การทำข้าวต้ม หรือตูปะประวัติความเป็

การทำข้าวต้ม หรือตูปะ
ประวัติความเป็นมา
ข้าวต้ม หรือตูปะ นิยมทำในช่วงที่มีเทศกาล เช่นในศาสนาอิสลามจะทำข้าวต้ม (ตูปะ) เนื่องจากวันออกบวช คือวันรายอเพื่อฉลองเวลาไปเยี่ยมบ้านญาติพี่น้อง เพื่อนำไปอ่านดูอาร์ให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ว ถ้าเป็นศาสนาพุทธจะนิยมทำกันในวันทำบุญเดือนสิบ ซึ่งเชื่อว่าจะพาเดินทางกลับโลกหน้าแล้วไม่เสีย
วัสดุที่ใช้(ประเภทผ้าทำจากฝ่าย ไหม เส้นทอง เส้นเงิน เป็นต้น ประเภทประทิ่นบอกส่วนผสมทุกชนิด)
๑. เตาถ่าน หรือเตาแก๊ส
๒. กระทะทองเหลือง หรือหม้อขนาดใหญ่
๓. กระด้ง หรือถาดขนาดใหญ่
๔. ข้าวเหนียวขาว ๑/๒ กิโลกรัม
๕. กะทิสด ๒ ถ้วย
๖. เกลือ ๑ ช้อนโต๊ะ
๗. น้ำตาลทราย ๑ ถ้วยตวง
๘. ใบกะพ้อ ๕-๖ ยอด
วิธีทำ(ใช้วิธีทอ ถักหรือพิมพ์ เป็นต้น บอกกรรมวิธีและขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียด เครื่องมือที่ใช้ เทคนิควิธีการ)
๑. นำข้าวเหนียวขาวไปล้างน้ำจนสะอาด แล้วนำไปแช่น้ำ ๑ คืน
๒. เลือกยอดใบกะพ้อ แล้วนำมาคลี่ตั้งไว้
๓. นำข้าวเหนียวขาวที่แช่น้ำไปเสด็จน้ำ แล้วไปนึ่ง
๔. นึ่งพอสุก นำมาคลุกกับน้ำกะทิคลุกให้แห้ง
๕. แล้วนำไปห่อกับใบกะพ้อ
๖. ตัดใบกะพ้อส่วนที่เกินจากการมัดนำไปรองกระทะแล้วนำข้าวต้มมาเรียงให้เต็ม เติมน้ำแล้วนำไปต้มประมาณ ๒-๓ ชั่วโมง จนน้ำแห้งยกใส่กระด้งให้หายร้อน จากนั้นนำมารับประทานได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การทำข้าวต้มหรือตูปะ
ประวัติความเป็นมา
ข้าวต้มหรือตูปะนิยมทำในช่วงที่มีเทศกาลเช่นในศาสนาอิสลามจะทำข้าวต้ม (ตูปะ) เนื่องจากวันออกบวช คือวันรายอเพื่อฉลองเวลาไปเยี่ยมบ้านญาติพี่น้อง เพื่อนำไปอ่านดูอาร์ให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ววัสดุที่ใช้ (ประเภทผ้าทำจากฝ่ายไหมเส้นทองเส้นเงินเป็นต้นประเภทประทิ่นบอกส่วนผสมทุกชนิด)
1 เตาเตาแก๊ส
2 ถ่านหรือ กระทะทองเหลืองหรือหม้อขนาดใหญ่
3 กระด้งหรือถาดขนาดใหญ่
4 ข้าวเหนียวขาว 1/2 กิโลกรัม
5กะทิสด 2 ถ้วย
6 เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
7 น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
8 5-6 ใบกะพ้อยอด
วิธีทำ (ใช้วิธีทอถักหรือพิมพ์เป็นต้นบอกกรรมวิธีและขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียดเครื่องมือที่ใช้เทคนิควิธีการ)
1นำข้าวเหนียวขาวไปล้างน้ำจนสะอาดแล้วนำไปแช่น้ำ 1 คืน
2 เลือกยอดใบกะพ้อแล้วนำมาคลี่ตั้งไว้
3 นำข้าวเหนียวขาวที่แช่น้ำไปเสด็จน้ำ แล้วไปนึ่ง
4 นึ่งพอสุกนำมาคลุกกับน้ำกะทิคลุกให้แห้ง
5แล้วนำไปห่อกับใบกะพ้อ
6 ตัดใบกะพ้อส่วนที่เกินจากการมัดนำไปรองกระทะแล้วนำข้าวต้มมาเรียงให้เต็ม เติมน้ำแล้วนำไปต้มประมาณ 2-3 ชั่วโมงจนน้ำแห้งยกใส่กระด้งให้หายร้อนจากนั้นนำมารับประทานได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทำข้าวต้มหรือตูปะ
ประวัติความเป็นมา
ข้าวต้มหรือตูปะนิยมทำในช่วงที่มีเทศกาลเช่นในศาสนาอิสลามจะทำข้าวต้ม (ตูปะ) เนื่องจากวันออกบวชคือวันรายอเพื่อฉลองเวลาไปเยี่ยมบ้านญาติพี่น้องเพื่อนำไปอ่านดูอาร์ให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะพาเดินทางกลับโลกหน้าแล้วไม่เสีย
วัสดุที่ใช้ (ประเภทผ้าทำจากฝ่ายไหมเส้นทองเส้นเงินเป็นต้นประเภทประทิ่นบอกส่วนผสมทุกชนิด)
๑ . หรือเตาแก๊สเตาถ่าน
หรือหม้อขนาดใหญ่กระทะทองเหลือง ๒ .
