดาลใจร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำคัญ ที่จูงนักเรียนเพื่อช่วยให้แต่ละอื่น ๆ เป็นการเรียนรู้การงานและสรรเสริญความพยายามร่วมกัน ตาม Dörnyei (1997), ทำนองเดียวกันบวกการพึ่งพากันและรูปแบบกลุ่มขนาดเล็กส่งเสริมการเกิดขึ้นของกลุ่มความซึ่งเป็นคนกลางที่มีประสิทธิภาพของแรงจูงใจของนักเรียนในการเรียนรู้ รวม ทุกแบบฝึกหัดกลุ่มขนาดเล็กอาจไม่ลงท้าย ด้วยผลลัพธ์ที่ดีกว่านักเรียนกว่าความพยายามของแต่ละบุคคล เป็นอ้าง โดยบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (1999) ตามลำดับ เป็นสำคัญการตรวจสอบการเงื่อนไขภายใต้อะไร CL มีผลในเชิงบวกในผลนักเรียนที่มีความหลากหลาย ที่เกี่ยวข้องเอกสารประกอบการชี้ออก (Slavin, 1996) การตรวจสอบเงื่อนไขที่จำเป็น จำเป็นต้องแยกกลุ่มการเรียนรู้สหกรณ์จากชนิดอื่น ๆ ของกลุ่มผ่านการเรียนรู้วางองค์ประกอบพื้นฐานของ CL มาปฏิบัติเนื่องจากขึ้นกับประสิทธิภาพของการเรียนรู้กลุ่มความร่วมมือเป็นวิธีทาง โครงสร้าง (Johnson & Johnson, 1999) ตามที่กำหนดมุมมองทางทฤษฎี การศึกษาส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบผลของการจัดโครงสร้างร่วมมือการเรียนรู้อิงแนวทางเปลี่ยนแปลงแนวคิดจากเกรด 9 นักเข้าใจแนวคิดของการผสมและแรงจูงใจ วิเคราะห์เกรด 9แนวของนักเรียนเกี่ยวกับแนวคิดของการผสมอยู่ภายในขอบเขตของการการศึกษาปัจจุบัน คำถามการวิจัยที่สอดคล้องกัน (RQ) ดังต่อไปนี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขึ้นไปที่นี่ด้านองค์ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจของ CCA และความสัมพันธ์กับ CL ถูก
ทำอย่างชัดเจน มันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งเพื่อหารือถึงวิธีการสร้างแรงบันดาลใจมีรูปทรง
โดยการตั้งค่า CL ที่พวกเขาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยของกระบวนการเรียนรู้ที่มีศักยภาพที่จะได้รับการพัฒนา
โดยวิธีการของปัจจัยบริบท (Pintrich et al., 1993) เป็นศูนย์กลางของสหกรณ์
พยายามพึ่งพาซึ่งกันและกันในเชิงบวกคือองค์ประกอบสำคัญที่จะจัดตั้งขึ้นเพราะมันจะสร้าง
ความร่วมมือที่ความพยายามร่วมกันเป็นภายนอกหรือภายในที่มีคุณค่าที่จะบรรลุเป้าหมายของกลุ่ม.
Slavin (1996) ระบุว่ากลุ่มที่คุ้มค่าขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลของทุก กลุ่ม
สมาชิกที่กระตุ้นให้นักเรียนเพื่อเป็นตัวแทนของบรรทัดฐานเพียร์อุปถัมภ์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อ
ช่วยกันเรียนรู้วัสดุและการจัดหาเสริมสำหรับส่งเสริมความพยายามที่จะ
บรรลุเป้าหมายของกลุ่ม ตั้งแต่วิธี STAD แอตทริบิวต์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้กับกลุ่ม
เป้าหมายหรือรางวัลกลุ่มอยู่บนพื้นฐานของการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลของสมาชิกในกลุ่มทุกคนก็สามารถ
นำไปใช้อย่างง่ายดายเพื่อเพิ่มแรงจูงใจของนักเรียนที่จะเรียนรู้ ในทางตรงกันข้ามกับ Slavin (1996),
จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (1999, น. 188) สันนิษฐานว่ามันไม่ได้ผลตอบแทน แต่ "การทำงานร่วมกัน
และแรงบันดาลใจร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างมีนัยสำคัญ" ที่กระตุ้นให้นักเรียนช่วยกัน
อื่น ๆ ของการเรียนรู้งานและ สรรเสริญความพยายามร่วมกัน ตามที่Dörnyei (1997) ในทำนองเดียวกัน
การพึ่งพาซึ่งกันและกันในเชิงบวกและรูปแบบกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มส่งเสริมการเกิดขึ้นของการเกาะกันเป็นกลุ่ม
ซึ่งเป็นคนกลางที่มีประสิทธิภาพของแรงจูงใจในการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อสรุปทุก
การปฏิบัติกลุ่มเล็ก ๆ อาจจะไม่จบลงด้วยผลการเรียนที่ดีกว่าความพยายามของแต่ละบุคคลเช่น
โดยอ้างว่าจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (1999) ตามลําดับมันเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบ
