The use of liquid feed in European

The use of liquid feed in European pig production is widely spread (Scholten et al., 1999 and Brooks et al., 2003) and the interest for it has increased during the last years due to the recent total ban of antibiotic growth promoters in the European Union. As for many other food materials, fermentation of animal feed confers protection against pathogens that the raw materials might harbour or that might contaminate the feed during storage (Adams and Nicolaides, 1997, van Winsen et al., 2000, Beal et al., 2002 and Canibe and Jensen, 2003). Successful fermentations of liquid feed can be obtained by mixing fresh feed and water with material from a previous successful fermentation, which acts as inoculum for the new mixture (Jensen and Mikkelsen, 1998, Scholten, 2001 and Canibe and Jensen, 2003). However, the final product will be of good microbial quality and biosafe only if the amount of inoculum, the temperature at which the mixture is maintained, and the interval between addition of fresh feed and water to the next addition (turn-over) are appropriate (Jensen and Mikkelsen, 1998, Scholten, 2001 and Beal et al., 2002). Characteristics of FLF prepared when combining the appropriate amount of inoculum, temperature and turn-over are: low pH, high numbers of lactic acid bacteria, low numbers of Enterobacteriaceae, high concentrations of lactic acid, and, to a lower extent, of acetic acid (Jensen and Mikkelsen, 1998 and Canibe and Jensen, 2003). The low pH and high concentration of acids in the FLF are the main contributors to the production of microbiologically safe and stable FLF and other fermented foods (Adams and Nicolaides, 1997, Jensen and Mikkelsen, 1998 and van Winsen et al., 2000). During the initial phase of fermentation, however, high levels of Enterobacteriaceae proliferate in the liquid feed due to the still relatively high pH and low acidity of the mixture at this stage (Jensen and Mikkelsen, 1998, Canibe et al., 2001 and Beal et al., 2002). Various strategies, like addition of starter cultures and addition of organic acids, have been used in order to avoid or attenuate the development of high levels of Enterobacteriaceae in the liquid feed (Geary et al., 1999, Canibe et al., 2001 and Niven et al., in press).
When fed to growing pigs and piglets, FLF has repeatedly been reported to improve gastrointestinal health of the animals compared to dry feed and/or non-FLF (van Winsen et al., 2001, Demecková et al., 2002, Canibe and Jensen, 2003, Lindecrona et al., 2003 and Boesen et al., 2004). However, more variable results on the effect of FLF on growth performance of pigs have been observed (Russell et al., 1996, Mikkelsen and Jensen, 2000, Pedersen, 2001 and Canibe and Jensen, 2003). Disappearance of amino acids and production of high levels of off-flavours, like acetic acid and biogenic amines, during fermentation of liquid feed have been suggested as important contributors to the negative results observed on growth performance (Brooks et al., 2001 and Pedersen, 2001).
In order to improve the nutritional value of FLF while keeping its health promoting characteristics, a holistic approach is needed where both the nutritional and microbial characteristics of liquid feed during fermentation are followed concomitantly.
