บทคัดย่อชื่อเรื่อง : ประโยชน์ของขมิ

บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : ประโยชน์ของขมิ้น
ผู้วิจัย : ด.ร. ศศิภา พลภานุ
ปีที่พิมพ์ : 2542
หน่วยงาน : รายงานการวิจัย - มหาวิทยาลัยทักษิณ
จำนวน : 140 หน้า
วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้นทางยาและที่ใช้กันในทางแพทย์แผนโบราณ กลุ่มตัวอย่าที่วิจัยคือ มหาวิทยาลัยทักษิณ โดยผลงานนักศึกษาที่วิจัยเกี่ยวกับเรื่องสรรพคุณของขมิ้นโดยเฉพาะขมิ้นชันที่นำมาใช้ต้องมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากให้คุณภาพน้ำมันดีที่สุดในโลก อายุที่เหมาะสมอยู่ที่ 9-12 เดือน ส่วนน้ำมันมีคุณภาพดีแค่ไหน ขึ้นอยู่ที่กรรมวิธีการสกัดขมิ้นชัน 1 กิโลกรัม จะได้สารสกัดที่นำมาผ่านขบวนการ ในห้องแล็บเป็นองค์ประกอบทางเคมีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์การปฏิบัติ ใช้ เซลล์เม็ดเลือดขาวมนุษย์ นำมาเพาะเลี้ยง แล้ว นำมาทดลองกับอนุมูลอิสระตัวที่แรงที่สุด คือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะ จากนั้น ดูว่าสารสกัดจากขมิ้นชันสามารถป้องกันการทำลาย DNA จากอนุมูลอิสระตัวนี้ได้ดี...วิธีการนี้ถือว่าเป็นมาตรฐานสากล
จากการวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระจากสมุนไพรในบ้านเราไม่ใช่มีเพียงแค่ในขมิ้นชันเท่านั้น แต่สารดังกล่าวมีอยู่ในพืชสีเขียวหลายชนิด ในวงการแพทย์แผนไทยได้วิเคราะห์ ว่าถ้าจะให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างได้ผล ต้องกินอย่างน้อย ผัก 5 อย่าง และผลไม้ 5 อย่าง แต่ละสีต้องไม่ซ้ำกัน หากปฏิบัติตามทฤษฎีนี้ก็ค่อนข้างที่จะยุ่งยากไม่น้อย ฉะนั้นมนุษย์ที่ชอบความสะดวกจึงหันมาเปิบอาหารเสริมกัน แต่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมส่วนใหญ่จะเป็นสารสังเคราะห์ไม่ใช่สารจากธรรมชาติ เพราะหากต้องการใช้สารใปริมาณที่เท่ากัน แต่ถ้าเอามาจากสัดส่วนที่มีอยู่ในธรรมชาติก็ต้องใช้ปริมาณมากจึงเพียงพอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อชื่อเรื่อง: ประโยชน์ของขมิ้นผู้วิจัย: ด.รศศิภาพลภานุปีที่พิมพ์: 2542หน่วยงาน: รายงานการวิจัย - มหาวิทยาลัยทักษิณจำนวน: 140 หน้า วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้นทางยาและที่ใช้กันในทางแพทย์แผนโบราณกลุ่มตัวอย่าที่วิจัยคือมหาวิทยาลัยทักษิณโดยผลงานนักศึกษาที่วิจัยเกี่ยวกับเรื่องสรรพคุณของขมิ้นโดยเฉพาะขมิ้นชันที่นำมาใช้ต้องมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีเนื่องจากให้คุณภาพน้ำมันดีที่สุดในโลกอายุที่เหมาะสมอยู่ที่ 9-12 เดือนส่วนน้ำมันมีคุณภาพดีแค่ไหนขึ้นอยู่ที่กรรมวิธีการสกัดขมิ้นชัน 1 กิโลกรัมจะได้สารสกัดที่นำมาผ่านขบวนการในห้องแล็บเป็นองค์ประกอบทางเคมีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์การปฏิบัติใช้เซลล์เม็ดเลือดขาวมนุษย์นำมาเพาะเลี้ยงแล้วนำมาทดลองกับอนุมูลอิสระตัวที่แรงที่สุดคือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งโดยเฉพาะจากนั้นดูว่าสารสกัดจากขมิ้นชันสามารถป้องกันการทำลายดีเอ็นเอจากอนุมูลอิสระตัวนี้ได้ดี...วิธีการนี้ถือว่าเป็นมาตรฐานสากล จากการวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระจากสมุนไพรในบ้านเราไม่ใช่มีเพียงแค่ในขมิ้นชันเท่านั้นแต่สารดังกล่าวมีอยู่ในพืชสีเขียวหลายชนิดในวงการแพทย์แผนไทยได้วิเคราะห์ว่าถ้าจะให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างได้ผลต้องกินอย่างน้อยผัก 5 เชิงแบบอย่างทางและผลไม้ 5 เชิงแบบอย่างทางแต่ละสีต้องไม่ซ้ำกันหากปฏิบัติตามทฤษฎีนี้ก็ค่อนข้างที่จะยุ่งยากไม่น้อยฉะนั้นมนุษย์ที่ชอบความสะดวกจึงหันมาเปิบอาหารเสริมกันแต่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมส่วนใหญ่จะเป็นสารสังเคราะห์ไม่ใช่สารจากธรรมชาติเพราะหากต้องการใช้สารใปริมาณที่เท่ากันแต่ถ้าเอามาจากสัดส่วนที่มีอยู่ในธรรมชาติก็ต้องใช้ปริมาณมากจึงเพียงพอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง: ประโยชน์ของขมิ้น
ผู้วิจัย: ด.ร. ศศิภาพลภานุ
ปีที่พิมพ์: 2542
หน่วยงาน: รายงานการวิจัย - มหาวิทยาลัยทักษิณ
จำนวน 140 หน้า
วัตถุประสงค์ของการวิจัย กลุ่มตัวอย่าที่วิจัยคือมหาวิทยาลัยทักษิณ อายุที่เหมาะสมอยู่ที่ 9-12 เดือนส่วนน้ำมันมีคุณภาพดีแค่ไหน 1 กิโลกรัมจะได้สารสกัดที่นำมาผ่านขบวนการ 1 เปอร์เซ็นต์การปฏิบัติใช้เซลล์เม็ดเลือดขาวมนุษย์นำมาเพาะเลี้ยงแล้ว โดยเฉพาะจากนั้น ดีเอ็นเอ
ในวงการแพทย์แผนไทยได้วิเคราะห์ ต้องกินอย่างน้อยผัก 5 อย่างและผลไม้ 5 อย่างแต่ละสีต้องไม่ซ้ำกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อชื่อเรื่อง : ประโยชน์ของขมิ้นผู้วิจัย : ด . ใช้ . ศศิภาพลภานุ

