ScenariosBalancing competing intere

Scenarios
Balancing competing interests often become difficult in three situations. The first situation is when the founder wants to change the nature of their involvement in the business. Usually the founder begins this transition by involving others to manage the business. Involving someone else to manage the company requires the founder to be more conscious and formal in balancing personal interests with the interests of the business because they can no longer do this alignment automatically—someone else is involved.
The second situation is when more than one person owns the business and no single person has the power and support of the other owners to determine collective interests. For example, if a founder intends to transfer ownership in the family business to their four children, two of whom work in the business, how do they balance these unequal differences? The four siblings need a system to do this themselves when the founder is no longer involved.
The third situation is when there are multiple owners and some or all of the owners are not in management. Given the situation above, there is a higher chance that the interests of the two off-spring not employed in the family business may be different from the interests of the two who are employed in the business. Their potential for differences does not mean that the interests cannot be aligned, it just means that there is a greater need for the four owners to have a system in place that differences can be identified and balanced.
These three scenarios can be mitigated by following the guidelines of TMP, or "The Maria Principle"

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สถานการณ์สนใจแข่งขันดุลมักจะยากในสถานการณ์ 3 สถานการณ์แรกคือเมื่อผู้ก่อตั้งต้องการจะเปลี่ยนลักษณะของการมีส่วนร่วมในธุรกิจ โดยปกติผู้ก่อตั้งเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเกี่ยวข้องกับผู้อื่นในการจัดการธุรกิจ เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นการจัดการบริษัทต้องการผู้ก่อตั้งมีสติมากขึ้น และเป็นทางการในการสร้างสมดุลของผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ของธุรกิจเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทำตำแหน่งนี้โดยอัตโนมัติ — ใครมีส่วนร่วมสถานการณ์ที่สองคือ เมื่อคนหนึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจคนเดียวไม่มีพลังและสนับสนุนของเจ้าอื่น ๆ เพื่อกำหนดผลประโยชน์รวม ตัวอย่าง ถ้าเป็นผู้ก่อตั้งมีจุดมุ่งหมายเพื่อโอนย้ายความเป็นเจ้าของในธุรกิจครอบครัวไป 4 ลูก สองคนทำธุรกิจ วิธีทำพวกเขาสมดุลต่างไม่เท่ากัน พี่น้องสี่จำเป็นระบบจะทำนี้เองเมื่อผู้ก่อตั้งไม่เกี่ยวข้องสถานการณ์ที่สามคือเมื่อมีหลายเจ้าของบางส่วน หรือทั้งหมดของเจ้าของไม่อยู่ในการจัดการ กำหนดสถานการณ์ข้างต้น มีโอกาสสูงที่สนใจของสองปิดสปริงไม่ทำงานในธุรกิจครอบครัวอาจจะแตกต่างจากผลประโยชน์ของทั้งสองที่ว่าจ้างในธุรกิจ ศักยภาพของพวกเขาสำหรับความแตกต่างไม่ได้หมายความ ว่า ไม่สามารถจัดผลประโยชน์ มันก็หมายความ ว่า มีความจำเป็นมากสำหรับเจ้า 4 มีระบบในสถานที่แตกต่าง และให้ความสมดุลสามารถบรรเทาสถานการณ์สามเหล่านี้ตามแนวทางของ tmp ถ้า หรือ "เดอะมาเรียหลัก"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถานการณ์การแข่งขันมักจะกลายเป็นเรื่องยาก
ดุลหักใน 3 สถานการณ์ สถานการณ์แรกคือเมื่อผู้ก่อตั้งต้องการเปลี่ยนลักษณะของการมีส่วนร่วมในธุรกิจ โดยปกติผู้ก่อตั้งเริ่มเปลี่ยนนี้เกี่ยวข้องกับผู้อื่นเพื่อจัดการธุรกิจเกี่ยวข้องกับคนอื่นจัดการ บริษัท ต้องมีผู้ก่อตั้งเป็นสติมากขึ้นและเป็นทางการในสมดุลผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ของธุรกิจเพราะพวกเขาไม่สามารถทำตำแหน่งนี้โดยอัตโนมัติ ใครเกี่ยวข้อง
สถานการณ์ที่สองคือเมื่อมากกว่าหนึ่งคนเป็นเจ้าของธุรกิจและไม่มีคนเดียวมีอำนาจและการสนับสนุนของเจ้าของอื่น ๆเพื่อตรวจสอบผลประโยชน์ร่วมกัน ตัวอย่างเช่นถ้าผู้ก่อตั้งตั้งใจที่จะโอนความเป็นเจ้าของในธุรกิจครอบครัวเด็กทั้งสี่ของพวกเขาสองของผู้ทำงานในธุรกิจทำไมมันไม่เท่ากันดุลความแตกต่างเหล่านี้สี่พี่น้องต้องการระบบที่จะทำนี้เองเมื่อผู้ก่อตั้งไม่เกี่ยวข้อง
สถานการณ์ที่สามคือเมื่อมีหลายเจ้าของและบางส่วนหรือทั้งหมดของเจ้าของไม่ได้อยู่ในการจัดการ จากสถานการณ์ข้างต้นมีความเสี่ยงสูงที่ผลประโยชน์ของทั้งสองปิดฤดูใบไม้ผลิไม่ได้เป็นพนักงานในธุรกิจครอบครัวที่อาจจะแตกต่างจากผลประโยชน์ของทั้งสองที่ใช้ในธุรกิจ ศักยภาพที่แตกต่างกัน ไม่ได้หมายความว่าผลประโยชน์ไม่สามารถชิด ,มันก็หมายความว่ามีความต้องการสี่เจ้าของต้องมีระบบในสถานที่ที่แตกต่างกันสามารถระบุและสมดุล
เหล่านี้สามสถานการณ์สามารถ mitigated โดยตามแนวทางของ tmp , หรือ " หลักการ " มาเรีย