The aim of the present in vitro study was to describe the course of fermentation of liquid feed of suboptimal microbial quality without and with additives during incubation, including microbial characteristics and amino acid concentration in the mixture.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การใช้อาหารสัตว์ที่มีสภาพคล่องในการผลิตสุกรยุโรปจะแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง (Scholten et al., 1999 และบรูคส์ et al., 2003) และดอกเบี้ยสำหรับมันได้เพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาเนื่องจากการห้ามทั้งหมดที่ผ่านมาของการส่งเสริมการเจริญเติบโตยาปฏิชีวนะใน อียู สำหรับวัสดุอาหารอื่น ๆ อีกมากมายการหมักอาหารสัตว์ฟาโรห์ป้องกันเชื้อโรคที่วัตถุดิบที่อาจจะมีหรือที่อาจปนเปื้อนอาหารระหว่างการเก็บรักษา (อดัมส์และนิโคไล 1997 รถตู้ Winsen et al., 2000 Beal et al., 2002 และ Canibe และเซ่น 2003) ที่ประสบความสำเร็จหมักของอาหารเหลวที่จะได้รับจากการผสมอาหารสัตว์สดและน้ำที่มีสาระสำคัญจากการหมักที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวเชื้อสำหรับส่วนผสมใหม่ (เซ่นและ Mikkelsen 1998 Scholten, ปี 2001 และ Canibe และเซ่น 2003) อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายจะมีคุณภาพที่ดีและจุลินทรีย์ไบโอเซฟเฉพาะในกรณีที่ปริมาณของเชื้อที่อุณหภูมิที่ส่วนผสมจะยังคงทำงานและช่วงเวลาระหว่างนอกจากอาหารสดและน้ำนอกจากนี้ถัดไป (หันไป) มีความเหมาะสม (เซ่นและ Mikkelsen 1998 Scholten, ปี 2001 และ Beal et al., 2002) ลักษณะของ FLF เตรียมเมื่อรวมจำนวนที่เหมาะสมของเชื้ออุณหภูมิและเปิดกว่าคือมีค่า pH ต่ำตัวเลขสูงของแบคทีเรียกรดแลคติกตัวเลขที่ต่ำของ Enterobacteriaceae, ความเข้มข้นสูงของกรดแลคติกและในระดับที่ต่ำกว่าของกรดอะซิติก (เซ่นและ Mikkelsen 1998 และ Canibe และเซ่น 2003) ค่า pH ต่ำและความเข้มข้นสูงของกรดใน FLF เป็นหลักส่วนการผลิตของจุลินทรีย์ FLF ปลอดภัยและมีความเสถียรและอาหารหมักอื่น ๆ (อดัมส์และนิโคไล 1997 เซ่นและ Mikkelsen 1998 และรถตู้ Winsen et al., 2000) ในช่วงเริ่มต้นของการหมัก แต่ระดับสูงของ Enterobacteriaceae แพร่หลายในอาหารเหลวเนื่องจากค่า pH ยังค่อนข้างสูงและความเป็นกรดต่ำของสารผสมในขั้นตอนนี้ (เซ่นและ Mikkelsen 1998 Canibe et al., 2001 และ Beal และ al., 2002) กลยุทธ์ต่างๆเช่นการเพิ่มขึ้นของเชื้อจุลินทรีย์เริ่มต้นและนอกเหนือจากกรดอินทรีย์ได้ถูกนำมาใช้ในการสั่งซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดทอนการพัฒนาระดับสูงของ Enterobacteriaceae ในอาหารเหลว (Geary et al., 1999, Canibe et al., 2001 และนิเวน et al., ในหนังสือพิมพ์).
เมื่อป้อนให้กับการเจริญเติบโตของสุกรและลูกสุกร, FLF ได้รับซ้ำ ๆ รายงานการปรับปรุงสุขภาพของระบบทางเดินอาหารของสัตว์เมื่อเทียบกับอาหารสัตว์แห้งและ / หรือไม่ FLF (รถตู้ Winsen et al., 2001, Demeckováและคณะ . 2002 Canibe และเซ่น 2003 Lindecrona et al., 2003 และ Boesen et al., 2004) อย่างไรก็ตามผลตัวแปรเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของการ FLF ต่อการเจริญเติบโตของสุกรที่ได้รับการปฏิบัติ (รัสเซล et al., 1996 Mikkelsen และเซ่น 2000 Pedersen, ปี 2001 และ Canibe และเซ่น 2003) การหายตัวไปของกรดอะมิโนและการผลิตระดับสูงของนอกรสชาติเช่นกรดอะซิติกและสารประกอบเอมีนในระหว่างการหมักอาหารเหลวได้รับการแนะนำให้เป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่จะสังเกตเห็นผลลบต่อการเจริญเติบโต (บรูคส์ et al., 2001 และ Pedersen, 2001).
เพื่อปรับปรุงคุณค่าทางโภชนาการของ FLF ขณะที่การรักษาสุขภาพของลักษณะการส่งเสริมแนวทางแบบองค์รวมเป็นสิ่งจำเป็นที่ทั้งสองลักษณะทางโภชนาการและจุลินทรีย์ในอาหารเหลวระหว่างการหมักมีการปฏิบัติตามร่วมกัน.