หน่วยงานปีที่พิมพ์ : 2542 : รายงานการวิจัย - มหาวิทยาลัยทักษิณจำนวน 140 หน้า

:วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้นทางยาและที่ใช้กันในทางแพทย์แผนโบราณกลุ่มตัวอย่าที่วิจัยคือมหาวิทยาลัยทักษิณเนื่องจากให้คุณภาพน้ำมันดีที่สุดในโลกอายุที่เหมาะสมอยู่ที่ 9-12 เดือนส่วนน้ำมันมีคุณภาพดีแค่ไหนขึ้นอยู่ที่กรรมวิธีการสกัดขมิ้นชัน 1 กิโลกรัมจะได้สารสกัดที่นำมาผ่านขบวนการ1 เปอร์เซ็นต์การปฏิบัติใช้เซลล์เม็ดเลือดขาวมนุษย์นำมาเพาะเลี้ยงแล้วนำมาทดลองกับอนุมูลอิสระตัวที่แรงที่สุดคือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งโดยเฉพาะจากนั้นจากอนุมูลอิสระตัวนี้ได้ดีดีเอ็นเอ. . . . . . . วิธีการนี้ถือว่าเป็นมาตรฐานสากล
จากการวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระจากสมุนไพรในบ้านเราไม่ใช่มีเพียงแค่ในขมิ้นชันเท่านั้นแต่สารดังกล่าวมีอยู่ในพืชสีเขียวหลายชนิดในวงการแพทย์แผนไทยได้วิเคราะห์ต้องกินอย่างน้อยผัก 5 อย่างและผลไม้ 5 อย่างแต่ละสีต้องไม่ซ้ำกันหากปฏิบัติตามทฤษฎีนี้ก็ค่อนข้างที่จะยุ่งยากไม่น้อยฉะนั้นมนุษย์ที่ชอบความสะดวกจึงหันมาเปิบอาหารเสริมกันเพราะหากต้องการใช้สารใปริมาณที่เท่ากันแต่ถ้าเอามาจากสัดส่วนที่มีอยู่ในธรรมชาติก็ต้องใช้ปริมาณมากจึงเพียงพอ