ภายใต้เงื่อนไขสิ่ง CL มีผลในเชิงบวกต่อผลงานของนักเรียนที่มีความหลากหลายเป็นที่เกี่ยวข้องกับ
วรรณคดีชี้ให้เห็น (Slavin, 1996) ในการตรวจสอบเงื่อนไขที่จำเป็นมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะ
แยกความแตกต่างของกลุ่มการเรียนแบบร่วมมือจากชนิดอื่น ๆ ในกลุ่มการเรียนรู้ผ่าน
การวางองค์ประกอบพื้นฐานของ CL สู่การปฏิบัติตั้งแต่ประสิทธิภาพของกลุ่มการเรียนรู้ขึ้นอยู่
กับวิธีการที่ว่าความร่วมมือที่มีโครงสร้าง (Johnson & Johnson, 1999) ขึ้นอยู่กับการได้รับ
มุมมองของทฤษฎีการศึกษาในปัจจุบันส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของการจัดโครงสร้าง
การเรียนแบบร่วมมือบนพื้นฐานของวิธีการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในระดับ 9 นักเรียน
เข้าใจในแนวคิดของการผสมและแรงจูงใจของพวกเขา การวิเคราะห์ระดับ 9
มโนทัศน์ของนักเรียนเกี่ยวกับแนวคิดของผสมยังอยู่ในขอบเขตของ
การศึกษาในปัจจุบัน คำถามที่สอดคล้องกับการวิจัย (RQ) มีรายละเอียดดังนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถึงตรงนี้ แง่มุมทางความคิด และสร้างแรงบันดาลใจของ CCA และความสัมพันธ์กับ CL คือทำให้ชัดเจน มันเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการสร้างโครงสร้างที่มีรูปร่างโดย CL การตั้งค่าตามที่ผู้ไกล่เกลี่ยของกระบวนการเรียนรู้ มีศักยภาพที่จะพัฒนาโดยปัจจัยด้านบริบท ( pintrich et al . , 1993 ) การเป็นศูนย์กลางของสหกรณ์ความพยายาม . บวกเป็นส่วนประกอบสำคัญ เพราะมันสร้างตั้งขึ้นความสัมพันธ์ที่ความพยายามร่วมกันเป็น extrinsically หรือที่มีคุณค่าภายในเพื่อบรรลุ เป้าหมายของกลุ่มสลาวิน ( 1996 ) ที่ระบุว่า ถูกกลุ่มขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลทุกกลุ่มสมาชิกกระตุ้นนักเรียนเป็นตัวแทนเพื่อนบรรทัดฐานการผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ,ช่วยเหลือกัน เรียนรู้วัตถุดิบและจัดหาเสริมเพื่อส่งเสริมความพยายามที่จะบรรลุ เป้าหมายของกลุ่ม ตั้งแต่แบบคุณลักษณะผลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มรางวัลตามแต่ละการเรียนรู้ทุกกลุ่มสมาชิก สามารถใช้เพื่อเพิ่มแรงจูงใจนักเรียนพร้อมที่จะเรียนรู้ ในทางตรงกันข้ามกับสลาวิน ( 1996 )จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ( 2542 , หน้า 188 ) สันนิษฐานว่ามันไม่ได้รางวัล แต่ทำงานด้วยกันและข้อสําคัญแรงบันดาลใจเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย " ที่กระตุ้นให้นักเรียนเพื่อช่วยให้แต่ละอื่น ๆของการเรียนรู้งาน และสรรเสริญความพยายามร่วมกัน ตาม D ö rnyei ( 1997 ) , อนึ่งการพึ่งพาอาศัยกันทางบวกและลักษณะการงอกของกลุ่มเล็ก ๆในกลุ่มซึ่งเป็นสื่อกลางที่มีประสิทธิภาพของแรงจูงใจที่จะเรียนรู้ รวมทุกการปฏิบัติของกลุ่มเล็ก ๆไม่อาจสิ้นสุดกับดีกว่าผลนักเรียนกว่าความพยายามของแต่ละบุคคล เช่นอ้างโดยจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ( 1999 ) ต้องกัน , มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะตรวจสอบภายใต้เงื่อนไขว่า CL ได้ผลในเชิงบวกเกี่ยวกับผลของนักเรียนที่หลากหลาย ในฐานะที่เกี่ยวข้องวรรณกรรมชี้ให้เห็น ( สเลวิน , 1996 ) การตรวจสอบเงื่อนไขที่จำเป็น เป็นสำคัญความแตกต่างของการเรียนแบบร่วมมือในกลุ่มจากประเภทอื่น ๆของกลุ่มที่ผ่านการเรียนรู้การวางองค์ประกอบขั้นพื้นฐานของ CL ในการปฏิบัติเนื่องจากประสิทธิภาพในการเรียนรู้กลุ่มขึ้นในทางวิธีการความร่วมมือโครงสร้าง ( Johnson & Johnson , 1999 ) ตามให้มุมมองเชิงทฤษฎีในการศึกษาส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโครงสร้างการเรียนแบบร่วมมือตามวิธีเปลี่ยนแนวความคิดในเกรด 9 นักเรียนความเข้าใจของแนวคิดของการผสมและแรงจูงใจของพวกเขา การวิเคราะห์ระดับ 9นักเรียนมโนทัศน์เกี่ยวกับแนวคิดของการผสม นอกจากนี้ ภายในขอบเขตของการศึกษาในปัจจุบัน คำถามวิจัยที่เกี่ยวข้อง ( RQ ) มีดังนี้ :