จุดมุ่งหมายของการศึกษาการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในปัจจุบันคือการ อธิบายแน่นอนของการหมักของอาหารเหลวที่มีคุณภาพทางจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์โดยไม่ต้องและมีสารในระหว่างการบ่มรวมทั้งลักษณะของจุลินทรีย์และความเข้มข้นของกรดอะมิโนในส่วนผสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้อาหารเหลวในการผลิตสุกรยุโรปมีการแพร่กระจายอย่างกว้างขวาง ( scholten et al . , 1999 และ Brooks et al . , 2003 ) และดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นในช่วงปีสุดท้ายเนื่องจากที่ผ่านมาทั้งหมด บ้านของโปรโมเตอร์การเจริญเติบโตยาปฏิชีวนะในสหภาพยุโรป เป็นหลายวัสดุอาหารอื่น ๆการหมักอาหารสัตว์เกี่ยวข้องป้องกันเชื้อโรคที่อาจท่าเรือ หรือวัตถุดิบที่อาจปนเปื้อนอาหารระหว่างการเก็บรักษา ( อดัม นิโคไล , 1997 , รถตู้วินเซ่น et al . , 2000 , บีล et al . , 2002 และ canibe และเจนเซ่น , 2003 ) fermentations ประสบความสำเร็จของอาหารเหลวที่สามารถรับได้โดยการผสมอาหารสดและน้ำด้วยวัสดุจากก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จในการหมักซึ่งทำหน้าที่เป็นเชื้อสำหรับส่วนผสมใหม่ ( เจนเซ่น กับ mikkelsen , 1998 , scholten , 2001 และ canibe และเจนเซ่น , 2003 ) อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์สุดท้ายมีคุณภาพทางจุลินทรีย์ที่ดีและ biosafe เท่านั้น ถ้าปริมาณของเชื้อ อุณหภูมิ ที่ ส่วนผสม รักษาและช่วงระหว่างส่วนของอาหารสดและน้ำเพื่อเพิ่มหน้า ( หงาย ) เหมาะสม ( เจนเซ่น และ mikkelsen scholten , 1998 , 2001 และบีล et al . , 2002 ) ลักษณะของ flf เตรียมเมื่อรวมปริมาณที่เหมาะสมของเชื้อ อุณหภูมิ และพลิก : pH ต่ำสูง ตัวเลขของแบคทีเรียกรดแลคติก ตัวเลขของผิดเพี้ยนต่ำ ,ความเข้มข้นสูงของกรดแลคติกและในระดับต่ำของกรด ( เจนเซ่น และ mikkelsen , 1998 และ canibe และเจนเซ่น , 2003 ) pH ต่ำ และความเข้มข้นสูงของกรดใน flf เป็นผู้สนับสนุนหลักในการผลิตมีความปลอดภัยจากจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค และมีเสถียรภาพ flf และอื่น ๆอาหารหมัก ( อดัม นิโคไล , 1997 , เจนเซ่น กับ mikkelsen , 1998 และรถตู้วินเซ่น et al . , 2000 )ในช่วงระยะเริ่มต้นของการหมัก แต่ระดับผิดเพี้ยน proliferate ในอาหารเหลว เนื่องจากยังคงค่อนข้างสูง และความเป็นกรดต่ำของส่วนผสมในขั้นตอนนี้ ( เจนเซ่น และ mikkelsen , 1998 , canibe et al . , 2001 และบีล et al . , 2002 ) กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น จากเชื้อบริสุทธิ์เริ่มต้นและการเพิ่มของกรดอินทรีย์ได้ถูกนำมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการพัฒนาของระดับสูงของผิดเพี้ยนในอาหารเหลว ( เกียรี่ et al . , 1999 , canibe et al . , 2001 และนิเวน et al . , กด )
เมื่อเลี้ยงสุกร และลูกสุกร flf , กล่าวว่าในการปรับปรุงสุขภาพของ สัตว์เมื่อเทียบกับบริการอาหาร และ / หรือ ไม่ flf ( รถตู้วินเซ่น et al . , 2001 , demeckov . kgm et al . , 2002canibe และเจนเซ่น , 2003 , lindecrona et al . , 2003 และ boesen et al . , 2004 ) อย่างไรก็ตามอีกตัวแปรผลผลของ flf ต่อสมรรถนะการเจริญเติบโตของลูกสุกรได้รับการตรวจสอบ ( Russell et al . , 1996 , mikkelsen และเจนเซ่น , 2000 , Pedersen , 2001 และ canibe และเจนเซ่น , 2003 ) การหายตัวไปของกรดอะมิโนและการผลิตระดับปิดที่รสชาติเหมือนกรดไบโอเจนิกเอมีนในระหว่างการหมักของอาหารเหลวที่ได้รับการแนะนำเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญลบผลที่พบในการเจริญเติบโต ( Brooks et al . , 2001 และ Pedersen , 2001 ) .
เพื่อปรับปรุงคุณค่าทางอาหารของ flf ในขณะที่การรักษา ส่งเสริมสุขภาพ ลักษณะวิธีการแบบองค์รวมเป็นสิ่งจำเป็นที่ทั้งทางโภชนาการและจุลินทรีย์ ลักษณะของอาหารเหลว ระหว่างการหมักจะตามเป็นทีม .
จุดมุ่งหมายของปัจจุบันการศึกษาในห้องปฏิบัติการเพื่ออธิบายหลักสูตรของการหมักของอาหารเหลวคุณภาพทางจุลินทรีย์ suboptimal มีวัตถุเจือปนในช่วงระยะเวลารวมถึงลักษณะของจุลินทรีย์และปริมาณกรดอะมิโนในส่วนผสม