Building a sentence A sentence is a

Building a sentence
A sentence is a group of words which starts with a capital letter and ends with a full stop (.), question mark (?) or exclamation mark (!). A sentence contains or implies a predicate and a subject.
Sentences contain clauses.
Simple sentences have one clause.
Compound sentences and complex sentences have two or more clauses.
Sentences can contain subjects and objects.
The subject in a sentence is generally the person or thing carrying out an action. The object in a sentence is involved in an action but does not carry it out; the object comes after the verb.
The boy climbed a tree.
If you want to say more about the subject (the boy) or the object (the tree), you can add an adjective.
For example:
The young boy climbed a tall tree.
If you want to say more about how he climbed the tree you can use an adverb.
The young boy quickly climbed a tall tree.
The sentence becomes more interesting as it gives the reader or listener more information.
There are more things you can add to enrich your sentence.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสร้างประโยค
ประโยคคือกลุ่มของคำที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษรตัวใหญ่และจบลงด้วยการหยุดเต็ม (.) เครื่องหมายคำถาม (?) หรือเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) ประโยคที่มีความหมายหรือคำกริยาและเรื่อง
ประโยคที่มีประโยค.
มีประโยคหนึ่งประโยค.
ประโยคและประโยคที่ซับซ้อนมีมากกว่าสองประโยค.
ประโยคสามารถมีวิชาและวัตถุ.
เรื่องในประโยคโดยทั่วไปบุคคลหรือสิ่งที่ดำเนินการการกระทำ วัตถุในประโยคที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการ แต่ไม่ได้พกออกวัตถ​​ุมาหลังจากคำกริยา
เด็กปีนขึ้นต้นไม้
ถ้าคุณต้องการที่จะพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ (เด็ก) หรือวัตถุ (.. ต้นไม้) คุณสามารถเพิ่มคำคุณศัพท์
ตัวอย่างเช่น:.
เด็กหนุ่มปีนขึ้นต้นไม้สูง
.ถ้าคุณต้องการที่จะพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่เขาปีนขึ้นต้นไม้คุณสามารถใช้คำวิเศษณ์.
เด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วปีนขึ้นต้นไม้สูง.
ประโยคกลายเป็นน่าสนใจมากขึ้นที่จะให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังข้อมูลเพิ่มเติม.
มีสิ่งเพิ่มเติมที่คุณ สามารถเพิ่มเพื่อเพิ่มประโยคของคุณ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สร้างประโยค
ประโยคคือ กลุ่มคำที่ขึ้นต้น ด้วยตัวอักษร และลงท้าย ด้วยมหัพภาค (.), เครื่องหมายคำถาม (?) หรือเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) ประโยคประกอบด้วย หรือหมายถึงเป็นเพรดิเคตและเรื่อง
ประโยคประกอบด้วยประโยค.
ประโยคง่าย ๆ ได้หนึ่งส่วน
ประโยคผสมและประโยคซับซ้อนได้อย่าง น้อย 2 ประโยค
ประโยคสามารถประกอบด้วยหัวเรื่องและวัตถุได้
เรื่องประโยคโดยทั่วไปเป็นบุคคลหรือสิ่งที่กำลังทำการดำเนินการ วัตถุในประโยคมีส่วนร่วมในการดำเนินการ แต่ไม่ได้เก็บออก วัตถุมาจากกริยา
เด็กผู้ชายปีนต้นไม้ได้
ถ้าคุณต้องการจะพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ (เด็ก) หรือวัตถุ (ต้น), คุณสามารถเพิ่มคำคุณศัพท์การได้
ตัวอย่าง:
เด็กผู้ชายปีนต้นไม้สูงได้
ถ้าคุณต้องการจะพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่เขาปีนต้นไม้ คุณสามารถใช้คำกริยาวิเศษณ์ได้
ชายหนุ่มอย่างรวดเร็วปีนขึ้นสูงต้นไม้.
ประโยคจะน่าสนใจมากขึ้นที่จะช่วยให้ผู้อ่านหรือฟังข้อมูลเพิ่มเติมได้
มีสิ่งต้องกายของประโยคได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นอาคารประโยคเต็มประโยคเต็ม
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีคำใดคำหนึ่งซึ่งจะเริ่มต้นด้วยตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่และจะสิ้นสุดลงด้วยการหยุดที่ครบครัน(.)เครื่องหมายคำถาม(?)หรือเครื่องหมายอัศเจรีย์(!) ประโยคที่ประกอบด้วยหรือหมายถึงมูลฐานและเรื่องที่
ประโยคประกอบด้วยข้อ.
ประโยคแบบเรียบง่ายมีหนึ่งข้อ.
ประโยคและประโยคคอมเพล็กซ์มีสองหรือมากกว่าข้อ.
ประโยคสามารถมีวัตถุและวัตถุ.
เรื่องนี้ในประโยคเต็มที่โดยทั่วไปแล้วจะเป็นเรื่องหรือบุคคลที่พกพาออกจากการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ออบเจกต์ในประโยคที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการแต่ไม่ได้ออกจากวัตถุที่มาพร้อมกับหลังจากคำว่า.
เด็กที่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้.
หากคุณต้องการพูดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้(เด็ก)หรือวัตถุที่(ทรี)คุณจะสามารถเพิ่มคุณศัพท์.
ตัวอย่างเช่น:
เด็กชายที่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้สูง.
หากคุณต้องการที่จะกล่าวว่าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่คุณสามารถใช้กริยาวิเศษณ์.เด็กชาย
ให้ได้อย่างรวดเร็วปีนขึ้นไปบนต้นไม้ทรงสูงที่.
ประโยคเต็มที่มากขึ้นที่น่าสนใจทำให้ผู้ฟังหรือเครื่องอ่านข้อมูลเพิ่มเติม.
ยังมีสิ่งต่างๆอีกมากมายคุณสามารถเพิ่มเพื่อช่วยยกระดับประโยคของคุณ.