A large portion of this rapid expan

A large portion of this rapid expansion was due to increased production of rice in northeast Thailand[7] While in the past, central Thailand was the main producer of rice, northeast Thailand quickly caught up. This was in part due to new road systems connecting northeast Thailand to ports on the coastline. Villages that produced significant rice crops were also changing as farmers evolved from more subsistence practices to mostly wage labor. Exchange labor also virtually disappeared.[7]

Cows were being replaced by farm tractors and irrigation technology was updated in most villages. The green revolution was just starting to bloom in the world's farm fields. Rice farmers and merchants took advantage of new rice varieties, strains, fertilizers, and other advances.[7] The International Rice Research Institute (IRRI) disseminated knowledge, technology, new rice strains, and other information to rice producers in Thailand. From the 1950s to 1970s, rice production per unit of land increased by almost 50%.[5]

Thailand exported 10.8 million tons of milled rice valued at US$5.37 billion in 2014, the highest figures in its history. The Thai Commerce Ministry expects this to vault Thailand back to the number one spot among rice exporting nations. 2014 rice exports represented an increase of 64% in volume and 22% value in compared to 6.6 million tonnes worth US$4.42 billion exported in 2013.[8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนใหญ่มาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย [7] ในขณะที่ในอดีตที่ผ่านมาภาคกลางของประเทศไทยเป็นผู้ผลิตหลักของข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยจับได้อย่างรวดเร็วขึ้น นี่คือส่วนหนึ่งเนื่องมาจากระบบการเชื่อมต่อถนนสายใหม่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยไปยังท่าเรือบนชายฝั่ง หมู่บ้านที่ผลิตข้าวอย่างมีนัยสำคัญยังมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเกษตรกรวิวัฒนาการมาจากการปฏิบัติมากขึ้นในการดำรงชีวิตส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างแรงงาน แลกเปลี่ยนแรงงานยังหายไปจริง. [7] วัวถูกแทนที่ด้วยรถแทรกเตอร์ฟาร์มและเทคโนโลยีการชลประทานได้รับการปรับปรุงในหมู่บ้านมากที่สุด การปฏิวัติสีเขียวเป็นเพียงการเริ่มต้นที่จะบานสะพรั่งในทุ่งนาของโลก เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและร้านค้าใช้ประโยชน์จากพันธุ์ข้าวใหม่สายพันธุ์, ปุ๋ย, และความก้าวหน้าอื่น ๆ . [7] สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสายพันธุ์ข้าวและข้อมูลอื่น ๆ ให้กับผู้ผลิตข้าวในประเทศไทย จากปี 1950 ที่จะปี 1970 การผลิตข้าวต่อหน่วยของที่ดินที่เพิ่มขึ้นเกือบ 50%. [5] ไทยส่งออก 10,800,000 ตันข้าวสารมูลค่า US $ 5370000000 ในปี 2014 ตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ไทยกระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะกระโดดนี้ประเทศไทยกลับไปจำนวนหนึ่งจุดท่ามกลางประชาชาติการส่งออกข้าว 2014 เป็นตัวแทนส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นจาก 64% ในปริมาณและมูลค่า 22% เมื่อเทียบกับ 6,600,000 ตันมูลค่า $ 4420000000 ส่งออกในปี 2013 [8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนใหญ่ของการขยายตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเพิ่มผลผลิตของข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ [ 7 ] ในขณะที่ในอดีต กลาง ไทยเป็นผู้ผลิตข้าวหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างรวดเร็วจับ นี่คือในส่วนหนึ่งเนื่องจากระบบถนนใหม่เชื่อมต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปยังท่าเรือบนชายฝั่งหมู่บ้านที่ผลิตพืชผลข้าวสำคัญยังเปลี่ยนเป็นเกษตรกร พัฒนาจากการปฏิบัติยังชีพเพิ่มเติม ส่วนใหญ่ค่าจ้างแรงงาน แรงงานตราก็แทบหายไป [ 7 ]

วัวถูกแทนที่โดยฟาร์มรถแทรกเตอร์และชลประทานเทคโนโลยีได้รับการปรับปรุงมากที่สุด หมู่บ้าน การปฏิวัติเขียวก็เริ่มเบ่งบานในโลกฟาร์มเขตชาวนาและพ่อค้าได้ประโยชน์ใหม่ของข้าวสายพันธุ์ ปุ๋ย และความก้าวหน้าอื่น ๆ . [ 7 ] สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ ( IRRI ) เผยแพร่ความรู้ เทคโนโลยี ข้าวสายพันธุ์ใหม่ และข้อมูลอื่น ๆที่จะผลิตข้าวในประเทศไทย จาก 1950 ถึง 1970 , การผลิตข้าวต่อหน่วยของที่ดินที่เพิ่มขึ้นเกือบ 50 % [ 5 ]

ประเทศไทยส่งออก 108 ล้านตันข้าวสารมูลค่า $ 5.37 พันล้านดอลลาร์ใน 2014 , ตัวเลขสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ ไทยกระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะเซฟไทยกลับมาส่งออกข้าวจำนวนหนึ่งจุดระหว่างประชาชาติ จำกัดการส่งออกข้าวแทนเพิ่มขึ้น 64% ในปริมาณและร้อยละ 22 มูลค่าเมื่อเทียบกับ 6.6 ล้านตัน มูลค่า US $ 4.42 พันล้านส่งออกในปี 2013 [ 8 ]