๓ . กระด้งหรือถาดขนาดใหญ่
๔ . ข้าวเหนียวขาว๑/๒กิโลกรัม
๕ กะทิสด ๒ ถ้วย
๖ . เกลือ ๑ ช้อนโต๊ะ
๗ . น้ำตาลทราย ๑ ถ้วยตวง
๘ . ใบกะพ้อ ๕ - ๖ ยอด
วิธีทำ (ใช้วิธีทอถักหรือพิมพ์เป็นต้นบอกกรรมวิธีและขั้นตอนต่างๆ อย่างละเอียดเครื่องมือที่ใช้เทคนิควิธีการ)
๑ นำข้าวเหนียวขาวไปล้างน้ำจนสะอาดแล้วนำไปแช่น้ำ ๑ คืน
๒ . แล้วนำมาคลี่ตั้งไว้เลือกยอดใบกะพ้อ
แล้วไปนึ่งนำข้าวเหนียวขาวที่แช่น้ำไปเสด็จน้ำ ๓ .
๔ . นำมาคลุกกับน้ำกะทิคลุกให้แห้งนึ่งพอสุก
๕ แล้วนำไปห่อกับใบกะพ้อ
๖ . ตัดใบกะพ้อส่วนที่เกินจากการมัดนำไปรองกระทะแล้วนำข้าวต้มมาเรียงให้เต็มเติมน้ำแล้วนำไปต้มประมาณ ๒ - ๓ ชั่วโมงจนน้ำแห้งยกใส่กระด้งให้หายร้อนจากนั้นนำมารับประทานได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทำข้าวต้มหรือตูปะประวัติความเป็นมา

ข้าวต้มหรือตูปะนิยมทำในช่วงที่มีเทศกาลเช่นในศาสนาอิสลามจะทำข้าวต้ม(ตูปะ)เนื่องจากวันออกบวชคือวันรายอเพื่อฉลองเวลาไปเยี่ยมบ้านญาติพี่เพื่อนำไปอ่านดูอาร์ให้กับผู้ล่วงลับไปแล้วซึ่งเชื่อว่าจะพาเดินทางกลับโลกหน้าแล้วไม่เวัสดุที่ใช้( ประเภทผ้าทำจากฝ่าย ไหมเส้นทองเส้นเงินเป็นต้น ประเภทประทิ่นบอกส่วนผสมทุกชนิด )
๑. เตาถ่านหรือเตาแก๊ส
๒. กระทะทองเหลืองหรือหม้อขนาดใหญ่
๓. กระด้งหรือถาดขนาดใหญ่
๔. ข้าวเหนียวขาว๑/๒กิโลกรัม
๕.กะทิสด๒ถ้วย
๖. เกลือ๑ช้อนโต๊ะ
๗. น้ำตาลทราย๑ถ้วยตวง
๘. ใบกะพ้อ๕ - ๖ยอด
วิธีทำ(ใช้วิธีทอถักหรือพิมพ์เป็นต้นบอกกรรมวิธีและขั้นตอนต่างๆอย่างละเอียดเครื่องมือที่ใช้เทคนิควิธีการ)
๑.นำข้าวเหนียวขาวไปล้างน้ำจนสะอาดแล้วนำไปแช่น้ำ
๒๑คืน. เลือกยอดใบกะพ้อแล้วนำมาคลี่ตั้งไว้
๓. นำข้าวเหนียวขาวที่แช่น้ำไปเสด็จน้ำแล้วไปนึ่ง
๔. นึ่งพอสุกนำมาคลุกกับน้ำกะทิคลุกให้แห้ง
๕.แล้วนำไปห่อกับใบกะพ้อ
๖. ตัดใบกะพ้อส่วนที่เกินจากการมัดนำไปรองกระทะเติมน้ำแล้วนำไปต้มประมาณ๒ - ๓ชั่วโมงจนน้ำแห้งยกใส่กระด้งให้หายร้อนจากนั้นนำมารับประทานได้
ตามมาตรฐาน