Haberer et al. (1999) recently repo

Haberer et al. (1999) recently reported that propionate was the predominant volatile fatty acid in the intestine of the pig. However, the results of the present study do not support their findings but rather agree with the finding of Friend et al. (1963) who reported that acetate was the predominant volatile fatty acid in the pig intestine.

In conclusion, the overall results of this study show that antibiotics are generally effective in improving weanling pig performance. Not all antibiotics are equally effective. Therefore antibiotics should be utilized by their efficacy. This study supports the concept that the growth promoting effects of antibiotics are modulated by their effects on the intestinal microflora.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Haberer et al. (1999) เมื่อเร็ว ๆ นี้รายงาน propionate ที่มีกรดไขมันระเหยกันในลำไส้ของหมู อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการศึกษาปัจจุบันไม่สนับสนุนการเปิดเผย แต่ค่อนข้าง เห็นด้วยกับการค้นหาของเพื่อน et al. (1963) ที่รายงานว่า acetate เป็นกรดไขมันระเหยกันในลำไส้ของหมูเบียดเบียน ผลลัพธ์โดยรวมของการศึกษานี้แสดงว่า ยาปฏิชีวนะมีประสิทธิภาพโดยทั่วไปในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของหมู weanling ยาปฏิชีวนะไม่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน ดังนั้น ควรใช้ยาปฏิชีวนะ โดยประสิทธิภาพของพวกเขา การศึกษานี้สนับสนุนแนวคิดที่ว่า ผลส่งเสริมการเจริญเติบโตของยาปฏิชีวนะจะสันทัด โดยผล microflora ลำไส้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Haberer et al, (1999) เมื่อเร็ว ๆ นี้รายงาน propionate ที่เป็นกรดไขมันระเหยที่โดดเด่นในลำไส้หมู อย่างไรก็ตามผลการศึกษาในปัจจุบันไม่สนับสนุนการค้นพบ แต่เห็นด้วยกับการค้นพบของเพื่อนและอัล (1963) ที่รายงานอะซิเตทที่เป็นกรดไขมันระเหยที่โดดเด่นในลำไส้หมู. สรุปผลโดยรวมของการศึกษาครั้งนี้แสดงว่ายาปฏิชีวนะโดยทั่วไปจะมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของสุกรหลังหย่านม ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะทั้งหมดที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน ดังนั้นยาปฏิชีวนะควรจะนำมาใช้โดยประสิทธิภาพของพวกเขา การศึกษานี้สนับสนุนแนวคิดที่ว่าผลกระทบส่งเสริมการเจริญเติบโตของยาปฏิชีวนะที่มีการปรับโดยผลกระทบต่อจุลินทรีย์ในลำไส้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

haberer et al . ( 1999 ) เมื่อเร็ว ๆนี้รายงานว่า propionate เป็นโดดกรดไขมันระเหยในลำไส้ของหมู อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาปัจจุบันไม่สนับสนุนการค้นพบของพวกเขา แต่เห็นด้วยกับการหาเพื่อน et al . ( 1963 ) ที่รายงานว่าอะซิเตทเป็นโดดกรดไขมันระเหยในไส้หมู

สรุปโดยผลการศึกษาพบว่า ยาปฏิชีวนะโดยทั่วไปมีประสิทธิภาพในการปรับปรุงประสิทธิภาพของลูกสุกร ยาปฏิชีวนะไม่ใช่ทั้งหมดมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน ดังนั้นจึงควรใช้ยาปฏิชีวนะโดยประสิทธิภาพของพวกเขา การศึกษานี้สนับสนุนแนวคิดที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของผลของยาปฏิชีวนะจะปรับโดยผลของจุลินทรีย์ในลำไส้