The vision for science education se

The vision for science education set forth in "A Framework for K-12 Science Education" (NRC 2012) makes it clear that for today's students to become the scientifically literate citizens of tomorrow their educational experiences must help them become mathematically proficient. "The focus here is on important practices, such as modeling, developing explanations, and engaging in critique and evaluation" (NRC 2012, p. 3-2). Mathematics is fundamental to modeling and providing evidence-based conclusions. The "Framework" also includes "using mathematics, information and computer technology, and computational thinking" in its list of eight essential practices for K-12 science and mathematics (NRC 2012, p 3-5). This article discusses what it means for students to be mathematically proficient in the context of science and how science teachers can help students develop that proficiency. (Contains 6 figures and 1 online resource.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิสัยทัศน์สำหรับการศึกษาวิทยาศาสตร์ที่กำหนดไว้ใน "กรอบการศึกษา K-12 วิทยาศาสตร์" (NRC 2012) ทำให้ชัดเจนว่าสำหรับนักเรียนวันนี้เป็น พลเมืองวิทยาศาสตร์ literate ของวันพรุ่งนี้ที่ประสบการณ์การศึกษาต้องช่วยให้พวกเขากลายเป็นความเชี่ยวชาญ mathematically "ที่นี่คือในทางปฏิบัติที่สำคัญ เช่นการสร้างโมเดล การพัฒนาคำอธิบาย และในการวิจารณ์และประเมิน" (NRC 2012, p. 3-2) คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานของการสร้างโมเดล และให้สรุปพยานหลักฐานตาม "กรอบ" มี "ใช้คณิตศาสตร์ ข้อมูล และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และคิดคำนวณ" ในรายชื่อปฏิบัติแปดจำ K-12 วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (NRC 2012, p 3-5) บทความนี้กล่าวถึงความหมายสำหรับนักเรียนที่จะเชี่ยวชาญในบริบทของวิทยาศาสตร์ mathematically และครูวิทยาศาสตร์จะช่วยพัฒนาความชำนาญในการที่นักเรียน (ประกอบด้วยเลข 6 และทรัพยากรออนไลน์ 1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิสัยทัศน์สำหรับการศึกษาวิทยาศาสตร์ที่กำหนดไว้ใน "กรอบ K-12 การศึกษาวิทยาศาสตร์" (อาร์ซี 2012) ทำให้มันชัดเจนว่าสำหรับนักเรียนในวันนี้จะกลายเป็นพลเมืองรู้ทางวิทยาศาสตร์ในวันพรุ่งนี้ประสบการณ์การศึกษาของพวกเขาต้องช่วยให้พวกเขากลายเป็นความเชี่ยวชาญทางคณิตศาสตร์ "มุ่งเน้นที่นี่คือการปฏิบัติที่สำคัญเช่นการสร้างแบบจำลองคำอธิบายที่พัฒนาและมีส่วนร่วมในการวิจารณ์และการประเมินผล" (NRC 2012, น. 3-2) คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานในการสร้างแบบจำลองและการให้ข้อสรุปตามหลักฐาน ว่า "กรอบ" นอกจากนี้ยังรวมถึง "การใช้คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศคอมพิวเตอร์และการคิดคำนวณ" ในรายการแปดปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับวิทยาศาสตร์ K-12 และคณิตศาสตร์ (NRC 2012, หน้า 3-5) บทความนี้กล่าวถึงสิ่งที่มันหมายสำหรับนักเรียนที่จะเป็นทางคณิตศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญในบริบทของวิทยาศาสตร์และวิธีการที่ครูวิทยาศาสตร์สามารถช่วยให้นักเรียนพัฒนาความสามารถที่ (มี 6 ตัวเลขและ 1 ทรัพยากรออนไลน์.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิสัยทัศน์สำหรับวิทยาศาสตร์ศึกษาที่กำหนดไว้ใน " กรอบภาคบังคับการศึกษาวิทยาศาสตร์ " ( NRC 2012 ) ทำให้มันชัดเจนว่า วันนี้นักเรียนจะกลายเป็นน่ารู้หนังสือพลเมืองของพรุ่งนี้ ประสบการณ์ด้านการศึกษาของพวกเขาจะช่วยให้พวกเขากลายเป็นความเชี่ยวชาญทางคณิตศาสตร์ " ที่นี่เน้นการปฏิบัติที่สำคัญ เช่น การ พัฒนา คำอธิบายและมีส่วนร่วมในการวิจารณ์และประเมินผล " ( NRC 2012 , หน้า 3-2 ) คณิตศาสตร์พื้นฐานและให้หลักฐานการสรุป " กรอบ " รวมถึง " ใช้คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์คิด " ในรายการของแปดวิธีปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับวิทยาศาสตร์ภาคบังคับและคณิตศาสตร์ ( NRC 2012 , p 3-5 )บทความนี้อธิบายสิ่งที่มันหมายความว่าสำหรับนักเรียนที่จะเป็นทางคณิตศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญในบริบทของวิทยาศาสตร์แล้ว ครูวิทยาศาสตร์ สามารถช่วยให้นักเรียนพัฒนาความสามารถ . ( ประกอบด้วยตัวเลข 6 และทรัพยากร 1 ออนไลน์ )