1. INTRODUCTION Ecology and biogeog

1. INTRODUCTION


Ecology and biogeography are two fields with many obvious connections, but the relationship between them has often been troubled [1]. On the one hand, those studying large-scale historical (i.e. phylogenetic) biogeography have tended to ignore ecology entirely, with little or no consideration of the idea that distri- butions of organisms are influenced by factors such as habitat tolerances or species interactions. This is well- illustrated in the excellent and integrative textbook by Lomolino et al.[2],inwhichecologygoeslargely unmentioned in the chapter on historical biogeography. On the other hand, ecologists have often tended to ignore biogeography (but with some important excep- tions; [3,4]). For example, ecologists often do not study how large-scale biogeographic history influences the patterns of diversity and community structure that they study, nor how ecological processes create biogeo- graphic patterns (review in [1]). One place where these two fields should come together (but often fail to) is in the concept of the niche. Based on Hutchinson’s [5] general concept, the niche describes the set of abiotic and biotic conditions where a species can persist [6]. Many ecologists favour a concept of the niche based on resources and species interactions at the local scale (i.e. an Eltonian niche concept; [7]). On the other hand, more biogeo- graphically oriented ecologists often prefer a concept
focusing on the environmental conditions determining the large-scale distribution of species (i.e. a Grinnellian niche concept; [7]). I consider these to represent equally validconceptualizationsofdifferentaspectsofthegeneral Hutchinsonian niche concept [6], and they clearly have many important intersections (e.g. local-scale biotic interactions may set range limits). In this paper, I will review what the niche can tell us about biogeography and what biogeography can tell us about the niche. I have previously written about the gulf between biogeography and ecology [1] and how the niche and biogeography may be related [8]. Those papers focusedlargelyon climatic niches, with relatively little emphasis on the potential role of biotic factors and species interactions in creating biogeographic patterns. Here, I will first focus on the importance of the niche to biogeographic patterns, and the factors that set the range limits of species and clades

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1 การแนะนำ


นิเวศวิทยาและวมีสองช่องมีการเชื่อมต่อที่เห็นได้ชัดมาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามักจะได้รับความสุข [1] บนมือข้างหนึ่งผู้ที่ศึกษาขนาดใหญ่ในประวัติศาสตร์ (เช่นสายวิวัฒนาการ) วมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจระบบนิเวศทั้งหมดกับการพิจารณาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีความคิดที่ดิ-butions ชีวิตเป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆเช่นความคลาดเคลื่อนที่อยู่อาศัยหรือการโต้ตอบชนิด นี้อยู่ในตำราเรียนที่ดีและบูรณาการโดย lomolino และอัลดีแสดง. [2] ไม่ได้กล่าวถึงในบท inwhichecologygoeslargely วในประวัติศาสตร์ ในทางกลับกันecologists มักจะมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจว (แต่มีบางอย่างที่สำคัญทั้งนี้ excep [3,4]) ตัวอย่างเช่น ecologists มักจะไม่ได้ศึกษาวิธีชีวภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อรูปแบบของความหลากหลายและชุมชนโครงสร้างที่พวกเขาศึกษาหรือวิธีการสร้างรูปแบบของระบบนิเวศ Biogeo กราฟิก (ทบทวนใน [1])สถานที่ที่ทั้งสองเขตข้อมูลที่ควรจะมาร่วมกัน (แต่มักจะไม่ได้) อยู่ในแนวคิดของช่อง ขึ้นอยู่กับฮัทชินสัน [5] แนวคิดทั่วไปช่องอธิบายถึงชุดของสภาพ abiotic และไบโอติกสายพันธุ์ที่สามารถยังคงมีอยู่ [6] ecologists จำนวนมากสนับสนุนแนวคิดของช่องอยู่บนพื้นฐานของทรัพยากรและการสื่อสารสายพันธุ์ในระดับท้องถิ่น (เช่นแนวคิดช่อง eltonian [7])ในทางกลับกันเชิง Biogeo-กราฟิก ecologists มากขึ้นมักจะชอบแนวคิด
เน้นสภาพแวดล้อมการพิจารณาการกระจายขนาดใหญ่ของสายพันธุ์ (เช่นแนวคิดช่อง grinnellian [7]) ฉันพิจารณาเหล่านี้จะเป็นตัวแทนของแนวคิดช่อง validconceptualizationsofdifferentaspectsofthegeneral Hutchinsonian อย่างเท่าเทียมกัน [6]และพวกเขาก็เห็นได้ชัดว่ามีทางแยกที่สำคัญมาก (เช่นในท้องถิ่นระดับปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาอาจกำหนดวงเงินช่วง) ในบทความนี้ผมจะตรวจสอบว่าช่องสามารถบอกเราเกี่ยวกับววและสิ่งที่สามารถบอกเราเกี่ยวกับช่อง ฉันได้เขียนก่อนหน้านี้เกี่ยวกับอ่าวระหว่างวและนิเวศวิทยา [1] และวิธีการเฉพาะและวอาจจะเกี่ยวข้อง [8]เอกสารเหล่านั้น focusedlargelyon ซอกภูมิอากาศที่มีความสำคัญค่อนข้างน้อยกับบทบาทที่มีศักยภาพของปัจจัยทางชีววิทยาและปฏิสัมพันธ์ชนิดในการสร้างรูปแบบชีวภูมิศาสตร์ ที่นี่ฉันแรกจะมุ่งเน้นไปที่ความสำคัญของช่องที่จะชีวภูมิศาสตร์รูปแบบและปัจจัยที่กำหนดขีด จำกัด ช่วงของชนิดและ clades

