However, Chinese historical writers

However, Chinese historical writers say he was a minister of a local king during the days of warfare (time of Confucius and other philosophers).

Sunzi also had a descendent who was named Sunzi, who also wrote a treatise about warfare. So they might have been the same person.

Anyhow, this treatise has been very influential as a philosophy for winning conflicts. It has become popular in the West as advice to be used in business, and also other competitive activities, like sports and politics.

The text treats war as a kind of “art” to be perfected.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนประวัติศาสตร์จีนกล่าวว่า เขาเป็นรัฐมนตรีอุปราชวันสงคราม (เวลาของลัทธิขงจื้อและนักปรัชญาอื่น ๆ)Sunzi ยังมีที่โหนดสืบทอดที่ชื่อว่า Sunzi ที่ยัง เขียนตำรับเกี่ยวกับสงคราม ดังนั้นพวกเขาอาจถูกบุคคลเดียวกันอย่างไรก็ตาม ตำรับนี้ได้รับการทรงอิทธิพลมากเป็นปรัชญาชนะข้อขัดแย้ง มันได้กลายเป็นที่นิยมตะวันตกเป็นคำแนะนำที่จะใช้ในธุรกิจ และกิจกรรมอื่น ๆ แข่งขัน กีฬาและการเมืองข้อปฏิบัติต่อสงครามเป็นแบบ "ศิลปะ" มี perfected แบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่นักเขียนประวัติศาสตร์จีนบอกว่าเขาเป็นรัฐมนตรีของกษัตริย์ท้องถิ่นในช่วงวันของสงคราม (เวลาของขงจื้อนักปรัชญาและอื่น ๆ ). Sunzi ยังมีสืบเชื้อสายมาซึ่งเป็นชื่อ Sunzi ที่ยังเขียนหนังสือเกี่ยวกับสงคราม ดังนั้นพวกเขาอาจได้รับเป็นคนคนเดียวกัน. ทั้งนี้บทความนี้ได้รับอิทธิพลมากเป็นปรัชญาสำหรับการชนะความขัดแย้ง มันได้กลายเป็นที่นิยมในเวสต์เป็นคำแนะนำที่จะใช้ในทางธุรกิจและการแข่งขันยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่นการเล่นกีฬาและการเมือง. ข้อความที่ถือว่าสงครามเป็นชนิดของ "ศิลปะ" ที่จะสมบูรณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนพงศาวดารจีนกล่าวว่าเขาเป็นรัฐมนตรีของกษัตริย์ท้องถิ่นในระหว่างวันของสงคราม ( เวลาของขงจื้อ นักปราชญ์อื่น ๆ )

sunzi ยังมีทายาทที่ชื่อ sunzi ที่ยังเขียนบทความเกี่ยวกับสงคราม ดังนั้นพวกเขาอาจจะเป็นคนๆ เดียวกัน

ยังไง บทความนี้ได้รับอิทธิพลมาก เป็น ปรัชญา เพื่อเอาชนะความขัดแย้งมันได้กลายเป็นที่นิยมในตะวันตกเป็นคำแนะนำเพื่อใช้ในธุรกิจ และยัง กิจกรรมการแข่งขันอื่น ๆ เช่น กีฬา และการเมือง

ข้อความถือว่าสงครามเป็นชนิดของ " ศิลปะ " จะสมบูรณ์ .