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. แนะนำ


นิเวศวิทยาและ biogeography fields สองเชื่อมต่อชัดเจนมาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามักจะมีปัญหา [1] มีแนวคง ผู้ศึกษา biogeography (phylogenetic เช่น) ประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่มีโน้มละเว้นนิเวศวิทยาทั้งหมด มีน้อย หรือไม่มีความคิด distri-butions ของสิ่งมีชีวิต influenced จากปัจจัยต่าง ๆ เช่นโต้ตอบยอมรับหรือสายพันธุ์ที่อยู่อาศัย อยู่ดีภาพประกอบในหนังสือยอดเยี่ยม และแบบบูรณาการโดย Lomolino et al. [2], inwhichecologygoeslargely unmentioned ในบทบน biogeography ประวัติศาสตร์ ในทางตรงข้าม ecologists ได้มักจะมีแนวโน้มจะ ละเว้น biogeography (แต่ มีบางสิ่งสำคัญ excep-tions [3, 4]) . เช่น ecologists มักจะไม่ศึกษา วิธี influences ประวัติศาสตร์ biogeographic ขนาดใหญ่รูปแบบของความหลากหลายและชุมชนโครงสร้างที่พวกเขาศึกษา หรือ วิธีการกระบวนการระบบนิเวศสร้างรูปแบบกราฟิก biogeo (ตรวจสอบใน [1]) เดียวที่ fields สองเหล่านี้ควรมาร่วมกัน (แต่ไม่บ่อย) เป็นแนวคิดของโพรง ตามแนวคิดทั่วไป [5] ของ Hutchinson โพรงอธิบายชุดของเงื่อนไข biotic และ abiotic ที่ชนิดสามารถคงอยู่ [6] แนวคิดของโพรงตามทรัพยากรและโต้ตอบสายพันธุ์ในระดับท้องถิ่น (เช่นการ Eltonian นิชแนว โปรดปรานมาก ecologists [7]). บนมืออื่น ๆ ecologists biogeo-ภาพมุ่งเน้นเพิ่มเติมต้องเป็น
เน้นสภาพแวดล้อมที่กำหนดการกระจายขนาดใหญ่ชนิด (เช่น Grinnellian นิชคอนเซ็ปต์ [7]) การพิจารณาเหล่านี้ถึงอย่างเท่าเทียมกันแนวคิดนิช Hutchinsonian validconceptualizationsofdifferentaspectsofthegeneral [6], และชัดเจนมีหลายแยกที่สำคัญ (เช่นระดับท้องถิ่น biotic โต้อาจกำหนดช่วงขีดจำกัด) ในกระดาษนี้ ฉันจะตรวจสอบเฉพาะสามารถบอกอะไรเราเกี่ยวกับ biogeography และ biogeography ใดสามารถบอกเกี่ยวกับโพรง ก่อนหน้านี้ผมได้เขียนเกี่ยวกับอ่าวระหว่าง biogeography นิเวศวิทยา [1] และวิธีการเฉพาะและ biogeography อาจเกี่ยวข้อง [8] ตรงที่เอกสาร focusedlargelyon climatic ไหน มีค่อนข้างน้อยเน้นบทบาทศักยภาพของโต้ biotic ชนิดและปัจจัยในการสร้างรูปแบบ biogeographic ที่นี่ ผมจะเน้นความสำคัญเฉพาะกับรูปแบบ biogeographic และปัจจัยที่จำกัดช่วงของสปีชีส์และ clades first

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . ชีวโมเลกุล และ


นิเวศวิทยาการแนะนำเป็นสอง fields พร้อมด้วยการเชื่อมต่ออย่างเห็นได้ชัดโดยจำนวนมากแต่ยังมีความสัมพันธ์ระหว่างกันได้รับการกระทบกระเทือนใจ[ 1 ]บ่อยครั้ง ในด้านหนึ่งผู้ที่ศึกษาขนาดใหญ่ทางประวัติศาสตร์(เช่น phylogenetic )ชีวโมเลกุลมีแนวโน้มที่จะไม่สนใจสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงโดยได้รับการพิจารณาเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีความคิดที่ distri - butions ของสิ่งมีชีวิตมี influenced โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆเช่นการปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสายพันธุ์หรือคงที่อยู่. โรงแรมแห่งนี้มีที่ตั้งที่ดี - แสดงไว้ในตำราเรียนที่ดีเยี่ยมและผสมผสานโดย lomolino et al .[ 2 ] inwhichecologygoeslargely มิได้กล่าวถึงในบทที่ชีวโมเลกุลแห่งประวัติศาสตร์ ในอีกด้านหนึ่งได้นักนิเวศวิทยามีแนวโน้มที่จะไม่สนใจชีวโมเลกุลมักจะ(แต่พร้อมด้วยที่สำคัญ excep - 3.4 ใช้งาน[])บางส่วน. ตัวอย่างเช่นนักนิเวศวิทยาบ่อยครั้งไม่ได้การศึกษาได้อย่างไรประวัติ biogeographic ขนาดใหญ่ influences รูปแบบโครงสร้างของชุมชนและความหลากหลายที่พวกเขาเรียนและไม่ได้อย่างไรกระบวนการสร้างรูปแบบระบบนิเวศน์ biogeo - กราฟิก(ดูใน[ 1 ])เป็นสถานที่ซึ่งสอง fields เหล่านี้จะมาร่วมกัน(แต่ก็มักจะล้มเหลวในการ)อยู่ในแนวความคิดของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ ที่ใช้ฮัทชินสันของ[ 5 ]แนวความคิดโดยทั่วไปกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่จะอธิบายถึงที่ตั้งของเงื่อนไข abiotic และบานสะพรั่งที่สายพันธุ์ที่สามารถยืนกราน[ 6 ] นักนิเวศวิทยาจำนวนมากให้แนวความคิดของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ขึ้นอยู่บนพื้นฐานการปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสายพันธุ์และทรัพยากรในท้องถิ่น(เช่นที่ eltonian แนวความคิดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ[ 7 ])ได้อีกด้านหนึ่งที่เพิ่มเติม biogeo - ภาพ กราฟิกเน้นนักนิเวศวิทยามักชอบที่แนวความคิด
โดยเน้นในด้านสิ่งแวดล้อมเงื่อนไขการกำหนดขนาดใหญ่การจัดจำหน่ายพันธุ์ไม้(เช่น grinnellian เฉพาะกลุ่มมากขึ้นตามแนวความคิด;[ 7 ]) ผมพิจารณาเหล่านี้เพื่อเป็นตัวแทนอย่างเท่าเทียมกัน validconceptualizationsofdifferentaspectsofthegeneral hutchinsonian เฉพาะกลุ่มมากขึ้นตามแนวความคิด[ 6 ]และพวกเขาได้อย่างชัดเจนมีจุดตัดทางแยกสำคัญจำนวนมาก(เช่นการโต้ตอบบานสะพรั่งท้องถิ่น - ขนาดอาจตั้งค่าการจำกัดช่วง) ในเอกสารนี้ผมจะตรวจสอบว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่จะบอกเราเกี่ยวกับชีวโมเลกุลและชีวโมเลกุลคืออะไรจะบอกเราเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ ผมได้เขียนไว้เกี่ยวกับอ่าวระหว่างด้านนิเวศวิทยาและชีวโมเลกุล[ 1 ]และชีวโมเลกุลและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่อาจเกี่ยวข้องกับ[ 8 ]ได้หนังสือพิมพ์ focusedlargelyon มุมเวิ้งบนกำแพงอากาศค่อนข้างน้อยพร้อมด้วยการเน้นย้ำถึงบทบาทที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยบานสะพรั่งและการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสายพันธุ์ในการสร้างรูปแบบ biogeographic ที่นี่ผมจะ first เน้นไปที่ความสำคัญของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่จะมีรูปแบบ biogeographic และปัจจัยที่ตั้งค่าขีดจำกัดความหลากหลายของ clades และสายพันธุ์